คนเล็กหัวใจมหึมามหาสมุทร
คนเล็กหัวใจมหึมามหาสมุทรเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเอกภาพทั้งในด้านเนื้อหาและกลวิธีการนำเสนออย่างชัดเจน ผู้แต่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่แง่คิด และ จิตวิญญาณของเหล่าชาวประมง และกลุ่มผู้มีสถานภาพอันต่ำต้อย ซึ่งแม้จะเป็นเพียงคนเล็กๆ ในสังคม แต่กลับดูยิ่งใหญ่มหาศาลในด้านน้ำใจอันใส่ชื่อบริสุทธิ์ที่มีต่อเพื่อนร่วมอาชีพและเพื่อนร่วมโลกผู้ประสบความเดือดร้อนและทุกข์ยาก ด้วยลีลาการนำเสนอที่เรียบง่ายและสำนวนภาษาที่สามัญ แต่คมบาดลึกอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่าน ทำให้เกิดความหดหู่และปิติตื้นต้นได้อย่างน่าประทับใจ
หมาป่ากลางมหาสมุทร
ชื่อของประชาคม ลุนาชัย กับประสบการณ์ลูกเรือประมงมาคู่กัน นวนิยายเกี่ยวกับเรื่องลูกทะเล หลายเรื่องของเขาได้รับรางวัลทั้งจากการประกวดหนังสือดีเด่นของกระทรวงศึกษาธิการ และเซเว่นบุ๊คอวอร์ด จนนักอ่านหลายคนคิดว่า คลังลูกเรือประมงของเขาต้องหมดและไม่มีช่องว่างให้เขียนอีก แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเขายังสร้างความแตกต่างได้ หมาป่ากลางมหาสมุทร เป็นนวนิยายที่ใช้ฉากและบรรยากาศของชีวิตลูกเรือประมงเป็นพื้นหลังเพื่อสะท้อนแก่นแท้ของเรื่องคือจิตใจส่วนลึกของความเป็นมนุษย์ ผู้เขียนใช้วิธีเล่าผ่านมุมมองของตัวละครเอกด้วยสรรพนามบุรุษที่หนึ่งเพื่อให้สามารถลงลึกถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างถึงที่สุด โดยให้เขาเป็นผู้เล่าเชิงวิเคราะห์ชีวิตของลูกเรือทุกคน นับแต่กัปตันไปจนกระทั่งลูกเรือตัวเล็ก ๆ อันเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคทั้งจากสภาพทะเลและจากมนุษย์ด้วยกันเอง แต่ก็ยังสามารถดำเนินไปได้อย่างมีความหวัง หลังจากนั้นผู้เขียนได้พลิกเรื่องสะท้อนภาพของมนุษย์ที่มีจิตใจเป็นสัตว์ซึ่งเป็นฆาตกรฆ่าทุกคนบนเรือ มีตัวละครเอกรอดคนเดียว และเกิดสถานการณ์โชคล้อ (Irony) เมื่อตัวละครเอกและฆาตกรกระโดดหนีความตายมาเกาะอยู่บนแพเดียวกัน ภาวะนี้เอง ตัวละครเอกจึงแสดงความเป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุดผ่านจิตใจภายใน ท่ามกลางความโหดร้ายของทะเลและการเอาตัวรอดทั้งจากทะเลและศัตรู เขาต้องต่อสู้กับความมีจิตเป็นมนุษย์กับความมีจิตเป็นสัตว์ร้ายระหว่างการเอาชีวิตรอด คล้ายเฒ่าผจญทะเลของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ กับเศรษฐศาสตร์กลางทะเลลึกของอาจินต์ ปัญจพรรค์ ไปพร้อมกัน และกลายเป็นหมาป่ากลางมหาสมุทรแบบประชาคม ลุนาชัย ได้อย่างทระนงองอาจ ท้ายสุด ผู้เขียนได้นำไปสู่การลงจบที่ดี อาจกล่าวได้ว่า เมื่อได้ค้นพบความเป็นหมาป่าในจิตใจมนุษย์แล้ว ผู้เขียนประสงค์จะให้รางวัลแก่ตัวละครโดยให้ทุกอย่างลงเอยอย่างงดงาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ หมาป่ากลางมหาสมุทร ของ ประชาคม ลุนาชัย ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖
บินไปเหนือสะพานข้ามดาว
“บินไปเหนือสะพานข้ามดาว” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นจำนวน ๑๒ เรื่อง ของ ประชาคม ลุนาชัย สะท้อนให้เห็นแง่มุมของความเป็นมนุษย์และภาพสังคมหลากหลาย นอกจากเรื่องที่มีกลิ่นอายแห่งท้องทะเลและชีวิตที่กร้านแดดฝนบนเรือประมงแล้ว ผู้เขียนยังนำบอกเล่าเรื่องราวและคิดค้นแง่มุมเนื้อหาสาระในแต่ละเรื่องให้ร่วมสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็นำเอาสัตว์ต่าง ๆ มาเป็นสัญลักษณ์สะท้อนให้เห็นชีวิตผู้คนและด้านมืดที่้เกิดขึ้นในยุคนี้ ทั้งยังแสดงทัศนะที่มีต่อเหตุการณ์ทางการเมือง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความอยุติธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น บางเรื่องได้ใช้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงของโลกมาต่อยอดความคิดเป็นเรื่องใหม่อีกด้วย ผู้เขียนมีความคิดที่ลุ่มลึกนำเสนอเรื่องราวด้วยกระบวนวิธีเรียบง่าย ผ่านภาษาประณีตงดงาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “บินไปเหนือสะพานข้ามดาว” ของ ประชาคม ลุนาชัย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔
ไต้ก๋ง
“ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด และส่วนใดของทะเล เขาจะต้องร่าเริง เปี่ยมด้วยพลังเหมือนเกลียวคลื่น…” นี่คือความคิดคำนึง และปณิธาณของ “กิ่ง” เด็กหนุ่มลูกเรือประมงที่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้าของตน “ไต้ก๋ง” นวนิยายของ “ประชาคม ลุนาชัย” บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเผชิญความ ท้าทาย ชะตากรรมอันหนักหน่วง ดุจจะทดสอบความมั่นคงแห่งจิตใจอันมุ่งมั่นหาญกล้าของเขา จากลูกเรือสู่หน้าที่อันสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้เป็น “ไต้ก๋ง” ผู้นำเรือลำที่โอ่อ่าพรั่งพร้อมด้วยเครื่องมือประมงอันทันสมัย คืนวันผ่านไปปีแล้วปีเล่า ความรัก ความหวังที่สมหวังและผิดหวัง ความยากลำบากที่มิได้คาดฝัน ท่ามกลางท้องทะเลกว้าง บางครั้งเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์และเรื่องเล่าขานถึง “ไต๋กิ่ง” หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ผู้ประพันธ์สร้าง “กิ่ง” ให้มีชีวิตโลดแล่นไปตามบทบาทต่าง ๆ ของแต่ละช่วงวัยได้อย่างเข้มข้น ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตชาวประมง ลูกเรือที่มีทั้งด้านมืด และด้านสว่างที่เราอาจไม่เคยรู้แต่ทว่ามีอยู่จริง ธุรกิจประมงระหว่างนายทุนกับลูกเรือ ตลอดจนปัญหาระหว่างน่านน้ำกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยวรรณศิลป์อันคมคาย ลุ่มลึก ให้รายละเอียดในทุกจังหวะชีวิตของตัวละคร สามารถทำให้ผู้อ่านสะเทือนใจไปกับชะตากรรมของกิ่ง และสัมผัสได้ถึงบุคลิกอันโดดเด่นของเขา นั่นคือ ความซื่อตรง ความอดทน ความสุขุมและความเรียบง่ายในการดำรงชีวิต ที่สำคัญคือการ “ให้” แก่ทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยกว่า นับเป็นความงดงามอย่างยิ่งของมนุษย์ ด้วยเนื้อหาที่มีคุณค่าและแสดงความหมายของชีวิต ตลอดจนการดำเนินเรื่องอย่างสอดคล้อง และภาษาวรรณศิลป์อันมีพลังส่งให้ทุกตัวละครแสดงอารมณ์ของปุถุชนอันมิอาจปฏิเสธได้และมีชีวิตชีวาดูราวกับเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าผู้อ่าน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “ไต้ก๋ง” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๓
นิทานกลางแสงจันทร์
เป็นเรื่องสั้นที่ใช้สำนวนภาษาได้ละเมียดละไม เข้าใจง่ายและลึกซึ้ง เปรียบเทียบเฉียบคมและสะท้อนสังคม โครงเรื่องมีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตที่เลือกสรรได้เหมาะกับเรื่อง
เมืองใต้อุโมงค์
“เมืองใต้อุโมงค์” ของประชาคม ลุนาชัย เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นจำนวน ๑๒ เรื่อง ได้แก่สีขาว, สุธรรมสองศตวรรษ, เหตุเกิดข้างถนน, ใบหน้าและดวงตา, อาณาจักรมายา, ละครคนเมือง,มีดด้ามงา, คำอธิษฐาน, เหนือดวงตาที่ปิดสนิท, หมอคุณธรรม, หมาฝรั่งและเดือนฉายใต้อุโมงค์ เรื่องราวส่วนใหญ่ของเรื่องสั้นชุดนี้ เป็นภาพสะท้อนชีวิตของผู้คนในสังคมเมืองคนในวงสังคมชั้นสูง ดาราภาพยนตร์ พ่อค้า นักธุรกิจ ผู้เขียนซี้ให้เห็นว่า ชีวิตของผู้คนเหล่านั้นล้วนเป็นภาพมายาที่ปราศจากความจริงใจ สังคมไทยร่วมสมัยมีสภาพไม่ต่างกับ “เมืองใต้อุโมงค์”ที่กำลังรอให้ “เดือนฉาย” หรือมีคนมาท “สีขาว” ให้ โรคขาดคุณธรรมกำลังระบาดไปทั่วเมืองแห่งนี้ซึ่งหากปล่อยให้ลุกลามต่อไปก็ยากจะบำบัดอย่างไรก็ตามความดำมืดของ “เมืองใต้อุโมงค์” จะเยี่ยวยาแก้ไขได้ก็ด้วย “ความสว่างไสว” ภายในจิตใจของคนเมืองนี้เท่านั้น”เมืองใต้อุโมงค์”ของประชาคม ลุนาชัย คือยาขนานเอก ซึ่งมีสรรพคุณที่จะเยียวยาให้ ‘เมืองใต้อุโมงค์” ของผู้อ่าน กลับมาสว่างไสวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
กลางทะเลลึก
เป็นนวนิยายชีวิตชาวประมง ซึ่งทำงานหนักและเผชิญภัยอันตรายกลางทะเลลึกตีแผ่ภาวะจิตใจของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา เผยให้เห็นความชับซ้อนทางความคิดและอารมณ์ของตัวละคร ผู้ประพันธ์สามารถถ่ายทอดภาพและภาวะความขัดแย้งของตัวละครได้อย่างละเอียดและลุ่มลึก มีการหน่วงเรื่องอย่างน่าสนใจชวนติดตาม ใช้ภาษากระชับ เข้มข้น และสมจริง
ยาย
เป็นเรื่องราวของคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา นำเสนอชีวิตจริงของหญิงชาวนาสามัญผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิในการทำกินของครอบครัวอย่างทรหดอดทน และอย่างสันติ สะท้อนถึงความไม่ชอบธรรมของระบบราชการ การต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อของหญิงชาวบ้านคนหนึ่งและครอบครัวของเธอ การกดขี่เอาเปรียบของคนที่มีอำนาจมากกว่า ผู้เขียนเก็บรายละเอียดของชีวิต “ยาย” มาถ่ายทอดอย่างมีศิลปะอันทรงคุณค่าในเชิงวรรณศิลป์ และเกิดอรรถรสในการอ่านอย่างน่าสนใจ
เขียนฝันด้วยชีวิต
เขียนฝันด้วยชีวิต ของประชาคม ลุนาชัย นำเสนอภาพชีวิตของชายที่มุ่งมั่นใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนอาชีพแต่การก้าวสู่เส้นทางน้ำหมึกนี้เต็มไปด้วยอุปสรรคขากหนามอันชวนให้ท้อทั้และถดถอย ยิ่งเขา-ผู้ซึ่งมีต้นทุนน้อย ทั้งโภคทรัพย์ ญาติ มิตร และการศึกษา อุปสรรคก็ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ ชีวิตระหกระเหินของเขาผ่านการทำมาหากินมากมายหลายอาชีพ ตั้งแต่เป็นเสมียนในสำนักงานจัดหางาน พนักงานเสิร์ฟ เด็กฝึกงานในโรงงานแบตเตอรี่ พนักงานแบกลังน้ำปลา คนทำลูกชิ้นและขายก๋วยเตี๋ยว คนดูแลนากุ้ง ลูกเรือหาปลาล่องทะเลลึก ไปจนกระทั่งเป็นยาม ในระหว่างการประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงชีวิต เขาก็เลี้ยงวิญญาณและความใฝ่ฝันด้วยการอ่านหนังสือจากห้องสมุด จากร้านหนังสือเช่า และจากการซื้อหาตามที่พอจะมีกิน ประสบการณ์จากการอ่านและประสบการณ์ชีวิตทั้งของตนเองและจากการเฝ้าสังเกตชีวิตของผู้อื่น ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับเขียนหนังสือ ความโดดเด่นของนวนิยายเรื่องนี้อยู่ที่การตีแผ่ชีวิตที่ล้มลุกคลุกคลานครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่ปิดบัง แต่ในโชคมีเคราะห์และในเคราะห์ก็มีโชค ชีวิตมีสุขมีเศร้า มีปวดร้าว มีปิติ มีสูญสิ้นมีวาดหวัง เวียนไปให้เห็นสัจธรรม ดังนั้นแม้เขาจะท้อแท้แต่ไม่ท้อถอย การลุกขึ้นสู่ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อต่อความทุกข์ที่รุมกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงกินใจผู้อ่านและขณะเดียวกันให้กำลังใจผู้ที่กำลังโต้คลื่นชีวิตให้ยืนหยัดต่อไป ผู้เขียนกล่าวไว้ว่า “ชีวิตมหัศจรรย์และทรงคุณค่ายิ่ง แม้จมลงในหุบเหวที่ลึกแค่ไหนเพียงใด ยังมีแรงตะกายกลับสู่เบื้องบน เปรอะเปื้อนความผิดพลาดกี่หนยังพยายามฟอกตัวเองให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ ผ่านแรงกระทบกระแทกซ้ำแล้วซ้ำอีก ยังกลับมาหยัดยืนได้อีกครั้ง ลื่นล้มและตกจากที่สูงกี่ครา ประกายแสงของมันไม่ยอมหรี่ดับลงโดยง่าย” ผู้อ่านได้ประจักษ์ในความมหัศจรรย์และคุณค่าของชีวิตเฉกเช่นเดียวกันกับที่ผู้เขียนกล่าวไว้ นวนิยายเรื่องนี้มีเสน่ห์ที่กลวิธีการเขียน เพราะผู้เขียนคัดสรรบางช่วงตอนของชีวิตมาเล่าให้ผู้อ่านปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องราวเอาเอง ราวกับจะบอกว่าชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย บทจบและบทเริ่มต่อเนื่องกันราวกับจะบอกเป็นนัยว่าการเขียนฝันด้วยชีวิตยังไม่มีบทจบ หากต้องดำเนินต่อไป เขียนฝันด้วยชีวิตเป็นนวนิยายอัตชีวประวัติที่สะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นความฝันของใคร ความฝันนั้นก็ยิ่งใหญ่และมีคุณค่า แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือชีวิตที่กอปรด้วยความมานะบากบั่นที่จะทำความฝันกลายเป็นจริง ยิ่งสำหรับนักเขียนด้วยแล้ว ความฝันไม่มีวันจบ ต้องเขียนฝันด้วยชีวิต และทั้งชีวิต
สงครามและความรัก
“สงครามและความรัก” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีความเด่นในด้านการใช้ภาษาซึ่งสามารถควบคุมและขับเคลื่อนเรื่องราว เพื่อสื่อความคิดมาถึงผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประพันธ์มีชั้นเชิงในด้านการสรรคำมาร้อยเรียงได้อย่างเหมาะสมกลมกลืนและมีคุณค่าทางวรรณศิลป์ นอกจากนี้เนื้อหาในเรื่องสั้นยังมีแง่มุมหลากหลายในขณะเดียวกันก็มีเอกภาพที่สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์จำเป็นต้องดำรงอยู่ร่วมกันด้วยเสรีภาพและความรักเป็นหลักสำคัญ
คง/กระ/พัน/ชาตรี
หลายชีวิต การดำรงอยู่ช่างเป็นเรื่องเรียบง่าย นับแต่ผ่านครรภ์มารดาจวบจนวันสุดท้ายของลมหายใจ ชีวิตราวลาดปูด้วยกลีบบุปผาแห่งความราบรื่น แต่สำหรับบางชีวิต แม้ปณิธานตั้งต้นจะปรารถนาเพียงความสามัญธรรมดา มุ่งประกอบสัมมาอาชีพ เปิดรับความสุขตามครรลองการครองเรือนไปตามอัตภาพโดยไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และสามารถยืนหยัดบนถนนแห่งความเป็นคนดีไปจนสุดทาง แต่ราวกับว่าพรง่าย ๆ ที่ร้องขอกลับได้รับการปฏิเสธโดยสิ้นเชิงจากชีวิตอย่างโหดร้าย ในนวนิยายเรื่อง คง/กระ/พัน/ชาตรี ของ ประชาคม ลุนาชัย “สถานการณ์ที่ไม่อาจขืนต้าน” ลากพาตัวละครทั้งสาม คือ คงธรรมหรือชาตรี กระ และพันรบ ระหกระเหินไปในเส้นทางที่มิอาจคาดเดา ไกลห่างลิบลับจากวิถีชีวิตในอุดมคติที่ตั้งไว้และใฝ่ฝันถึง จากบ้านสู่ป่า จากบกสู่ทะเล จากเมืองสู่ไร้เมือง จากการหยั่งลึกในรกรากสู่ความหวั่นไหวในวิถีแห่งผู้พเนจร “ความเป็นอื่น” จากการต้องเอาชีวิตรอดในอีกเส้นทางการเลือกของแต่ละตัวละคร นำพาผู้อ่านไปร่วมสัมผัสรูปแบบชีวิตที่แตกต่าง ห่างไกลการรับรู้ แต่ดำรงอยู่ร่วมสังคมเดียวกับเรา ในขณะที่ตัวละครเผชิญแรงบีบคั้นที่ชีวิตไล่ต้อนจนนำไปสู่การตั้งคำถาม และมองโลกด้วยสายตาฉงนฉงายและผิดแผกไปจากเดิม ผู้อ่านที่ร่วมรับรู้ชะตากรรมของตัวละครมาตั้งแต่ต้น ก็เข้าสู่กระบวนการตั้งคำถามและทบทวนเช่นกัน จุดจบและปลายทางของตัวละคร ทิ้งคำถามยาก ๆ ที่มิอาจตอบได้ทันที ไว้ให้ผู้อ่านได้ขบคิดว่า อะไรคือชีวิตที่ดี การเป็นเพียงคนดีและซื่อสัตย์ตามแบบฉบับเดิม ๆ เพียงพอแล้วหรือ ค่านิยมดีงามบางอย่างเช่น ความเป็นเพื่อนน้ำมิตรควรถนอมรักษาไว้อย่างไร ส่วนค่านิยมบางอย่างที่เคยเกื้อกูลการขัดเกลาความเป็นชายและตอกย้ำความหนักแน่นของสังคมนักเลง อย่างเช่นการรักศักดิ์ศรี และการไม่ยอมกัน ควรทบทวนและปรับเปลี่ยนหรือไม่ การไม่สู้คนซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความขี้ขลาด ใจเสาะ ปกป้องครอบครัวไม่ได้นั้น สอดคล้องกับคุณค่าอารยะแบบใหม่ที่เน้นการหันหน้าเข้าหากันด้วยอหิงสา และสันติวิธี ใช่หรือไม่ และโลกเก่าซึ่งกำลังเปลี่ยนผ่านสู่โลกใหม่ที่แวดล้อมด้วยคุณค่าแบบใหม่จะผสานกันให้ลงตัวได้อย่างไร เหนืออื่นใด “สาร” ที่ผู้เขียนส่งผ่านชีวิตผันผวนของตัวละครทั้งหมด นำผู้อ่านไปสัมผัสกับความกรุณาในหัวใจและความตระหนักรู้ว่า “ความจำเป็นในชีวิตนั่นเอง ที่เป็นยิ่งกว่านักฆ่าอำมหิต เมื่อถูกบีบคั้นจนรั้งสติไม่อยู่ การตัดสินใจเพียงชั่ววูบอาจส่งผลต่อชีวิตที่เหลือทั้งหมด” คณะกรรมการรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทนวนิยายจึงมีมติให้ “คง/กระ/พัน/ชาตรี” ของ ประชาคม ลุนาชัย เป็นนวนิยายที่สมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2557
ในกับดักและกลางวงล้อม
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องเล่าชีวิตของคนจับปลาในท้องทะเลลึก นักอ่านก็จะนึกถึงชื่อ ประชาคม ลุนาชัย ผู้เขียนนวนิยายฝั่งแสงจันทร์ คนข้ามฝัน กลางทะเลลึก เที่ยวเรือสุดท้าย นวนิยายเรื่อง ในกับดักและกลางวงล้อม แสดงฝีมือและประสบการณ์อันตกผลึกแล้วของผู้เขียน ชีวิตลูกเรือจับปลากลางทะเลใน นวนิยายเรื่องนี้ฉีกแนวไปจากเรื่องเดิม ๆ เพราะตัวละครกว่าครึ่งบนเรือหาปลาลำนี้เป็นผู้บกพร่องทางร่างกาย ทั้งตาบอดข้างเดียว ตาเหล่ ขาขาด นิ้วขาด แขนคด นอกจากนี้แทบทุกคนไม่มีประสบการณ์ในการเดินเรือจับปลากลางมหาสมุทรมาก่อน ไม่เว้นแม้แต่ไต้ก๋งที่กว่าจะเรียนรู้สัญญาณโซน่าช่วยหาฝูงปลาก็สาวอวนได้ท่อนไม้มาเสียหลายครั้ง และจุมโพ่ที่ทำอาหารไม่เป็นแต่อยากได้งาน ตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกโดดเด่นชัดเจน และมีพัฒนาการที่เกิดจากประสบการณ์ชีวิต เห็นชัดว่าผู้เขียนพยายามถอยห่างจากเรื่อง จนแทบไม่ปรากฏเงาร่างของผู้เขียน แต่มุ่งนำเสนอเรื่องราวของนักสู้ชีวิตเหล่านี้อย่างสมจริง ไม่มีใครเป็นพระเอก ทุกคนล้วนเป็นตัวเอกที่ช่วยกันขับเคลื่อนนาวากลางสมุทรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอาชีพและบรรลุความฝัน ยาเสพติด การพนัน และผู้หญิงบนฝั่ง เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกเรือประมง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกับดักที่ทำลายอนาคตและความใฝ่ฝัน ฝูงปลาที่ตกอยู่ในวงล้อมของอวนไม่ต่างจากพวกเขาที่ตกอยู่ในวงล้อมและกับดักของงานหนักและการเสี่ยงกับโชคชะตา แต่พวกเขาก็ฝ่าฟันมาได้ด้วยแรงกายเท่าที่มี แรงใจที่เข้มแข็ง และการล่มหัวจมท้ายด้วยกัน ที่สำคัญคือรได้เรียนรู้ว่าการสู้ชีวิตให้พ้นกับดักและวงล้อมไปสู่อิสรภาพและเป็นนายตนเองนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ดังที่ไต้ก๋งกล่าวในท้ายสุดว่า “ที่จะล้อมปลาให้อยู่หมัด ไม่ใช่เพียงแค่เรือหรืออวน หากยังรวมถึงสติปัญญา ความสามารถ ประสบการณ์ และภูมิรู้ทั้งหมดทั้งมวล…” แม้เรือหาปลาจะเทียบฝั่งแล้ว แต่นาวาชีวิตของแต่ละคนยังโลดแล่นฝ่าคลื่นลมในมหาสมุทรชีวิตตามทิศทางของตนต่อไป ด้วยความโดดเด่นด้านเนื้อหาสาระ ข้อคิด และชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ คณะกรรมการจึงมีมติให้ในกับดักและกลางวงล้อม ของ ประชาคม ลุนาชัย ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช 2561