All Posts

Archives

  • Home
  • กิตติ อัมพรมหา

เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแร้วปัจจุบัน

“เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแร้วปัจจุบัน” รวมกวีนิพนธ์ของ “กิตติ อัมพรมหา” เป็นงานกวีนิพนธ์ใช้ฉันทลักษณ์กลอนสุภาพ จำนวน ๒๐ สำนวน แบ่งเนื้อหาสาระในเล่มเป็น ๓ ภาค ภาค ๑ ลมหายใจของเรา เป็นการบอกเล่าเรื่องของชีวิตที่เคลื่อนไหวไปกับบริบทรอบข้าง           “ขณะเราขณะโลกนั้นเคลื่อนไหว  ยังคงเดินทางไกลไปเบื้องหน้า ในอ้อมกอดเนิ่นนานของกาลเวลา โอบเราไว้ตลอดมาตลอดไป”             สิ่งที่ผู้เขียนได้พบเห็นมีวิถีเกี่ยวข้องปฏิสัมพันธ์กับพัฒนาการของชีวิต ความฝัน ความหวัง ความรัก ความศรัทธาและความอบอุ่น  ระลึกรับรู้และเห็นคุณค่า “ลมหายใจเข้าออกบอกระยะ       ทุกขณะชีวิตที่เคลื่อนไหว  เลือดเนื้อชีวิตและจิตใจ                      มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้”      ภาค ๒ ใต้แสงเงายุคสมัย  เรื่องราวการเจริญเติบโตของตนเองกับพัฒนาการในยุคนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ในส่วนนี้ผู้เขียนทำได้อย่างมีเชิงชั้นวรรณศิลป์ ทั้งด้านฉันทลักษณ์ถูกต้องตามกฎเกณฑ์  เนื้อหาสาระเหมาะสมกลมกลืน การใช้ถ้อยคำได้รสคำ รสความ เช่น บทอาขยานกล่อมโลก : ยุคสมาร์ทโฟน การหายตัวไปของม้าก้านกล้วย ในรังนอนของหนอนสายพันธุ์ใหม่ และวันที่ตุ๊กตาไขลานหยุดไขลาน  ภาค ๓ ในนิยามโลกความจริง เป็นความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียน กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของสังคมโลกความเป็นไปของยุคสมัย             “โลกยังคงเร่งรุดไม่หยุดนิ่ง         คือนิยามความจริงแห่งยุคสมัย  สรรพสิ่งที่เห็นที่เป็นไป                        หลากล้วนลมหายใจในสังคม”   ผู้เขียนยังครุ่นคิดถึงสภาพสังคมเก่าจึงใช้กลอนเพลงพื้นบ้านนำเสนอ “วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพดสาลี คืนความสุขให้คนในชาติ เหมือนน้ำท่วมปากนานหลายปี โอ้เจ้าดอกเทคโนโลยี  แผ่นดินนี้ยังทุกข์ทน” หรือบทขอจันทร์ “จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ไม่ขอแล้วข้าว ไม่เอาแล้วแกง ขอสุขคืนสู่ ทุกหนทุกแห่ง สิ่งร้ายแอบแฝง  พ่ายแพ้ความดี” และมีหลายตอนที่แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนยอมรับความเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไป รวมบทกวี “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแร้วปัจจุบัน” ด้วยเชิงชั้นฉันทลักษณ์ที่ถูกต้องแม่นยำ แนวคิดที่มีขอบข่ายเป้าหมายชัดเจน กอปรด้วยความไพเราะของเสียงและความหมาย อันเกิดจากความประณีตในการใช้ภาษาเป็นรสแห่งถ้อยคำที่นำมาร้อยกรองให้เกิดความรู้สึกและจินตภาพได้อย่างดี ดังนั้น คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแร้วปัจจุบัน” ผลงานของ          “กิตติ อัมพรมหา” ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓

กานท์เวลาของผู้คน

กานท์เวลาของผู้คน ผลงานการประพันธ์ของ กิตติ  อัมพรมหา เป็นงานร้อยกรองที่ครบถ้วนด้วยองค์ประกอบของวรรณศิลป์  ประกอบด้วยฉันทลักษณ์เป็นกลอนแปดตลอดทั้งเรื่องเขียนได้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ มีความไพเราะของถ้อยคำที่นำเสนอ แต่มีข้อผิดพลาดบางแห่ง เช่น การใช้คำสัมผัสซ้ำระหว่างวรรคระหว่างบท เนื้อหาสาระได้แรงบันดาลใจจากข่าวสารและเหตุการณ์ที่ปรากฏในสังคม ตลอดทั้งเรื่องราวที่พบเห็นด้วยตนเอง เช่น ดอกฝันป่าเมือง สถานการณ์บนจอแผ่น ในมุมมองของหนู กำสรวลแผ่นดิน ก่อนสังคมสิ้นลมหายใจ การใช้ถ้อยคำถูกต้องงดงามด้วยรสคำและรสความในการอธิบายถ่ายทอดความคิดของตนเอง มีสาระในด้านความรู้ ความคิดอันเป็นสัมพันธภาพตามหัวข้อของเนื้อเรื่องที่กำหนด  กวีโวหารเพื่อสร้างความไพเราะความประทับใจทำได้ดีในบางบทต้องให้ประสบการณ์ในการฝึกฝนเพาะบ่มต่อไป เพื่อสร้างความสนใจได้อย่างเหมาะสม และทำให้ผู้อ่านซาบซึ้งประทับใจ ด้านความคิดสร้างสรรค์ ผู้เขียนพยายามสะท้อนปัญหา ปรากฏการณ์ตามที่ได้พบเห็นหรือตามความเป็นจริงได้อย่างน่าสนใจ ดังนั้น  กานท์เวลาของผู้คน  ของ กิตติ  อัมพรมหา จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2560

เก็บรักไว้ที่ปลายรุ้ง

ต้นฉบับรวมบทกวี เก็บรักไว้ที่ปลายรุ้ง ของ กิตติ อัมพรมหา เนื้อหาโดยรวมแสดงถึงพลังความมุ่งมั่นของวัยหนุ่มสาวผู้เปี่ยมด้วยจินตนาการ และความใฝ่ฝันถึงโลกอันงดงามในอุดมคติ น้ำเสียงที่สื่อผ่านเนื้อหาเป็นไปด้วยท่วงทำนองของนักฝัน ผู้มองโลกในแง่มุมที่สวยงาม มีความอบอุ่นอ่อนหวาน เต็มไปด้วยความหวังและพลังใจ ทั้งให้กำลังใจแก่ตนและคนอื่นให้ตระหนักในคุณค่าของตัวเอง พร้อมที่จะก้าวไปสู่สังคมด้วยอุดมการณ์อันงดงาม โดยเลือกใช้รูปแบบฉันทลักษณ์กลอนสุภาพเป็นหลัก มีกาพย์ยานี 11 และกาพย์ฉบัง 16 ในบางสำนวน กลวิธีการประพันธ์ ผู้เขียนสามารถใช้ภาษาได้เหมาะสมสอดคล้องกับอารมณ์ของเนื้อเรื่อง ถูกต้องตามรูปแบบฉันทลักษณ์ ดังนั้น เก็บรักไว้ที่ปลายรุ้ง ของ กิตติ อัมพรมหา จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์  ประจำปีพุทธศักราช 2562