คนละฝั่งของแม่น้ำ
คนละฝั่งของแม่น้ำ เป็นเรื่องราวของสามเณรตุเตเปรียญธรรมสามประโยคจากภาคใต้ เดินทางมากรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสอบให้ได้เปรียญธรรมสี่ประโยคในภาคการศึกษานั้น สามเณรพักที่วัดเล็ก ๆ ฝั่งธนบุรี ต้องลงเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามายังฝั่งพระนคร เพื่อเดินไปยังสำนักเรียนในพระอารามหลวงระดับชั้นเอกพิเศษย่านเสาชิงช้า การเดินทางไปเรียนหนังสือ สามเณรได้พบเหตุการณ์รวมถึงเรื่องราวต่าง ๆ เช่น การวางขายพระเครื่องแบกะดินริมทางเท้า เรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอาศัยนอนค้างคืนในวัด เรื่องช่วยเหลือผู้หญิงพลัดตกน้ำจากโป๊ะ เรื่องการถูกตรวจสอบจากพระวินยาธิการผู้มีหน้าที่พิสูจน์ว่าเป็นสงฆ์จริงหรือไม่ เรื่องนั่งด้านหน้ารถขนศพไปยังสถานที่ปลายทาง เรื่องเพื่อนสามเณรที่มาเรียนทางธรรมเพื่อนำไปเทียบการศึกษาสายสามัญ เป็นต้น แม้จะพบเรื่องราวต่าง ๆ แต่สามเณรก็ตั้งใจเรียนจนจบหลักสูตร สอบได้เปรียญธรรมสี่ประโยคในที่สุด คนละฝั่งของแม่น้ำ เป็นหนังสือชื่อเรื่องดี โครงเรื่องดีหลากหลายอารมณ์ มีกลวิธีในการนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ ตัวละครสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องโอกาสทางการศึกษาของเด็กที่มีเป้าหมายต่างกันในการบวช การคลี่คลายปมปัญหาของตัวละครเป็นไปในทางที่ดี ภาพประกอบสอดคล้องกับเรื่อง ให้ข้อคิดเรื่องการตั้งเป้าหมายของชีวิต คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้คนละฝั่งของแม่น้ำ ของ ธารา ศรีอนุรักษ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗
ห้องเรียนไม่มีฝา
ห้องเรียนไม่มีฝา นำเสนอชีวิต ความเป็นอยู่และการศึกษาของสามเณร โดยเฉพาะการศึกษาวิชาบาลี ผ่านเรื่องราวชีวิตของ ‘มูเล’ เด็กชายชาวใต้ บุตรเจ้าของค่ายมวย ผู้เปลี่ยนเส้นทางชีวิตตนเองและความมุ่งหวังของบิดาจากสายการต่อสู้บนผืนผ้าใบมาสู่เส้นทางสายพุทธศาสนา ด้วยการสนับสนุนและชี้นำของ ‘หลวงลุง’ เจ้าอาวาสวัดประจำหมู่บ้านผู้เป็นที่เคารพอย่างสูงในท้องถิ่น ‘สามเณรมูเล’ ได้ไปศึกษาวิชาบาลี ณ วัดป่าแห่งหนึ่งอย่างมีความสุข หลังสำเร็จการศึกษาสอบผ่านเปรียญธรรมประโยค 1-2 ‘สามเณรมูเล’ ได้กลับถิ่นกำเนิดเพื่อนำประกาศนียบัตรไปถวายให้ ‘หลวงลุง’ ผู้มีพระคุณและพบหน้าบิดามารดา ผู้มีความปีติในความสำเร็จและก้าวหน้าทางธรรมะของบุตร ในทำนองเดียวกับที่ ‘สามเณรมูเล’ มีความสุขและภาคภูมิใจ ที่ได้บวชและศึกษาธรรมะแผนกบาลี ทำให้ผู้มีพระคุณมีความสุข ซึ่งเชื่อกันว่าตัวเองก็ได้บุญ พ่อแม่ก็ได้บุญ การนำเสนอเนื้อหาได้แบ่งเป็นตอนสั้น ๆ เริ่มต้นอย่างชวนอ่านและจบอย่างน่าติดตาม ตัวละครมีความสมจริง เป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวา สอดแทรกสาระและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องอย่างเหมาะสมและแนบเนียน ผ่านการบรรยายและบทสนทนา มีการเปรียบเทียบคมคายเห็นภาพพจน์ การบรรยายเรื่องเรียบง่าย สละสลวย ชัดเจน เรื่องราวเกี่ยวกับพระและเณร เป็นเรื่องที่รู้เฉพาะผู้บวชเรียน หนังสือเรื่อง ห้องเรียนไม่มีฝา จึงเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผู้อ่านทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายทอดโดยผู้มีประสบการณ์ตรงและมีความสามารถทางภาษาอย่างดียิ่ง หนังสือเรื่องนี้จึงเปี่ยมด้วยสาระและบันเทิงที่บริสุทธิ์ ทำให้ผู้อ่านเบิกบานและสุขใจ จึงเป็นหนังสือดีมีคุณค่า สมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1