All Posts

Archives

  • Home
  • สารคดี (ทั่วไป)

เล่นแร่แปลภาพ ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย

สารคดีที่นำเสนอเรื่องเล่าผ่านภาพที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์  ผู้เขียนรวบรวมภาพถ่ายต่าง ๆ ที่หาดูได้ยาก และค้นคว้าเจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังภาพเหล่านั้น ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ล้านนาผ่านเจ้าดารารัศมี เป็นต้น

ชีวิตและความฝันใฝ่ของคนรุ่นใหม่สมัยคณะราษฎร

ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์และพัฒนาการของเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย การต่อสู้ทางความคิดระหว่างพลังใหม่ที่ก้าวหน้ากับพลังอนุรักษ์นิยม สะท้อนบรรยากาศความตื่นตัวของราษฎรเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ    จากหลายเหตุการณ์ที่ไม่ปรากฏในหนังสือทางวิชาการเล่มอื่น ๆ เนื้อหาจึงมีคุณค่า กระตุ้นความตื่นตัวทางการเมือง ผ่านการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลหลักฐานที่หนักแน่น กว้างขวาง น่าเชื่อถือ แต่เรียบเรียงด้วยภาษาอ่านง่าย น่าติดตาม

แม่ ฉัน และอัลไซเมอร์

งานเขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่มีแม่เป็นอัลไซเมอร์ ฉายภาพการต่อสู้ของลูกที่ต้องทำงานพร้อมกับดูแลแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ไปด้วย แม้เป็นเรื่องเศร้า แต่นำเสนอด้วยทัศนะมุมบวก อ่านแล้วต้องอมยิ้ม ไม่รู้สึกเศร้าหมอง ผู้เขียนนำมาเล่าได้ชวนอ่าน ชวนติดตาม ทำให้สังคมได้เรียนรู้ถึงสาเหตุ อาการ และวิธีดูแลผู้ป่วยโรคนี้ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

A HISTORY OF CATS

งานเขียนของผู้เขียนที่คลั่งไคล้แมว บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของแมวอย่างลุ่มลึก สอดคล้องกับยุคสมัยแห่ง “ทาสแมว” เต็มไปด้วยเกร็ดเรื่องแมวที่นึกไม่ถึง แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนค้นคว้ามาอย่างดี

ควอนตัม จากแมวพิศวง… สู่ควอนตัมคอมพิวเตอร์

แม้ควอนตัมฟิสิกส์จะเป็นศาสตร์ที่เข้าใจยากที่สุด แต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้ย่อยเนื้อหาที่เป็นวิทยาศาสตร์ทั้งหมดออกมาโดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้อ่านที่ไม่มีพื้นฐานทางควอนตัมเข้าใจได้ง่าย เหมาะกับคนที่ต้องการทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างยิ่ง

แม่นาก ภาคสมบูรณ์ : MAE NAK CLASSICAL GHOST OF SIAM

งานเขียนของนักเขียนสารคดีแถวหน้าผู้ทำงานค้นคว้าประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน หนังสือเล่มนี้ใช้เวลาศึกษาอย่างต่อเนื่องกว่า ๔๐ ปี จึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “แม่นาก” ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากเนื้อหาในการเขียนแล้ว ยังมีภาพประกอบอันทรงคุณค่าอีกมากมาย คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ แม่นาก ภาคสมบูรณ์ : MAE NAK CLASSICAL GHOST OF SIAM ของ เอนก นาวิกมูลได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

Ultraman เส้นชัยไร้เหตุผล

บันทึกประสบการณ์ตรงของผู้เขียน ผ่านการวิ่งครั้งสำคัญในชีวิต ที่ยาวไกลและเสี่ยงอันตรายกว่าการวิ่งมาราธอน เพราะคือการวิ่งระยะอัลตรามาราธอน ที่ไกลถึงกว่าร้อยกิโลเมตร โดยต้องผจญภัยไปกับพื้นที่ภูเขาของฮ่องกง ความง่วง ความยากลำบาก และถึงขั้นเสี่ยงชีวิต แต่ผู้เขียนเอาชนะมาได้ด้วยพลังใจ ผู้เขียนเก็บรายละเอียดในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อย่างชวนติดตาม โดยนำประสบการณ์การวิ่งไปเปรียบเทียบกับแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิต ทั้งยังเขียนได้อย่างมีอรรถรส สำนวนภาษาชวนติดตามอย่างยิ่ง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ Ultraman เส้นชัยไร้เหตุผล ของ นิ้วกลม        ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖

กุหลาบเปอร์เชียในแดนสยาม

โลกาภิวัตน์ผ่านการค้าขายและระบบมรสุมเกิดขึ้นมานับพันปีแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นหลักฐานยืนยันเรื่องนี้ได้ดี แม้เป็นงานค้นคว้าทางวิชาการ แต่ใช้ภาษาที่รื่นรมย์เพลิดเพลิน ผสมผสานเนื้อหาสาระกับลีลาภาษา จนเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ประวัติศาสตร์ชาวสยามมีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม การค้า การศาสนา การเมืองการปกครองกับนานาอารยประเทศมาเนิ่นนานแล้ว คำไทยมากมายจัดเป็น “คำยืม” จากภาษาต่างประเทศ แม้กระทั่งจากภาษาเปอร์เซีย เช่น กุหลาบ มัสมั่น ข้าวหมกไก่ หรือแม้กระทั่งของใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง “ผ้าขาวม้า” ก็มาจากภาษาเปอร์เซียว่า “กามาร์ บันด์” (Kamar Band) หนังสือเล่มนี้ค้นคว้าเรื่องราวเช่นนี้อย่างมีวรรณศิลป์ และเปี่ยมด้วยข้อมูลความรู้ จึงมีคุณค่าสมกับรางวัลชนะเลิศประเภทสารคดี คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ กุหลาบเปอร์เชียในแดนสยาม ของ กุสุมา รักษมณี ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

WORLD WAR TOOLS สงครามโลกในสิ่งของ

เลือกแง่มุมในการนำเสนอประวัติศาสตร์สงครามโลกได้ชวนติดตาม โดยการเลือกสรรสิ่งของหรือสิ่งละอันพันละน้อยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกมานำเสนอ เช่น ชาวญี่ปุ่นมอบเครื่องรางอะไรให้ทหารกล้าของพวกเขา รัฐบาลอังกฤษเหมาชาดำทั่วยุโรปส่งเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารในแนวหน้า และประเด็นอื่น ๆอีกมาก นับเป็นการจับประเด็นที่ชาญฉลาดและไม่เหมือนใคร

NOSE NOTE บันทึกเรื่องกลิ่นจากปลายจมูก ฝนตกข้างบ้าน ถึงจักรวาลอันไกลโพ้น

นำเสนอเรื่อง ‘กลิ่น’ อันเป็นเรื่องที่มีผู้เขียนถึงน้อย โดยใช้ลีลาภาษาที่อ่าน เพลิดเพลิน สนุกสนาน ชวนติดตาม ให้ข้อมูลสารพัดกลิ่นที่ผู้อ่านอาจนึกไม่ถึง ตั้งแต่ กลิ่นบนเครื่องบิน กลิ่นอียิปต์โบราณ ไปจนกระทั่งกลิ่นความกลัว กลิ่นอวกาศ กลิ่นห้วง จักรวาล และอื่น ๆ

ส่องลายคราม สืบหาจีนกรุงศรีฯ

เป็นงานเขียนที่เพลิดเพลิน อ่านสนุก แต่ให้ความรู้เชิงลึกในด้านประวัติศาสตร์ที่เล่าผ่านเครื่องกระเบื้องลายครามอันเป็นของสะสมของผู้เขียน ผู้อ่านจึงได้เห็นถึงประวัติศาสตร์ชีวิตในราชสำนักและผู้คนในแผ่นดินจีนและกรุงศรีอยุธยา ทั้งทางเศรษฐกิจการค้า สังคม การเมือง ผ่านภาพถ่ายสวยงามของเครื่องลายครามอันเป็นพยานวัตถุ

รักก่อนกำเนิด เกิดก่อนกำหนด

เด็กที่คลอดก่อนกำหนด มีชื่อเรียกเฉพาะว่า ‘เด็กพรีมี่’ หนังสือเล่มนี้เปิดโลกของเด็กพรีมี่ให้ผู้อ่านได้รู้จัก ผ่านชีวิตจริงของ ‘ลินลา’ เด็กพรีมี่ที่สร้างพลังใจให้แม่ หมอและผู้คนรอบข้างมีความหวัง มีกำลังใจ แล้วส่งต่อกำลังใจนั้นมาถึงผู้อ่านด้วย

๒๔๗๕ ราษฎรพลิกแผ่นดิน

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือข้อมูลที่ผู้เขียนเพียรค้นคว้าจากเอกสารต่าง ๆ รวมถึงหนังสืองานศพจำนวนมาก แล้วนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหน้าประวัติศาสตร์สังคมและการเมืองไทย ขณะเดียวกันก็ฉายให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชีวิตของผู้ร่วมก่อการที่มีอุดมคติและท่วงทำนองชีวิตอันหลากหลาย ไม่แห้งแล้ง เห็นถึงความมีเลือดเนื้อ อำนาจ และความเปลี่ยนแปรของสัจธรรม เป็นสารคดีเชิงประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่เก็บรายละเอียดต่าง ๆ มานำเสนออย่างได้อรรถรสและมีวรรณศิลป์ชวนอ่าน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ ๒๔๗๕ ราษฎรพลิกแผ่นดิน ของ นริศจรัสจรรยาวงศ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดีประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ

หนังสือเล่มนี้กลั่นมาจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เป็นโรคซึมเศร้า รวมถึงประสบการณ์ของเพื่อนฝูงและคนรู้จักที่อยู่รายรอบ เป็นการนำเสนอถึงพลังของการต่อสู้การยอมรับตนเอง และวิธีนำพาตัวเองและผู้อื่นออกมาจากสภาวะซึมเศร้านั้นโดยใช้วิธีการหลากหลาย ทั้งวิธีการทางการแพทย์ และการปรับเปลี่ยนชีวิต จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ยังอยู่ที่ภาษาและลีลาการเล่าเรื่องที่มีวรรณศิลป์ สวยงาม และมีเสน่ห์ สามารถบรรยายถึง ความทุกข์ทรมานและที่มาที่ไปของการเป็นโรคซึมเศร้าของตนเองได้อย่างชวนติดตามและจบลงอย่างมีความหวัง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ มนุษย์ซึมเศร้ากับเรื่องเล่าสีขาวดำ ของ กิตติศักดิ์คงคา (นายพินต้า) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดีประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

หลังบ้านคณะราษฏร

แม้เรื่องราวของการปฏิวัติ ๒๔๗๕ และคณะราษฎร จะมีผู้เขียนถึงมาแล้วเป็นจำนวนมาก แต่หนังสือเล่มนี้เลือกบันทึกถึงประวัติศาสตร์ช่วงนั้นในแง่มุมใหม่ที่ไม่เคยมีผู้เขียนมาก่อน นั่นคือแง่มุมของ ‘ผู้หญิง’ ที่เรียกได้ว่าเป็น ‘หลังบ้าน’ ของคณะราษฎรผู้อ่านจึงได้รับรู้ถึงส่วนเสี้ยวแห่งประวัติศาสตร์ที่อาจขาดหายไปในบันทึกอย่างเป็นทางการต่าง ๆ บทบาทคณะราษฎรที่เป็นผู้ชายมักจะมองเห็นได้ง่าย เนื่องจากอยู่หน้าฉาก การเมือง แต่บทบาทผู้หญิงที่ถูกเก็บซ่อนอยู่หลังฉากก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ผู้เขียนเก็บข้อมูลได้ละเอียดลออ และมีวิธีเล่าเรื่อง รวมถึงลีลาภาษาที่ชวนติดตาม สนุกเพลิดเพลินและได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาสำคัญของประเทศไปด้วยพร้อมกัน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ หลังบ้านคณะราษฎร ของ ชานันท์ ยอดหงษ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

ตามรอยนเรศวรมหาราช จากเวียงจันทน์สู่เวียงแหง นอกกรอบประวัติศาสตร์ชาตินิยม

เป็นหนังสือสารคดีเชิงประวัติศาสตร์ที่เสนอแนวคิดใหม่ด้วยวิธีการศึกษาค้นคว้าใหม่ ทำให้ได้มาตรฐานทางวิชาการประวัติศาสตร์อันทันสมัยระดับสากล ซึ่งกว้างขวางและลึกซึ้งกว่าประวัติศาสตร์แบบที่ต้องการให้รักชาติอย่างคับแคบ ก่อให้เกิดความตื่นตัวในการศึกษาประวัติศาสตร์ในฐานะที่เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของ “วิทยาศาสตร์สังคม” ไม่ใช่ในฐานะตำนาน หรือเครื่องมือเสริมส่ง “ชาตินิยม” เท่านั้น แม้จะเป็นสารคดีอิงพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์พระองค์เดียว คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่สามารถสะท้อนประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา และความสัมพันธ์กับอาณาจักรรอบข้างได้เป็นอย่างดี โดยมีกระบวนการค้นคว้าข้อมูลทั้งจากเอกสารชั้นต้นจากการสัมภาษณ์บุคคล และจากการลงพื้นที่จริงในประเทศไทยและสหภาพพม่า มานำเสนอด้วยภาษาสำนวนชวนอ่าน เข้าใจง่าย มีลีลาการร้อยเรียงเชิงวรรณศิลป์ มีการอ้างอิงหลักฐานจูงใจให้น่าเชื่อถืออย่างเหมาะควรกับสารคดี ไม่มากจนกลายเป็นหนังสือตำราที่น่าสนใจสำหรับนักวิชาการเท่านั้น ทั้งยังมีการศึกษาสภาพภูมิศาสตร์ ณ สถานที่จริงในประวัติศาสตร์มาอ้างอิงให้หนักแน่นยิ่งขึ้น การเป็นสารคดีที่นำเสนอแนวคิดใหม่ในเชิงประวัติศาสตร์ ทำให้ผู้อ่านที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน อาจต้องทำความเข้าใจ และอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งสารคดีเล่มนี้ก็ทำหน้าที่แนะนำหนังสือที่ควรอ่านประกอบด้วยอย่างรอบด้าน  ก่อให้เกิดบรรยากาศการศึกษาประวัติศาสตร์ใหม่ในเชิงสร้างสรรค์

ใบสอนว่าซั่น

หนังสือแสดงวิถีชีวิตของชาวอีสาน เป็นตำนานที่สร้างความภาคภูมิใจให้อนุชนคนรุ่นหลัง เพราะได้สะท้อนให้เห็นขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานกับการดำเนินชีวิตของชนบท และสิ่งสำคัญคือเป็นแหล่งรวมศูนย์ความรู้อันหลากหลาย นำเสนอด้วยภาษาวรรณศิลป์ที่มีชีวิตชีวาได้อรรถรส เข้มข้นด้วยสาระน่าประทับใจ มีการใช้ภาษาไทยปนลาวอย่างกลมกลืน ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในวัฒนธรรมลาวฝั่งไทยอย่างชัดเจน จึงนับว่าทรงคุณค่าแก่การเป็น “หนังสือแนะนำให้อ่าน” เล่มที่ 3

“ไทดำ” เมืองแถง “ทรงดำ” ถิ่นสยาม จากหนองแฮด ถึง หนองปรง

สารคดีบันทึกเรื่องราวการปรับเปลี่ยนของกลุ่มชาติพันธุ์ “ไทดำ” หรือในชื่อเรียกอื่นอีกหลายชื่อ คือ ผู้ไท ไททรงดำ หรือ ลาวโซ่ง ซึ่งยังรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณี และพิธีกรรมอันเป็นอัตลักษณ์ตนไว้อย่างน่าชื่นชม แม้ในห้วงสองศตวรรษที่ผ่านมา ชาวไทดำจะถูกกวาดต้อนให้อพยพโยกย้ายกระจัดกระจายไปตั้งถิ่นฐานในหลายพื้นที่ของภูมิภาคอุษาคเนย์ก็ตามที ทั้งนี้ ผู้เขียนยกกรณีศึกษาชาวไททรงดำ บ้านหนองปรง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีหลักฐานว่าแต่ดั้งเดิมอพยพมาจากบ้านหนองแฮด ณ เมืองแถง หรือเดียนเบียนฟู ปัจจุบันเป็นหจังหวัดหนึ่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม โดยผู้เขียนเดินทางเข้าไปสำรวจ ศึกษาและวิจัยขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวไทดำบ้านหนองแฮดอย่างละเอียด แล้วนำมาเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมประเพณีของชาวไททรงดำบ้านหนองปรง ก่อนที่จะนำมาถ่ายทอดเป็นสารคดีชาติพันธุ์วิทยา ด้วยภาษาสำนวนที่เข้าใจง่าย ชวนอ่านชวนติดตาม ก่อให้เกิดความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของภูมิปัญญาพื้นบ้าน วัฒนธรรมพื้นถิ่น อันควรแก่การปกปักรักษาไว้ จึงนับว่าทรงคุณค่าแก่การเป็น “หนังสือแนะนำให้อ่าน” เล่มที่ ๒

เด็กชายกับนกเงือก ความงาม ความหวัง เผ่าชนคนเดินทาง

สารคดีชนเผ่าอันหลากหลายบนดอยสูงแห่งภาคพื้นพายัพของประเทศไทย อันประกอบด้วย ชาวปกาเกอะญอ คะฉิ่น ลีซู ดาระอั้ง เย้า ล่าหู่ ลัวะ อาข่า และไทใหญ่ นำเสนออย่างมีลีลาทางวรรณศิลป์ โดยสอดแทรกนิทานพื้นบ้าน ตำนานท้องถิ่น คติชนนิยมของแต่ละเผ่าพันธุ์ อันเกิดจากากรลงไปคลุกคลีกับผู้คนบนดอยสูงเป็นเวลายาวนาน ทำให้เป็นหนังสือชวนอ่าน ชวนติดตาม และสร้างจิตสำนึกเชิงสร้างสรรค์ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ท่ามกลางความแตกต่าง ผู้เขียนเล่าถึงพิธีกรรม จารีตวัฒนธรรม เอกลักษณ์เครื่องแต่งกาย ภาษา ฯลฯ อันแสดงให้เห็นถึงคุณค่า ความหมาย ที่ทำให้เกิดเผ่าพันธุ์หนึ่งขึ้นมา แต่ประเด็นสำคัญคือ สถานการณ์ของชีวิตที่ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้งต่าง ๆ กับอารยธรรมอื่น ปัญหาเรื่องดินแดน การแย่งชิงทรัพยากร การคุกคามชีวิต สมควรที่บุคคลภายนอกจะทำความเข้าใจกับความหลากหลายเหล่านี้ จึงนับว่าทรงคุณค่าแก่การเป็น “หนังสือแนะนำให้อ่าน” เล่มที่ 1

เกิดเป็นคนใต้

เป็นอัตชีวประวัติแบบไทย ๆ บรรยายความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรไทยสามัญที่อยู่ในชนบทห่างไกลของภาคใต้ ในเรื่องการหาอยู่หากิน และวัฒนธรรมด้านอื่น ๆ เช่น ระบบคุณค่า ความสัมพันธ์ทางสังคม โลกทรรศน์และชีวทรรศน์ที่สอดคล้องกันกับภาวะวิสัยของการหาอยู่หากิน ด้วยฝีมือการบรรยายชั้นครู แต่ถึงแม้จะมีลักษณะเป็นอัตชีวประวัติ ทว่าเกร็ดต่าง ๆ ที่แทรกอยู่ คือ องค์ความรู้ทางชาติพันธุ์วิทยา โดยผู้คร่ำหวอดและศึกษาหาความรู้ด้วยวิถีอย่างปราชญ์ วิธีเล่าเรื่องสนุกสนานเป็นกันเอง แต่มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ทำให้อ่านได้อย่างเพลิดเพลิน อิ่มเอมในอรรถรสและความรู้รอบด้าน ทรงคุณค่าที่จะเป็นหนังสือรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดีชาติพันธุ์วิทยา ประจำปีพุทธศักราช 2554

แผ่นดินนี้ที่อีกฟากเขา

สารคดีนำเสนอเรื่องราวกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตภูเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ เรื่องพิธีวิวาห์ตามวิถีของชาวเผ่าเมี่ยน จังหวัดน่าน เรื่องชนเผ่าปกากะญอบนเทือกเขาธงชัยกับการรักษาป่ารักษาน้ำ เรื่องของชาวไทใหญ่ กลุ่มชนที่มีดินแดนและประเพณีวัฒนธรรมของตนกับการแสวงหาเอกราช และกะเหรี่ยงฤษีแห่งป่าตะวันตกชนกลุ่มเดียวในประเทศไทยที่ยังนับถือฤษีเป็นผู้นำทางความเชื่อและจิตวิญญาณ ความงดงามของชนเผ่าเหล่านี้ นำเสนอผ่านลีลาภาษาสำนวนอันละเมียดละไม  บอกเล่าความเป็นมาเป็นไปของคติความเชื่อ ประเพณี พิธีกรรม อย่างลุ่มลึกและน่าเชื่อถือ จากการที่ผู้เขียนค้นคว้าข้อมูลอย่างรัดกุม สอดแทรกทัศนคติและอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียนพอประมาณ เป็นการผสมผสานข้อมูลทางกายภาพเข้ากับข้อมูลทางจินตภาพอย่างมีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ส่งผลให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสเต็มอิ่ม จุดประกายคิดให้ตระหนักในคุณค่าของความเป็นมนุษย์อันพึงเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองหลัก หรือชนชาติส่วนน้อย อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่หยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาพูด อาทิ เรื่องสิ่งแวดล้อมการสร้างเขื่อน ซึ่งในแง่หนึ่งอาจมองได้ว่าไม่เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นผลกระทบของการจัดการทรัพยากรสมัยใหม่ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อกลุ่มชาติพันธุ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยรวมแล้วจึงทรงคุณค่าที่จะเป็นหนังสือรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดีชาติพันธุ์วิทยา ประจำปีพุทธศักราช 2554

สยามหลากเผ่าหลายพันธุ์

หนังสือเล่มนี้เป็นบทความที่ได้มาจากการสัมภาษณ์บุคคลต่าง ๆ ถึง 22 คน ที่หลากหลายเผ่าพันธุ์จากชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย และแต่ละคนล้วนมีความภูมิใจในเผ่าพันธุ์ของตน แม้ทุกคนจะรักและเต็มใจเสียสละให้ประเทศไทย แต่ก็ยังต้องการรักษาเอกลักษณ์ชาติพันธุ์ของตนเอง ชี้ชัดว่าสังคมไทยเป็น “พหุสังคม” คือมีผู้คนหลากหลายวัฒนธรรมมารวมกันอย่างกลมกลืน สงบสุข งานเขียนมีลักษณะเป็นสารคดีชีวิตของผู้ดำรงอัตลักษณ์แห่งชาติพันธุ์ตนเองไว้อย่างเด่นชัด ซึ่งมิได้มีเพียงชนเผ่าที่เราคุ้นเคย แต่ยังเจาะลึกถึงเผ่าพันธุ์เล็ก ๆ อย่างชาวชอง ชาวลาวครั่ง ฯลฯ ซึ่งเกิดจากการที่ผู้เขียนพากเพียรเดินทางไปสัมภาษณ์ แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นสารคดีที่มีคุณค่าเชิงวรรณศิลป์ มีข้อมูลน่าเชื่อถือ อันเกิดจากการค้นคว้า ศึกษา วิจัย ส่งผลให้เป็นหนังสือชวนอ่าน จุดประกายความคิดให้สังคมตระหนักว่า ความภาคภูมิใจในตนเองควรอยู่บนพื้นฐานของการเคารพและเข้าใจคนอื่นด้วย กลวิธีการนำเสนอของหนังสือเล่มนี้น่าสนใจ เพราะใช้การสัมภาษณ์บุคคลชาติพันธุ์ต่าง ๆ แล้วนำมารวมไว้ในเล่มเดียว จึงให้เห็นภาพกว้างของความหลากหลายของชนเผ่าในประเทศไทย ด้วยวิธีเขียนที่ไม่เป็นทางการมากเกินไปจึงอ่านสนุก พร้อมกับมีเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่น่าทึ่ง และแสดงสายสัมพันธ์ระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ ให้เห็น ทั้งจากการตั้งสมมติฐาน การเก็บข้อมูล และการสัมภาษณ์ จึงเป็นหนังสือให้ความรู้ด้วยภาษาง่าย ๆ และอ่านได้ด้วยความเพลิดเพลิน ทรงคุณค่าแก่การเป็นหนังสือชนะเลิศรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทสารคดีชาติพันธุ์วิทยา ประจำปีพุทธศักราช 2554

500 ปี ความสัมพันธ์ สยาม-โปรตุเกส

การเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ไปศึกษาและค้นคว้าเอกสารข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิในทวีปยุโรป แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นสารคดีเชิงประวัติศาสตร์ ด้วยภาษาสำนวนชวนอ่าน ชวนติดตาม เป็นจุดเด่นที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ จุดประกายความคิดให้คนไทย ตระหนักถึงความหมายแห่งสายสัมพันธ์ สยาม- โปรตุเกส ที่มีมายาวนานถึงกึ่งสหัสวรรษ หลายสิ่งหลายอย่างที่โปรตุเกสนำเข้ามาในวันนั้น  กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของพหุสังคมไทย อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

100 เรื่องเมืองใต้

รวมบทความอันเป็นสาระความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นใต้ จำนวน 100 เรื่อง ครอบคลุมเรื่องราวรอบด้าน ทั้งวรรณกรรม ภาษา ศาสนา ค่านิยม ความเชื่อ ตลอดไปจนถึงศิลปะการแสดง ดนตรี กีฬา ฯลฯ ซึ่งผ่านกระบวนการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยทางวิชาการ มานำเสนอด้วยภาษาสำนวนที่กระชับ เรียบง่าย แต่แฝงด้วยชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ทางสังคมวิทยา มนุษยวิทยา คติชนวิทยา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้รู้จักภาคใต้อย่างถ่องแท้

ไทบ้านดูดาว

หนังสือว่าด้วยภูมิปัญญาและองค์ความรู้เกี่ยวกับดวงดาว ของชาวบ้านไทยหลายภูมิภาคอันมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตสมัยนั้น เป็นการยืนยันว่าความรู้และสติปัญญาของคนไทยมีพัฒนาการมาช้านานแล้ว ผู้เขียนนำเสนอข้อมูลยาก ๆ ให้เข้าใจง่าย ด้วยชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ผนวกกับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทำให้หนังสือเล่มนี้ชวนอ่าน ชวนติดตาม จุดประกายความคิด และพัฒนาสำนึกเชิงสร้างสรรค์ชีวิตและสังคม

ตามรอยเจ้าอนุวงศ์ คลี่ปม ประวัติศาสตร์ ไทย-ลาว

สารคดีเชิงประวัติศาสตร์ที่เสนอแนวคิดใหม่ ด้วยวิธีการศึกษาค้นคว้าใหม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีการประเมินสถานะของบุคคลในประวัติศาสตร์ไทย-ลาว คือ เจ้าอนุวงศ์แห่งกรุงเวียงจันทน์ ด้วยมุมมองใหม่ที่แตกต่างจากกรอบความคิดทางประวัติศาสตร์ชาตินิยมแบบเดิม ๆ จึงมีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการจุดประกายความคิด ให้คนไทยรู้จักตนเอง รู้จักเพื่อนบ้าน หรืออย่างน้อยที่สุดคือรู้จักเอาใจเขา มาใส่ใจเรา อันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันเพื่อนมนุษย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านที่สนิทชิดเชื้อดั่งญาติมิตรเฉกเช่นลาว

ชาร์ลส์ ดาร์วิน กำเนิดแห่งชีวิต และทฤษฎี วิวัฒนาการ

ประวัติชีวิตนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลก ที่มีคำกล่าวว่า การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต จะไม่มีความก้าวหน้าดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเลย หากเมื่อราว 200 ปีก่อน ไม่มีบุรุษผู้นี้ถือกำเนิดขึ้นมา เรื่องราวในชีวิตของเขา มีความน่าสนใจไม่ด้อยไปกว่า “ทฤษฎีวิวัฒนาการ” ที่เขาค้นพบเลย การค้นคว้าข้อมูลอย่างละเอียด รอบด้าน มานำเสนอด้วยข้อเขียนที่อ่านเข้าใจง่าย ชวนติดตาม ทำให้ชีวประวัติชาร์ลส์ ดาร์วิน อุดมด้วยเกร็ดความรู้ทางชีววิทยา ซึ่งนอกจากจะอ่านเพลินแล้ว ยังจุดประกายความใฝ่รู้ทางวิทยาศาสตร์ให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี  

อิสรภาพบนเส้นบรรทัด ๑๓ นักโทษประหาร

หนังสือรวมข้อเขียนของ 13นักโทษประหาร ผู้ต้องขังเรือนจำกลางบางขวาง ที่ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการเขียน ตามโครงการ “เรื่องเล่าจากแดนประหาร” สะท้อนชีวิตที่ดำเนินไปอย่างไร้อิสรภาพในกรอบกรงขัง และโซ่ตรวนที่ติดตรึงอยู่ตลอดเวลา ทว่า ก็มิอาจกักขังความคิดและจินตนาการของพวกเขาได้ การได้เขียนหนังสือ จึงถือเป็นอิสรภาพบนเส้นบรรทัดของพวกเขาโดยแท้ สาระสำคัญของหนังสือ ที่สื่อสารผ่านข้อเขียนอันมีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ มีบทบาทจุดประกายความคิดให้ผู้อ่านตระหนักถึงผลร้ายของการกระทำความผิด ความไม่เกรงกลัวต่อบาป อันส่งผลให้ต้องไร้สิ้นซึ่งอิสรภาพ กระทั่งดูเหมือนจะไร้สิ้นซึ่งสถานะความเป็นมนุษย์ ทว่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับการช่วยเหลือเอื้ออาทรกันระหว่างนักโทษประหาร ก็สะท้อนความจริงในมุมกลับ ว่าในความเป็นจริง พวกเขายังมีความเป็นมนุษย์ ที่มีความรู้สึกนึกคิด มีจินตนาการ มีความใฝ่ฝัน..อยู่เต็มเปี่ยม

เรื่องเล่าจากร่างกาย

เป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ที่อ่านง่าย โดยเล่าเรื่องการทำงานของร่างกายและสมองของมนุษย์ผ่านวิวัฒนาการ อันจะช่วยให้เราเดินผ่านปัจจุบัน สู่อนาคตได้อย่างเหมาะสม เป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนควรรู้ ส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางจิตใจ ไม่อ่อนไหวง่าย ผู้เขียนมีกระบวนการหาข้อมูลมารวบรวมได้อย่างน่าทึ่ง มีกลวิธีการเขียนที่เรียบง่ายชัดเจน และเลือกประเด็นที่หาได้ยากในหนังสือไทย โดยใช้ความพยายามในการเขียนอธิบายได้อย่างน่ามหัศจรรย์ใจ “เรื่องเล่าจากร่างกาย” จัดเป็นหนังสือสารคดีที่มีเนื้อหาหลากหลาย โดยมีจุดศูนย์กลางของมนุษย์ที่นักปรัชญาเรียกว่า “อนุจักรวาล” ซึ่งผู้เขียนบรรจงเลือกคำพูดและสำนวนโวหารเพื่อจูงใจผู้อ่าน ให้ติดตามเรื่องได้อย่างต่อเนื่อง ไม่น่าเบื่อ มีความสนุกเพลิดเพลิน คลุกเคล้าด้วยสาระความรู้ที่น่ารู้ และมีประโยชน์ตลอดทั้งเล่ม เป็นหนังสือที่จุดประกายความคิด พัฒนาสำนึกเชิงสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอย่างยิ่ง  

เพื่อรอยยิ้มเมื่อสิ้นลม เล่ม 1-2

บันทึกเรื่องจริงที่เล่าผ่านประสบการณ์ของพยาบาล โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่นอกจากจะมีทุกข์ทางกายแล้ว ยังมีทุกข์ทางจิตใจ ทำให้ผู้ป่วยสามารถยิ้มได้เมื่อสิ้นลม นับแบบอย่างที่ดีของความเห็นอกเห็นใจ ความเสียสละเพื่อผู้อื่น ความสุขที่แท้จริงเกิดจากการให้ยิ่งกว่าการรับ คุณค่าความเป็นมนุษย์ สมบูรณ์ได้ด้วยการทำความดี มีเมตตา กรุณา ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้เขียนใช้เวลาถึง 2 ปี เพื่อพูดคุย รวบรวมเรื่องราว สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการเก็บข้อมูลที่รอบด้าน ทำให้คนอ่านตระหนักว่า ความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว ชีวิตกับความตายนั้นเป็นของคู่กัน  เสริมส่งให้ผู้อ่านมีสติในการดำเนินชีวิต เข้าใจถึงสัจธรรมแห่งธรรมชาติ ที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกชีวิตโดยเท่าเทียมกัน คือความตาย ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาษาง่าย  ๆ สั้น กระชับ แต่สะเทือนใจให้แง่คิด ทรงคุณค่าทางวรรณศิลป์ จึงเป็นหนังสือสำหรับการเตรียมตัวในเรื่อง “มรณานุสติ” ที่ดียิ่ง