All Posts

Archives

  • Home
  • รวมเรื่องสั้น

DRAG QUEEN และซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ

            DRAG QUEEN และซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ  ของ ณพรรธน์ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๘ เรื่อง           ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย มีทั้งแนววิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำสมัย แนวแฟนตาซี แนวสมจริง แต่ละเรื่องสะท้อนค่านิยมความคิดต่างของผู้คนหลากเพศ  หลายวัย  ผู้เขียนเล่าเรื่องอย่างมีวรรณศิลป์ ชวนให้ติดตาม ตอนจบของแต่ละเรื่องได้ทิ้งปริศนาปลายเปิดให้ผู้อ่านคิดและจินตนาการต่อไป คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น DRAG QUEEN และซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ  ของ ณพรรธน์    ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตนอื่น ๆ

            DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตนอื่น ๆ ของ จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท  เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นแนวจินตนิยม ๘ เรื่อง มีโครงเรื่อง ตัวละคร และแนวความคิดแปลกใหม่หลากหลาย   ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ชั้นเชิงในการนำเสนอเรื่องอย่างสร้างสรรค์ มีมิติซับซ้อน มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิต  ความสำคัญของความรักและเสรีภาพ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตน อื่น ๆ ของ จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

Adaline and Other Short Stories อดาไลน์ และเรื่องสั้นอื่น ๆ

            Adaline and Other Short Stories อดาไลน์ และเรื่องสั้นอื่น ๆ ของลาดิด เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นนอกกระแส ๑๐ เรื่อง แปลกใหม่ทั้งเนื้อหาและกลวิธี ผสมผสานระหว่างการเล่าเรื่องแบบกระแสสำนึกกับเรื่องเหนือจริง เนื้อเรื่องและตัวละครมีสีสัน  แต่ละเรื่องสั้นกระชับและมีความหลากหลายในด้านฉาก มิติเวลา เพศสภาพ นับเป็นวรรณกรรมไทยของนักเขียนไทยรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น Adaline and Other Short Stories อดาไลน์ และเรื่องสั้นอื่น ๆ  ของ  ลาดิด ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗  

คอลลาจบรรเลง

          คอลลาจบรรเลง ของ แพรพลอย วนัช  เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๐ เรื่อง ที่มีลักษณะสมจริงสะท้อนภาพของคนในสังคมเมืองที่ล้วนต้องดิ้นรนที่จะดำเนินชีวิตให้อยู่รอดและก้าวไปข้างหน้าท่ามกลางกระแสเชี่ยวกรากของสังคมสมัยใหม่  ด้วยการปรับตัว เปลี่ยนแนวความคิด ไปพร้อม ๆ กับการพยายามรักษาคุณค่าและจิตวิญญาณเดิมของตนไว้   ตัวละครในบางเรื่องสามารถเอาตัวรอดอยู่ต่อไปได้  บางเรื่องยังไม่รู้แพ้ชนะ ขณะที่บางเรื่องตัวละครเอกพ่ายแพ้จนต้องออกจากเวทีไป ผู้ประพันธ์เล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย  วางโครงเรื่องไม่ซับซ้อน  ใช้บทสนทนาที่เป็นธรรมชาติเหมาะสมตามสถานภาพของตัวละคร  แต่กระนั้นทุกเรื่องก็มีความลุ่มลึก เฉียบคม และสะเทือนอารมณ์ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น คอลลาจบรรเลง ของ  แพรพลอย วนัช  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

บางหลืบสมรภูมิ

บางหลืบสมรภูมิเป็นเรื่องสั้นเล่มเล็กที่เก็บเอาเนื้อหาทั้งด้านกว้างและด้านลึกไว้ได้อย่างน่าอ่าน ใช้ภาษาการประพันธ์ได้ดี กระชับ โดยเฉพาะการพรรณนาอารมณ์ความรู้สึกเบื้องลึกของตัวละคร ฉายภาพให้เห็นซอกหลืบหัวใจมนุษย์ที่เปรียบเสมือนสมรภูมิการ ต่อสู้ อันเป็นผลกระทบจากภายนอก เช่น ความเปลี่ยนแปลงของยุคโลกาภิวัตน์ (รักล้นของบุญล้น) ปัญหาสิทธิของชนกลุ่มน้อย (ฝันที่ไปไม่ถึงของ “นาบู”) ความปรารถนาตามธรรมชาติมนุษย์ (โพรงกระรอก) ฯลฯ

กว่าพรุ่งนี้จะมาเยือน

กว่าพรุ่งนี้จะมาเมือนเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตผู้คนในท้องถิ่นใด้ซึ่งได้รับผลกระทบจากกระแสความนิยมของสังคมและจิตใจของมนุษย์ที่แปรเปลี่ยนไป เรื่องสั้นทั้ง ๑อ เรื่องราดภาพฉากและชีวิตชาวบ้านอย่างได้บรรยากาศของสีสันท้องถิ่น บางเรื่องแฝงนัยให้ผู้อ่าน คิดต่อไปว่าเหตุแห่งความสูญเสียของตัวละครนั้นมาจากอะไร เช่น ความตายของชาวสวนยางชื่อ “สาและ” ในเรื่อง “กว่าพรุ่งนี้จะมาเยือน” อาจเกิดจากการก่อการร้ายก็ได้หรืออาจเกิดจากการแก้แค้นของคนรักเก่าของลูกสะใภ้ก็ได้ หรือยังอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ได้อีกเช่นกัน ทั้งสามทางล้วนมีมูลเหตุที่ทำให้คิดต่อไปได้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในชีวิตจริงซึ่งบางครั้งมิได้มีคำตอบเพียงหนึ่งเดียว งานเขียนที่ช่วยให้ผู้อ่านคิดได้หลายนัยเช่นนี้ คุ้มค่าแก่การอ่านเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องเล่าของคนบันทึกเรื่องเล่าที่นักเล่าเรื่องคนหนึ่งเล่าให้เขาฟัง

มีจุดเด่นอยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่องและแนวคิด ผู้เขียนสมมุติให้เรื่องสั้นทั้ง ๑๑ เรื่องเป็นคำบอกเล่าของชายผู้หนึ่งที่ตระเวนไปตามที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครแล้วมีเรื่องมาเล่าให้ผู้เขียนฟัง เรื่องเล่าของเขาเป็นชีวิตที่หลากหลายของผู้คน เป็นแง่มุมที่ดูว่าเล็กน้อยแปลกพิสดาร แต่ก็สะท้อนชีวิตและโลกทัศน์ของคนกรุงที่บางครั้งไร้เหตุผลจนน่าขัน เช่นการที่คนเฝ้าหอพักเพียรเขียนประกาศห้ามสารพัดเรื่องอย่างไร้ผลและดูเหมือนไร้สาระนั้นสะท้อนภาพพฤติกรรมของผู้คนที่ไร้ระเบียบวินัยในสังคมที่เจริญอย่างเมืองกรุงได้เป็นอย่างดี เป็นต้น

คนเล็กหัวใจมหึมามหาสมุทร

คนเล็กหัวใจมหึมามหาสมุทรเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเอกภาพทั้งในด้านเนื้อหาและกลวิธีการนำเสนออย่างชัดเจน ผู้แต่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่แง่คิด และ จิตวิญญาณของเหล่าชาวประมง และกลุ่มผู้มีสถานภาพอันต่ำต้อย ซึ่งแม้จะเป็นเพียงคนเล็กๆ ในสังคม แต่กลับดูยิ่งใหญ่มหาศาลในด้านน้ำใจอันใส่ชื่อบริสุทธิ์ที่มีต่อเพื่อนร่วมอาชีพและเพื่อนร่วมโลกผู้ประสบความเดือดร้อนและทุกข์ยาก ด้วยลีลาการนำเสนอที่เรียบง่ายและสำนวนภาษาที่สามัญ แต่คมบาดลึกอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่าน ทำให้เกิดความหดหู่และปิติตื้นต้นได้อย่างน่าประทับใจ

ทัศนียภาพที่เคลื่อนไหล

ทัศนียภาพที่เคลื่อนไหล ของ นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๓ เรื่อง ที่นำชีวิตของผู้คนในสังคมธรรมดาที่อยู่รายรอบตัวเรา ผ่านสายตาของผู้เขียน โดยเล่าเรื่องอย่างง่าย ๆ แต่สร้างอารมณ์ร่วมให้แก่ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนใช้ภาษาที่ราบรื่น งดงาม และกลมกลืนกับเนื้อเรื่องที่มีลักษณะแปลกใหม่ เน้นความเคลื่อนไหวของตัวละคร ทั้งยังบรรยายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีชีวิตชีวาน่าติดตาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น ทัศนียภาพที่เคลื่อนไหล ของ นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

เรายังยิ้มได้ ดอกไม้ยังแย้มบาน

เรายังยิ้มได้ ดอกไม้ยังแย้มบาน ของ อุเทน พรมแดง เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๑ เรื่อง ที่เสนอเรื่องราวของคนในโลกยุคใหม่ ทั้งในเมืองและชนบท ตั้งแต่ผู้มีอันจะกินจนถึงผู้ยากจนข้นแค้นในทุกช่วงวัย โดยสะท้อนภาพชีวิตที่ต้องดิ้นรน ทนทุกข์ และขัดเคือง เมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก  ปัญหาชีวิต หรือแม้กระทั่งความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคม ผู้ประพันธ์มีความสามารถในการเล่าเรื่องที่เข้าใจง่ายด้วยภาษาที่งดงาม  ดำเนินเรื่องไปสู่ตอนจบที่ทำให้ผู้อ่านคาดไม่ถึง  และในขณะเดียวกันก็สร้างความหวังและมุมมองด้านบวกของชีวิต สมกับชื่อหนังสือ เรายังยิ้มได้ ดอกไม้ยังแย้มบาน คณะกรรมการตัดสินจึงมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น เรายังยิ้มได้ ดอกไม้ยังแย้มบาน   ของ  อุเทน พรมแดง ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

สู่อนาคตกาล

สู่อนาคตกาล ของ อุเทน พรมแดง เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ ๘ เรื่อง ที่นำความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีมาเสนอภาพปัญหาและอิทธิพลต่อสภาพสังคมปัจจุบัน  ด้วย   ชั้นเชิงการเล่าเรื่องอย่างแยบยลและสมจริง แม้โครงเรื่องจะใช้ฉากของโลกอนาคต  หรือเหตุการณ์เหนือจริง แต่ก็มิได้ทิ้งหลักเหตุผลและความเป็นไปได้  สะท้อนภาพสังคมไทยในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความยอกย้อนสับสนได้อย่างเด่นชัดและน่าสนใจ ความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้  อยู่ตรงที่นำเสนอสารัตถะและองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาสอดประสานกับเนื้อหาทางด้านสังคมและการเมือง ด้วยกลวิธีการประพันธ์ที่มีวรรณศิลป์  และสร้างความสะเทือนอารมณ์ได้อย่างน่าประทับใจยิ่ง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น สู่อนาคตกาล ของ อุเทน พรมแดง  ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

บ้านที่กลับไม่ได้

บ้านที่กลับไม่ได้ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นเชิงมานุษยวิทยาจำนวน ๙ เรื่อง ของบุญเลิศ วิเศษปรีชา ผู้แต่งเล่าเรื่องของผู้คนต่างเพศต่างวัย ต่างเชื้อชาติ แต่มาใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้านกลางกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ตัวละครในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ มีปํญหาชีวิตที่ทำให้ ต้องมากินมานอนริมถนน สวนสาธารณะ ชายคาตึกแถว ฯลฯ อาศัยอาหารบางมื้อจากโบสถ์และบางแห่งอนุญาตให้คนไร้บ้านซักผ้าได้ในวันอาทิตย์ ทำให้คนไร้บ้านได้มาพบปะกัน ผู้แต่งใช้ภาษาที่เรียบง่ายและมีชีวิตชีวาในการบรรยายฉาก บทสนทนาและพฤติกรรมของตัวละคร อย่างสมจริง สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจน เรื่องราวที่อยู่ในเรื่องสั้นชุดนี้เป็นเรื่องจริงที่ผู้แต่งได้สัมผัสมาด้วยตนเอง แทนที่ผู้แต่งจะเขียนเป็นสารคดีที่มุ่งให้ความรู้ทั่ว ๆ ไป กลับเลือกที่จะใช้รูปแบบเรื่องสั้น ทำให้ผู้อ่านซึมซาบประทับใจกับเรื่องที่เล่าได้เป็นอย่างดี คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น บ้านที่กลับไม่ได้ ของ บุญเลิศวิเศษปรีชา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้นประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

Family Comes First ด้วยรักและผุพัง

Family Comes First ด้วยรักและผุพัง ของ นริศพงศ์ รักวัฒนานนท์ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๑ เรื่อง ที่มีทิศทางไปในแนวเดียวกัน คือ เล่าเรื่องของคนไทยเชื้อสายจีนและครอบครัวจีนที่อยู่ในสังคมไทย ผู้แต่งสะท้อนลักษณะทางวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ และความคิด ของสังคมแบบจีนได้อย่างเด่นชัดและกระทบใจ ทั้งเปิดเปลือยปัญหาที่แฝงฝังอยู่โดยเฉพาะพลังอำนาจที่กดทับของประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น ภาระหน้าที่ต่อครอบครัวหรือวงศ์ตระกูล การให้ความสำคัญแก่ลูกชายละเลยลูกสาว การต้องเก็บงำความคิดความต้องการ และตัวตนที่แท้จริง โดยแสดงผ่านตัวละครที่มีความแตกต่าง ทั้งในด้านวัยสถานะทางสังคม วุฒิภาวะ และเพศสภาพ ผู้แต่งบรรยายปูพื้นเรื่องอย่างละเอียดและแจ่มชัด ด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่สื่อความหมายได้ลุ่มลึก บางเรื่องใช้สัญลักษณ์ บางเรื่องเหนือจริง นำผู้อ่านไปสู้ประเด็นความขัดแย้ง และการต่อต้านของตัวละคร ที่เกิดและเติบโตอยู่ในกรอบของครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกหล่อหลอมจากสังคมใหญ่ที่เป็นสากล อย่างไรก็ดี แม้เรื่องราวของเรื่องสั้นชุดนี้จะเป็นเรื่องของคนเชื้อสายจีน แต่ปัญหาและการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากปัญหาเหล่านี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญของมนุษย์ที่มีอยู่ในทุกสังคม ทุกยุคสมัย คณะกรรมการตัดสินจึงมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น Family Comes First ด้วยรักและผุพัง ของ นริศพงศ์ รักวัฒนานนท์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

สเปโร โซนาตา ท่วงทำนองแห่งความหวัง

สเปโร โซนาตา ท่วงทำนองแห่งความหวัง ของ รมณ กมลนาวิน เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๒ เรื่อง สะท้อนภาพภาวะความเป็นมนุษย์ซึ่งเต็มไปด้วยความหม่นหมองมุ่งเน้นที่ชีวิตของคนชายขอบ คนต่างด้าว คนยากไร้ ครอบครัว และความทุกข์ของมนุษยชาติ ผ่านเรื่องเล่าด้วยภาษาที่ทรงพลัง สื่อภาพและอารมณ์ความรู้สึก แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงแตกร้าวในสังคม อาทิ ปัญหาด้านจิตวิทยาภายในครอบครัว เรื่องชนชาวเขาซึ่งเป็นปัญหาทางชาติพันธุ์ เรื่องแรงงานต่างด้าวในสังคมไทย เป็นต้น ความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่โครงเรื่องซึ่งมีความซับซ่อนมีหลายมิติ บางเรื่องยอกย้อน แล้วค่อย ๆ คลี่คลายเรื่องไปในตัวเอง ผู้แต่งเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง ด้วยภาษาที่งดงามและลุ่มลึก ฉายภาพความเป็นปัจเจกบุคคลที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความเศร้า อย่างไรก็ดี แม้เรื่องสั้นชุดนี้จะแสดงให้เห็นถึงความทุกข์นานัปการของมนุษย์ แต่ผู้เขียนก็ตรึงผู้อ่าน ให้ติดตามและมีอารมณ์ร่วมกับชะตากรรมของตัวละคร และในขณะเดียวกันก็สัมผัสถึง“ท่วงทำนองแห่งความหวัง” ที่ผู้เขียนต้องการสะกิดเตือน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น สเปโร โซนาตา ท่วงทำนองแห่งความหวัง ของ รมณ กมลนาวิน ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

บินไปเหนือสะพานข้ามดาว

“บินไปเหนือสะพานข้ามดาว” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นจำนวน ๑๒ เรื่อง ของ ประชาคม ลุนาชัย  สะท้อนให้เห็นแง่มุมของความเป็นมนุษย์และภาพสังคมหลากหลาย นอกจากเรื่องที่มีกลิ่นอายแห่งท้องทะเลและชีวิตที่กร้านแดดฝนบนเรือประมงแล้ว  ผู้เขียนยังนำบอกเล่าเรื่องราวและคิดค้นแง่มุมเนื้อหาสาระในแต่ละเรื่องให้ร่วมสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็นำเอาสัตว์ต่าง ๆ มาเป็นสัญลักษณ์สะท้อนให้เห็นชีวิตผู้คนและด้านมืดที่้เกิดขึ้นในยุคนี้  ทั้งยังแสดงทัศนะที่มีต่อเหตุการณ์ทางการเมือง   ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความอยุติธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น  บางเรื่องได้ใช้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงของโลกมาต่อยอดความคิดเป็นเรื่องใหม่อีกด้วย ผู้เขียนมีความคิดที่ลุ่มลึกนำเสนอเรื่องราวด้วยกระบวนวิธีเรียบง่าย ผ่านภาษาประณีตงดงาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “บินไปเหนือสะพานข้ามดาว” ของ ประชาคม ลุนาชัย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

สลายสิ้นซึ่งความหวังรังรอง

“สลายสิ้นซึ่งความหวังรังรอง” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๘ เรื่อง ของ ตินกานต์ มีเนื้อหาและวิธีการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ มุ่งสะท้อนถึงความสิ้นสลายของมนุษย์ในหลากหลายสถานะ หลากหลายรสอารมณ์  ผ่านภาพชีวิตความสัมพันธ์ของคนธรรมดา ๆ ที่ต่างเพศต่างวัยและต่างอาชีพในสังคม โดยเฉพาะในครอบครัวซึ่งมีบาดแผลให้เจ็บปวดรวดร้าวจากนานาปัจจัย อาทิ ปัญหาชีวิตคู่และการพยายามฟื้นฟู เรื่องเด็กกำพร้าที่ความทุกข์วัยเด็กส่งผลถึงชีวิตปัจจุบัน เรื่องคนชราผู้อยู่โดดเดี่ยว หรือเรื่องชนชั้นกลางผู้ทำงานหนักเพื่อสู้กับชะตากรรม ความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่การถ่ายทอดเรื่องราวอย่างประณีต ละเอียดลออในทุกด้าน มีแนวคิดสำคัญของเล่มเป็นเรื่องจิตวิทยาที่ลุ่มลึก แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์ว่า กว่าจะเป็นคนมีคุณภาพและมีความสุขได้นั้น ต้องใช้ปัญญามากกว่าอารมณ์ ทั้งหมดเสนอผ่านภาษาที่ลื่นไหลงดงาม      สื่อภาพ แสง สี เสียง และอารมณ์ความรู้สึกตัวละครได้ชัดเจน มีชีวิตชีวาและสมจริง  ก่อให้เกิดจิตสำนึกในการดำเนินชีวิตแก่คนในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม คณะกรรมการตัดสินจึงมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “สลายสิ้นซึ่งความหวังรังรอง” ของ  ตินกานต์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

คืนปีเสือและเรื่องเล่าของสัตว์อื่น ๆ

        “คืนปีเสือและเรื่องเล่าของสัตว์อื่น ๆ” ของ จเด็จ กำจรเดช เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๑ เรื่อง มุ่งสะท้อนภาพวิถีและชีวิตชาวบ้าน เน้นหนักในพื้นที่ภาคใต้ โดยชี้ให้เห็นภาพชีวิตแบบเดิมที่เต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพร สิงสาราสัตว์ และการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย กับชีวิตที่ถูกเทคโนโลยีสมัยใหม่รุกล้ำตามความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยตั้งต้นด้วยเรื่องเล็ก ๆ แต่เกี่ยวพันหรือยึดโยงไปสู่เรื่องใหญ่ หรือเรื่องหลักของประเทศหรือแม้กระทั่งเรื่องของโลก  บางครั้งแสดงความรู้ด้านตำนาน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณกรรม  ฯลฯ มากจนอาจกล่าวได้ว่า แหวกขนบของเรื่องสั้น ผู้เขียนมีวิธีการนำเสนอเรื่องเล่าที่แปลกใหม่แตกต่าง  ทำให้ซับซ้อนขึ้นด้วยวิธีเล่าสลับไปสลับมาทั้งย้อนไปในอดีตและก้าวไปในอนาคต และไม่ใช่ครั้งเดียวในแทบทุกเรื่อง  รวมทั้งการเล่นกับโลกภายในที่เต็มไปด้วยจินตนาการจนแยกไม่ออกจากโลกภายนอก  และอาศัยความเหลื่อมกันของสองโลกนี้เป็นตัวทำให้เกิดความคลุมเครือได้อย่างงดงามและกระแทกใจ เป็นเรื่องสั้นที่มีความเป็นสมัยใหม่  มีเสน่ห์ สมยุคสมสมัย คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “คืนปีเสือและเรื่องเล่าของสัตว์อื่น ๆ”  ของ จเด็จ กำจรเดช ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

ไร้สัญชาติและตัวละครอื่น ๆ

“ ไร้สัญชาติและตัวละครอื่น ๆ”  ของ  “บัญชา อ่อนดี”  เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๐ เรื่องที่สะท้อนความเข้าใจชีวิตผ่านปัญหาที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างคนกับคน คนกับความคิด และคนกับสิ่งแวดล้อม โดยขุดเอาปมเหง้าของปัญหาในชีวิตที่แตกต่างหลากหลายในสังคมมาเขียนได้อย่างลึกซึ้ง อาทิ เรื่องชาติพันธุ์ การรุกล้ำชีวิตของสัตว์และผลพวงของการกระทำ กลไกการทำงานของความเป็นแม่ มนุษย์กับอดีต  เป็นการตั้งคำถามกับชีวิตด้วยลีลาการเขียนที่แยบยล ซับซ้อน และใช้ภาษาที่สอดคล้องกับเรื่องราว ให้ความรู้สึกกระทบใจ บางเรื่องมีอารมณ์ขัน  มีชีวิตชีวา คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น  “ไร้สัญชาติและตัวละครอื่น ๆ” ของ “บัญชา อ่อนดี”  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓

๒๔ ชั่วโมง

“๒๔ ชั่วโมง” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๔ เรื่อง ของ “แพรพลอย วนัช” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต และสัมพันธภาพของคนในสังคม ซึ่งดำเนินไปในแต่ละวัน ผ่านเรื่องราวของตัวละครหลากหลายสถานะ หลากหลายแง่มุม หลากหลายเรื่อง และหลากหลายรส ผู้เขียนสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างสมจริง บางเรื่องท้าทายความคิด บางเรื่องสร้างแรงสะเทือนใจ บางเรื่องเป็นอุทาหรณ์ให้เข้าใจโลกและชีวิต ความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ชั้นเชิงในการนำเสนอเนื้อหาได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ มีการใช้สัญลักษณ์ มีความเปรียบที่แปลกใหม่ ใช้ภาษาเล่าเรื่องที่เป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัวและสังคมอย่างลึกซึ้ง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “๒๔ ชั่วโมง” ของ “แพรพลอย วนัช” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓        

เรื่องราวในหนึ่งวันกับเหตุการณ์ไม่ปกติอื่น ๆ

“เรื่องราวในหนึ่งวันกับเหตุการณ์ไม่ปกติอื่น ๆ” ของ “กฤติศิลป์ ศักดิ์ศิริ”   เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๙ เรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราว ปัญหา และอารมณ์ความรู้สึกของคนที่ต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในสังคมสมัยใหม่ได้อย่างลุ่มลึกและมีพลัง แต่ละเรื่องเปิดเปลือยความรู้สึกนึกคิดที่ซ่อนเร้นของตัวละคร ทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ทั้งความหม่นมัวและความดีงามที่ซ้อนทับซับซ้อนอยู่ในจิตใจของคนเหล่านั้น ความโดดเด่นของรวมเรื่องสั้นเล่มนี้คือการสะท้อนเรื่องราวและปัญหาหลากหลายแง่มุมของผู้หญิงในสังคมปัจจุบัน เน้นย้ำให้เห็นถึงความมีตัวตน มีอารมณ์ มีความคิด และวิธีจัดการกับปัญหาในแบบของตนเอง ผู้เขียนใช้กลวิธีเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา มีรายละเอียดที่สมจริง ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพและมีอารมณ์ร่วม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “เรื่องราวในหนึ่งวันกับเหตุการณ์ไม่ปกติ          อื่น ๆ”  ของ  “กฤติศิลป์ ศักดิ์ศิริ”   ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓

หัวใจดอกไม้

เป็นงานเขียนเชิงจิตวิทยาที่กล่าวถึงปมชีวิตในด้านลึก โดยเฉพาะด้านของผู้หญิงนำธรรมชาติของมนุษย์มากล่าว ผ่านการนำเสนอด้วยภาษาที่ละเมียดละไมเปี่ยมด้วยวรรณศิลป์ ซึ่งให้ความสำคัญในเชิงพรรณนามาก

สายลมบนถนนโบราณ

เป็นเรื่องสั้นที่มีความละเมียดละไมในการใช้ภาษา เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมและวิถีการดำเนินชีวิตของชาวลาวและเขมรในสังคมอีสานแบบโบราณ เรื่องน่าอ่าน บรรยายน่าสนใจและผูกเรื่องดี

ลิ้นชักที่เลิกใช้

เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่นำเสนอเรื่องได้อย่างน่าสนใจทุกเรื่อง ผู้เขียนมองได้ลึกและมองในมุมที่คนอื่นอาจมองข้าม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิง

เรื่องสั้นของคนรักลูก

เป็นเรื่องสั้นแบบฉบับที่มีการหักมุมได้อย่างน่าสนใจ น่าติดตาม อ่านแ ผู้เขียนเขียนเกี่ยวกับความรักระหว่างพ่อ แม่ ลูก โดยใช้สำนวนภาษาที่ละเมียดละไม มีเป้าหมายชัดเจน ถึงแม้จะมีเรื่องราวเพียงแง่มุมเดียว แต่ผู้เขียนก็มีวิธีการนำเสนอเรื่องอย่างหลากหลาย

เรื่องชื่นใจ

เป็นเรื่องสั้นที่แสดงความผูกพันของครอบครัว เพื่อน แสดงความดีงามของจิตใจจบได้ดีทุกเรื่อง สอนใจได้ สอนให้คิด โน้มน้าวให้เด็กกล้าหาญ มีความกตัญญูทำให้คนมองโลกในแง่บวก

บัตรทองคำ

เป็นเรื่องสั้นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างกล้าหาญ ใช้ภาษโน้มน้าวใจให้คล้อยตามได้ดี สะท้อนปัญหาทางด้านสังคมและการเมือง

ในโพรงมล้างวิญญาสมัย

สะท้อนภาพสังคมชนบทภาคกลางในมุมมองของวิถีชีวิตชุมชนคนเชื้อสายลาว ซึ่งมีข้อมูลชีวิตของชาวชนบทที่น่าสนใจ ทั้ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม ผู้เขียนให้ความใส่ใจกับการเลือกสรรถ้อยคำ และช่างคิดจนอาจเรียกได้ว่า ปั้นภาษา

นิทานกลางแสงจันทร์

เป็นเรื่องสั้นที่ใช้สำนวนภาษาได้ละเมียดละไม เข้าใจง่ายและลึกซึ้ง เปรียบเทียบเฉียบคมและสะท้อนสังคม โครงเรื่องมีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตที่เลือกสรรได้เหมาะกับเรื่อง

ดอกไม้สั่นดาวไหว

เป็นหนังสือสำหรับผู้ที่ชอบอ่านเรื่องสั้นโดยเฉพาะ เนื้อเรื่องมีหลากหลายอารมณ์สร้างโครงเรื่องได้อย่างทันสมัย เหมาะแก่คนรุ่นใหม่ เป็นเรื่องเสียดสีเย้ยชีวิตของคนในสังคมปัจจุบัน เขียนเรียบๆ ง่ายๆ แต่อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อ เขียนได้กระชับและฉับไว

ดวงใจยังส่องฝัน

ใช้ภาษาสละสลวย มีจินตภาพ อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสเก็บรายละเอียดทางด้านอารมณ์ได้ดี ให้ความรู้สึกของตัวละครโดยเฉพาะแง่มุมเกี่ยวกับความรัก