พิชิตโควิดด้วยจิตกวี
“พิชิตโควิดด้วยจิตกวี” รวมงานร้อยกรองของ ด.ญ.รินรัก แซ่โค้ว ยุวกวีที่มีมานะมุ่งมั่นเรียงร้อยสร้อยอักษรอันงดงามออกมาเป็นงานประพันธ์ด้วยฉันทลักษณ์ กาพย์ยานี ๑๑ เนื้อหาสาระกล่าวถึงสภาพเหตุการณ์ ข่าวสาร ในช่วงที่ไวรัสโควิดกำลังระบาดหนักทั่วโลก เป็นงานเขียนบริสุทธิ์ที่พรั่งพรูออกมาจากพัฒนาการทางกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของผู้เขียน สำนวนภาษา เรียบง่ายเหมาะสมกับวัย เช่น “ไข้หวัดโคโรน่า อยากบอกว่าน่ากลัวจัง แค่หนูนั้นได้ฟัง เป็นข่าวดังที่โหดร้าย” “หน้ากากอนามัย ฉันสงสัยเป็นนักหนา ทำไมมีราคา แพงนักหนักหนาแพงเกินไป หรือผ้าทำจากทอง ฉันก็มองอย่างสงสัย ดูแล้วก็ไม่ใช่ แล้วทำไมขายแพงจัง” “หมอคือเทวดา นางฟ้าคือพยาบาล พวกเราควรสงสาร พยาบาลและคุณหมอ” พลังการเขียนด้วยใจรักงานวรรณศิลป์ของเด็กหญิงวัยแปดขวบที่กำลังมีพัฒนาการทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง นับเป็นการเริ่มต้นภาษากวีที่ซื่อใส รอวันบ่มเพาะประสบการณ์ต่อไป ผู้เขียนตั้งใจเขียนตามความรู้สึกของตนได้อย่างมีลีลา ความหมายแจ่มแจ้งชัดเจน นับเป็นงานสร้างสรรค์ที่น่าชื่นชม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติมอบเกียรติบัตรรางวัลเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ ด.ญ.รินรัก แซ่โค้ว ผู้เขียน “พิชิตโควิดด้วยจิตกวี” เพื่อสนับสนุน ให้กำลังใจแก่เยาวชนต้นแบบการสืบสานขนบวรรณศิลป์ของไทย
ฮ่วงเฮ้า
กวีนิพนธ์เรื่อง “ฮ่วงเฮ้า” ผู้ประพันธ์เรียกผลงานชุดนี้ว่าเป็น “คันธชาตินิพนธ์ภาษาไทยถิ่นอีสาน” ของ คำเมือง ราวะรินทร์ เป็นรวมบทกวีที่ประพันธ์ด้วยภาษาไทยถิ่นอีสาน ตามขนบวรรณศิลป์ดั้งเดิมของวัฒนธรรมไทยอีสาน นำเสนอภาพวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวไทยพื้นถิ่นที่ผูกพันกับธรรมชาติ ด้วยลีลาทางวรรณศิลป์ โดยนำคำต่าง ๆ มาเรียงร้อยตามลำดับอักษร พร้อมอธิบายศัพท์อย่างละเอียด นอกจากนี้ ยังจดจารกวีนิพนธ์นี้ด้วยอักษรธรรมแบบอีสาน ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิต พร้อม ๆ ไปกับการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาถิ่น ฉันทลักษณ์โบราณที่นับวันจะถูกลืมและสูญหายไป จึงกล่าวได้ว่าผู้ประพันธ์มีความวิริยะอุตสาหะและปณิธานแรงกล้าในการสืบสานมรดกวัฒนธรรมทางหนังสือที่กำลังจะสูญหายไป คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติมอบรางวัลเสริมสร้างกำลังใจให้ คำเมือง ราวะรินทร์ ผู้ประพันธ์ “ฮ่วงเฮ้า” เพื่อสนับสนุน ให้กำลังใจและยกย่องชมเชยความวิริยะอุตสาหะในการสืบสานภาษาและขนบ วรรณศิลป์พื้นถิ่นของไทย
ดวงตาหิ่งห้อย
“ดวงตาหิ่งห้อย” ของ “ปริม” เป็นหนังสือในโครงการ “วิธีสมุดบันทึก” ที่ส่งเสริมให้เยาวชนเขียนบันทึกทุกวัน ผู้เขียนซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุเพียง ๑๒ ปี เลือกใช้รูปแบบคำประพันธ์ประเภทโคลงในการจดบันทึกประจำวันโดยแต่งโคลงวันละ ๒ บททุกวัน นอกจากโคลงสี่สุภาพแล้ว บางวันใช้โคลงกลบท ได้แก่ กลบทบุษบงแย้มผกา กลบทจาตุรทิศ โคลงกระทู้ และโคลงโบราณมหาสินธุมาลี แสดงถึงความรักในการประพันธ์และความเพียรในการสืบสานรูปแบบคำประพันธ์โบราณของเยาวชนซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน ดังนั้น คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติมอบรางวัลเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ “เด็กหญิงศุภาพิชญ์ พรอำนวยผล” ผู้ประพันธ์ “ดวงตาหิ่งห้อย” เพื่อสนับสนุน ให้กำลังใจและยกย่องชมเชยในการเป็นเยาวชนต้นแบบการสืบสานขนบวรรณศิลป์ของไทย
คนที่เรารัก คนที่รักเรา
ผู้ประพันธ์มีความตั้งใจในการทำงาน การใช้ภาษาดี หากฝึกฝนบ่อยๆ สามารถพัฒนางานเขียนได้ต่อไปในอนาคต
ยังมีหวัง
เนื่องจากผู้เขียนมีอายุเยาว์กว่าทุกคนที่ส่งหนังสือเข้าประกวด สำนวนในการเขียนดี รู้จักเอาสิ่งเล็กๆ น้อยๆ มาเขียนเป็นเรื่องราว มีแววจะเป็นนักเขียนที่ดี เขียนเรื่องยังไม่เสมอต้นเสมอปลาย ยังไม่รู้จักใช้บทเจรจา ให้พยายามเขียนอีก ให้เขียนในเรื่องที่มีประสบการณ์ตรง เช่น สิ่งที่ได้ไปพบหรืออ่านมา เรียนรู้ลักษณะคำประพันธ์ อ่านเรื่องที่ชนะการประกวดเพื่อที่จะได้ทราบถึงวิธีการเขียน