All Posts

Archives

  • Home
  • นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์

เด็กทารกแห่งเมืองหมองหม่น

เด็กทารกแห่งเมืองหมองหม่นเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่สะท้อนปัญหาอันหลากหลายของสังคมเมือง ทั้งปัญหาด้านการเมือง เศรษฐกิจ ครอบครัว การศึกษา วิกฤตทางจิตใจและทางปัญญาของคนในสังคม ผู้แต่งเสนอให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย และเกิดจากระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมไทย ปัญหาที่รุมเร้าผูกโยงอย่างต่อเนื่องเป็นลูกโซ่นี้ส่งผลในด้านลบต่อเด็กและเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ผู้แต่งนำเสนอเนื้อหาได้อย่างเข้มข้นผ่านการใช้นิทานเปรียบเทียบ และการใช้สัญลักษณ์ ก่อให้เกิดเอกภาพด้านเนื้อหาและกลวิธีการประพันธ์ ความหฤหรรษ์จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ได้จากการอ่านสองระดับ คือ ระดับการอ่านในฐานะที่เป็นนิทานสมัยใหม่ และระดับที่ต้องตีความสารอันซับซ้อนและลุ่มลึก แต่ไม่ว่าจะอ่านในระดับใดก็ตาม เด็กทารกแห่งเมืองหมองหม่นก็เป็นวรรณกรรมที่มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบการประพันธ์

กระเบื้องถ้วยกะลาแตก

หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลของผู้เขียน คือตระกูล “พิศาลบุตร” ทว่าต้นตระกูลนี้เป็นผู้นำเครื่องลายครามเข้ามาขายในกรุงสยาม และเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการค้าสำเภาสมัยรัชกาลที่ 4 เรื่องของตระกูลหนึ่งจึงกลายเป็นสารคดีสะท้อนประวัติศาสตร์การค้าสำเภา และประวัติความสัมพันธ์จีนกับกรุงสยาม สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้เป็นอย่างดี โดยใช้กลวิธีเล่าผ่านเครื่องลายครามอย่างมีศิลปะ ชวนอ่านด้วยภาษาสำนวนและชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ทั้งยังมีกระบวนการเก็บและค้นคว้าข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อ่านแล้วจุดประกายความคิด และพัฒนาสำนึกเชิงสร้างสรรค์ แม้หัวข้อที่นำเสนอเกี่ยวกับเครื่องลายคราม ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กของนักสะสมของโบราณ แต่ผู้เขียนกลับสะท้อนภาพประวัติศาสตร์ใหญ่ของสังคมไทยที่เกี่ยวพันกับประเทศอื่น ๆ เช่น จีน ยุโรป ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องลายครามในอดีตได้อย่างเพลิดเพลิน สนุกสนาน และยังจัดทำภาพประกอบอย่างพิถีพิถัน หาดูได้ยาก ทำให้เป็นหนังสือสารคดีที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เล่มหนึ่ง

ไอน์สไตน์ หลุมดำ และบิกแบง

สารคดีชีวิต อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญผู้ค้นพบทฤษฎีอันส่งผลสะเทือนต่อโลกปัจจุบันมากที่สุดคือทฤษฎีสัมพัทธภาพ หนังสือเล่มนี้ลงลึกในเรื่องความคิดและทฤษฎีของเขามากกว่าที่เคยมีการนำเสนอกันมา แม้จะมีเนื้อหาสาระทางวิชาการมากพอควร แต่ผู้เขียนเล่าเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ และถึงแม้ท่วงทีลีลาการเขียน อาจไม่ถึงกับสนุกสนานเป็นกันเอง แต่ก็มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์อันเหมาะควรกับการเป็นสารคดีเชิงวิทยาศาสตร์ และมีสาระความรู้บรรจุอยู่เต็มเปี่ยม แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังชวนให้ติดตามอ่านด้วยการใช้ “ชีวิต” ของไอน์สไตน์มาอธิบาย “ความคิด” ของไอน์สไตน์อย่างแยบยล ทำให้หนังสือมีความน่าสนใจ ดึงดูดใจให้อ่านไปตลอดเล่ม และมีบทบาทสำคัญสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ในฐานะ “ศาสตร์” ที่สร้างสรรค์โลกอย่างมีเหตุและผล ไม่ใช่ศาสตร์เพื่อการทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง

เจ้าเอย…เจ้ากรงหัวจุก

  เจ้าเอย…เจ้ากรงหัวจุก ของ ชิด ชยากร เป็นวรรณกรรมสำหรับเยาวชนที่ผู้เขียนมุ่งหมายจะเปิดโลกทัศน์ให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงความมีชีวิตอยู่ของสัตว์โลกชนิดอื่น ๆ นอกเหนือไปจากสัตว์โลกที่เรียกตนเองว่ามนุษย์ ผ่านโครงเรื่องที่จินตนาการขึ้นจากมุมมองของเจ้าบุญรอด นกกรงหัวจุกที่มีวิธีคิดแบบมนุษย์ บุญรอด นกกรงหัวจุกที่รอดตายจากพายุร้าย แม้จะหนีไปสร้างรังอยู่ห่างไกลถึงชายป่า ก็ยังไม่พ้นจากเงื้อมมือมนุษย์ที่หวังเพียงประโยชน์จากเสียงร้องตามธรรมชาติของนก ทำให้บุญรอดต้องสูญเสียอิสรภาพและพลัดพรากจากครอบครัวด้วยความรู้ไม่เท่าทันเล่ห์กลมนุษย์ ผู้เขียนเล่าเรื่องให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ทำให้ผู้อ่านสะเทือนใจจากการรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของสัตว์ที่ถูกกักขัง การดิ้นรนต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระ การสร้างความมีเมตตาให้เกิดขึ้นในใจผู้อ่าน ที่คอยเอาใจช่วยเจ้าบุญรอดให้รอดพ้นจากที่กักขัง และด้วยพลังแห่งความรัก ความสามัคคีของเหล่านกกรงหัวจุกที่กล้าหาญ อดทน ทำให้บุญรอดและผองเพื่อนรอดพ้นภัยมาได้ เนื้อหาของเรื่อง “เจ้าเอย…เจ้ากรงหัวจุก” น่าตื่นเต้นชวนให้ติดตามโดยตลอดผู้เขียนมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงนกกรงหัวจุกเป็นอย่างดี กอปรกับการใช้ภาษาที่ประณีตสละสลวย ข้อคิดเกี่ยวกับความเมตตา และความรักอิสรภาพของทุกชีวิตที่ผู้อ่านจะได้รับ ทำให้วรรณกรรมสำหรับเยาวชนเรื่องนี้ สมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2