หนังสือแนะนำ
สวนชีวิต
สวนชีวิต รวมกวีนิพนธ์ของ ‘กุดจี่’ พรชัย แสนยะมูล เป็นงานฉันทลักษณ์ในรูปแบบกลอนแปดตลอดเล่ม จำนวนทั้งสิ้น ๓๘ สำนวน นำเสนอเรื่องราวได้อย่างมีเอกภาพ เนื้อหาโดยรวม กวีพูดถึงสวน ไม่ว่าจะเป็นสวนในบ้าน (ชานกรุง) สวนนอกบ้าน สวนบ้านนอก อันเป็นถิ่นเกิดของตัวละครผู้เล่าเรื่อง ซึ่งมีทั้งสวนเล็ก สวนใหญ่ สวนทะเล และสวนโลก แล้วหลอมรวมเป็น “สวนชีวิต” ตามชื่อหนังสือ ฉากต่าง ๆ นอกจากสวน ยังมีหนองคลองบึง สายน้ำความทรงจำในวัยเยาว์ เฉพาะอย่างยิ่งสำนวนที่ ๓๐ ชื่อ ‘ทุ่งชีวิต’ เป็นบทกวีขนาดยาว ๔๗ บท ที่เน้นไปทางท้องทุ่ง หัวไร่ปลายนา ภาพลงแขกปักดำทำนา เป็นภาพจำอันแสนงาม เสน่ห์อีกอย่างของหนังสือเล่มนี้คือ ความรักความผูกพัน คนในครอบครัว เครือญาติ และเพื่อนเก่าที่เล่นผจญภัยมาด้วยกันตอนเด็ก ๆ แม้ตัวละครผู้เล่าจะจากถิ่นฐานมาอยู่เมืองหลวงนานเพียงใดก็ไม่เคยลืมรากเหง้า ที่สำคัญกวีเชื่อมโยงธรรมชาติสู่ชีวิต เขียนสายลม แสงแดดได้เห็นภาพ มองต้นไม้ มด แมลง แล้วย้อนมองตนเอง ทั้งยังชี้ให้เห็นว่าธรรมชาติสามารถเยียวยาจิตใจได้ และแฝงด้วยธรรมะ อ่านง่ายแต่งดงามได้พลังบวก
ท่ามกลางวิถีโลกพลิกผัน
ท่ามกลางวิถีโลกพลิกผัน รวมกวีนิพนธ์ของ วรวุฒิ ภักดีบุรุษ เป็นกลอนแปดจำนวน ๓๘ บท แบ่งเนื้อหาเป็น ๓ ภาค คือ ภาคแรก : วิถีของบ้านเก่า ภาคสอง : วิถีโลกพลิกผัน ภาคสาม : วิถีแห่งฝัน ณ ปัจจุบันขณะ ท่ามกลางวิถีโลกพลิกผัน เสนอสาระในภาพรวมกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมและโลกซึ่งเกิดอยู่ตลอดเวลา โลกหมุนไปพร้อมความเจริญรุดหน้า ไม่ว่ามนุษย์จะหลับหรือตื่น แต่หากเป็นเพราะมนุษย์นั้นเองที่วิ่งแข่งกับโลกจนทำให้โลกพลิกผัน เกิดความผันผวนจนทิ้งคนบางคนไว้ข้างหลัง ติดกับค่ายกลของการเปลี่ยนแปลงจนหมดกำลังใจ ในท่ามกลางวิกฤตโลกเช่นนี้ กวีนิพนธ์ ท่ามกลางวิถีโลกพลิกผัน นำเสนอว่า มีแต่การกอดเกี่ยวไม่โดดเดี่ยวกันเท่านั้นที่จะเป็นทางรอดภายใต้เงาของแสงตะวันที่เป็นมูลเหตุในการหมุนของโลก ท่ามกลางวิถีโลกพลิกผัน นำเสนอในแบบนามธรรมพื้นฐาน เน้นการสื่อสารสำหรับคนทั่วไป จึงอ่านง่าย และมีความโดดเด่นในแง่กลอนตลาด ที่คนทั่วไปสามารถสัมผัสได้
จักรวาลในชานเรือน
จักรวาลในชานเรือน รวมกวีนิพนธ์ของ รังสิมันต์ จุลหริก เป็นหนังสือรวมบทกวีซึ่งแบ่งเนื้อหาออกเป็น ๔ ภาค โดยตั้งชื่อว่า ไป – มา – หา – สู่ บทกวีในแต่ละภาคต่างมีแนวคิดหลักร่วมกันคือ “ไป” คือการเดินทางไปในสังคมเมือง เพื่อหวนหาความสำคัญของบ้าน “มา” คือการกลับสู่ถิ่นที่อยู่เพื่อทำความเข้าใจตัวตน “หา” คือการพิจารณาหาความหมายของสิ่งที่เป็นไปในสังคม “สู่” คือการก้าวไปข้างหน้าเพื่อไปสู่จุดหมาย เนื้อหาทั้ง ๔ ตอนเรียงร้อยกันอย่างมีสัมพันธภาพ การประพันธ์มีความเรียบง่าย ใช้กลอนเป็นคำประพันธ์ดำเนินเรื่องทั้งหมดทำให้เกิดความต่อเนื่องสม่ำเสมอ แต่โดดเด่นด้วยการใช้ภาษาเล่าเรื่องทำให้เกิดจินตภาพแก่ผู้อ่าน ทั้งยังนำเสนอประเด็นในสังคมที่หลากหลายได้อย่างน่าสนใจ
สู้ดิวะ
นี่คืองานเขียนกอบกู้ความหวังและสร้างพลังใจให้ตนเอง ของนายแพทย์หนุ่มอนาคตไกล ซึ่งตรวจพบมะเร็งระยะสุดท้ายในร่างกาย คือความจริงแห่งชีวิตของนายแพทย์หนุ่มที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายโดยไม่คาดคิดมาก่อน แต่กลับบันทึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นด้วยการมองโลกเชิงบวก จึงมีคุณค่า เป็นตัวอย่างของการเข้าใจสัจธรรมเข้าใจชีวิตและยอมรับความเป็นจริง ด้วยลีลาภาษาเรียบง่ายแต่ชวนอ่าน
สถาปัตย์-สถาปนา : การ(เมือง)ดีไซน์พื้นที่ และความนัยสถาปัตยกรรม
หนังสือเล่มนี้ชวนผู้อ่านขบคิดถึงเรื่องราวของ ‘เมือง’ ที่เราอาศัยอยู่ ว่าการออกแบบพื้นที่และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ของเมืองนั้น มีความนัยอะไรซ่อนอยู่บ้าง ผู้เขียนชวนเราพิจารณาความสัมพันธ์เชิงอำนาจในมิติต่างๆ โดยเฉพาะอำนาจรัฐ ที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยในเมือง โดยใช้สำนวนภาษาเรียบง่ายและอ่านสนุก
โลก/สลับ/สี/ ชนินทร์ ชมะโชติ
ชนินทร์ ชมะโชติ คือผู้บุกเบิกรายการสารคดีทางโทรทัศน์ในสังคมไทยเป็นคนแรกมาตลอด ๔๐ ปี รายการที่เขาร่วมสร้างสรรค์ล้วนแต่คุ้นหูคนไทย เช่น รายการโลกสลับสี ทะเลไทย ฯลฯ ประสบการณ์ในการทำ สารคดีของเขาจึงลึกซึ้ง และถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือได้อย่างน่าติดตาม และชวนอ่านยิ่ง
ปีสุดท้ายระหว่างพ่อกับลูกชาย
จับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายกับพ่อในวาระสุดท้าย มานำเสนอเป็นสารคดีชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง กินใจ สะท้อนความรู้สึกนึกคิดจากก้นบึ้งของหัวใจลูกผู้ชายที่มีต่อบิดาบังเกิดเกล้าในบั้นปลายของชีวิต
ข้างหลังภาพ 14 ตุลาฯ : จากระบอบปฏิวัติ ของเผด็จการสู่การปฏิวัติของประชาชน
ให้ความรู้ความเข้าใจถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย ได้แก่ เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ และวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยให้มุมมองเชิงลึกที่หนักแน่นไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ผ่านการศึกษาค้นคว้าที่ละเอียดลออ ด้วยหลักฐานเอกสารการสัมภาษณ์เล่าเรื่องภาพและข่าวในสื่อมวลชน โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์และนิตยสาร สะท้อนบทบาทสื่อในการบันทึกประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน
เยาวชนไทยหัวใจโขน
เยาวชนไทยหัวใจโขน นำเสนอเรื่องราวชีวิตนักเรียนนาฏศิลป์และการเรียนโขน ผ่านตัวละครหลัก ‘หฤษฏ์’ ที่เกิดในครอบครัวช่างทำหัวโขน พ่อเป็นนักแสดงโขนของโรงละครแห่งชาติ มีใจรักการแสดงโขน ใฝ่ฝันอยากแสดงโขนเป็นหนุมานเหมือนพ่อ และมีส่วนช่วยสืบสานการแสดงโขน ให้คงอยู่ต่อไป เนื้อเรื่องเล่าถึงการเรียนโขน ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย บรรยากาศในหอพัก การแต่งกายของนักเรียนนาฏศิลป์ ห้องเรียนที่มีเอกลักษณ์ วิธีการสอน การฝึกทักษะการแสดงโขนแต่ละขั้นตอนจนคล่องแคล่ว สามารถแสดงตามบทบาทที่ได้รับอย่างมั่นใจ
นายธนาคารโดยบังเอิญ บันทึกความทรงจำ ปิติ สิทธิอำนวย
นายธนาคาร โดยบังเอิญ บันทึกความทรงจำ ปิติ สิทธิอำนวย เป็นงานเขียนที่ผู้ประพันธ์ เล่าเรื่องราวของตนเอง จากการเริ่มทำงานในธุรกิจเหมืองแร่ดีบุกของครอบครัวที่ภาคใต้ ตัดสินใจย้ายมาทำงานธนาคารในกรุงเทพฯ เพื่อให้ลูก ๆ มีโอกาสได้รับการศึกษาที่ดี เป็นหนังสือชีวประวัติบุคคล ผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ถ่ายทอดประสบการณ์ วิธีการทำงาน การพัฒนางานและพัฒนาตนเอง ให้ข้อคิดในการทำงาน มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่าสนใจ สำนวนภาษาดี เทคนิคการเขียนชวนติดตาม
เที่ยวกับคุณฉลาม
เที่ยวกับคุณฉลาม เนื้อหาเป็นเรื่องชีวิตและการผจญภัยของฉลามขาว วาฬเพชฌฆาต และสัตว์ต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นวรรณกรรมแนวจินตนาการ ที่ใช้ข้อมูลจริงในการเรียบเรียง มีลักษณะเป็นบันเทิงคดีกึ่งสารคดี ที่ให้ความสนุกสนานและความรู้ไปพร้อมกัน เรื่องเริ่มต้นจากการพบกันโดยบังเอิญของสัตว์ต่างพันธุ์ทั้งสอง ที่สามารถสื่อสารเข้าใจกัน จึงตกลงเดินทางไปหาอาหารด้วยกัน ระหว่างเดินทางมีเหตุชุลมุนทำให้เกิดการสลับร่างระหว่างฉลามหนุ่มกับวาฬสูงวัย ทั้งสองจึงจำเป็นต้องเดินทางต่อเพื่อหาทางกลับร่างเดิม ผู้แต่งสามารถอธิบายลักษณะทางกายภาพ การดำรงชีวิต และความคิดของสัตว์ทั้งสองชนิด ผู้อ่านได้เห็นโลกในมุมมองของฉลามขาวและวาฬเพชฌฆาต รวมทั้งชีวิตสัตว์ต่าง ๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นในมหาสมุทร ตระหนักถึงภัยคุกคามต่อสัตว์ทะเล และส่งเสริมความรัก การอยู่ร่วมกันในธรรมชาติอย่างสมดุล หนังสือเรื่องนี้ให้ความรู้อย่างละเอียด มีคำอธิบายศัพท์ท้ายหน้า และภาพประกอบท้ายบท มีหัวข้อ ‘เรื่องน่ารู้’ เป็นสาระที่เกี่ยวกับเนื้อหา และท้ายเล่มมีบรรณานุกรม
บางหลืบสมรภูมิ
บางหลืบสมรภูมิเป็นเรื่องสั้นเล่มเล็กที่เก็บเอาเนื้อหาทั้งด้านกว้างและด้านลึกไว้ได้อย่างน่าอ่าน ใช้ภาษาการประพันธ์ได้ดี กระชับ โดยเฉพาะการพรรณนาอารมณ์ความรู้สึกเบื้องลึกของตัวละคร ฉายภาพให้เห็นซอกหลืบหัวใจมนุษย์ที่เปรียบเสมือนสมรภูมิการ ต่อสู้ อันเป็นผลกระทบจากภายนอก เช่น ความเปลี่ยนแปลงของยุคโลกาภิวัตน์ (รักล้นของบุญล้น) ปัญหาสิทธิของชนกลุ่มน้อย (ฝันที่ไปไม่ถึงของ “นาบู”) ความปรารถนาตามธรรมชาติมนุษย์ (โพรงกระรอก) ฯลฯ
กว่าพรุ่งนี้จะมาเยือน
กว่าพรุ่งนี้จะมาเมือนเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตผู้คนในท้องถิ่นใด้ซึ่งได้รับผลกระทบจากกระแสความนิยมของสังคมและจิตใจของมนุษย์ที่แปรเปลี่ยนไป เรื่องสั้นทั้ง ๑อ เรื่องราดภาพฉากและชีวิตชาวบ้านอย่างได้บรรยากาศของสีสันท้องถิ่น บางเรื่องแฝงนัยให้ผู้อ่าน คิดต่อไปว่าเหตุแห่งความสูญเสียของตัวละครนั้นมาจากอะไร เช่น ความตายของชาวสวนยางชื่อ “สาและ” ในเรื่อง “กว่าพรุ่งนี้จะมาเยือน” อาจเกิดจากการก่อการร้ายก็ได้หรืออาจเกิดจากการแก้แค้นของคนรักเก่าของลูกสะใภ้ก็ได้ หรือยังอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ได้อีกเช่นกัน ทั้งสามทางล้วนมีมูลเหตุที่ทำให้คิดต่อไปได้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในชีวิตจริงซึ่งบางครั้งมิได้มีคำตอบเพียงหนึ่งเดียว งานเขียนที่ช่วยให้ผู้อ่านคิดได้หลายนัยเช่นนี้ คุ้มค่าแก่การอ่านเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องเล่าของคนบันทึกเรื่องเล่าที่นักเล่าเรื่องคนหนึ่งเล่าให้เขาฟัง
มีจุดเด่นอยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่องและแนวคิด ผู้เขียนสมมุติให้เรื่องสั้นทั้ง ๑๑ เรื่องเป็นคำบอกเล่าของชายผู้หนึ่งที่ตระเวนไปตามที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครแล้วมีเรื่องมาเล่าให้ผู้เขียนฟัง เรื่องเล่าของเขาเป็นชีวิตที่หลากหลายของผู้คน เป็นแง่มุมที่ดูว่าเล็กน้อยแปลกพิสดาร แต่ก็สะท้อนชีวิตและโลกทัศน์ของคนกรุงที่บางครั้งไร้เหตุผลจนน่าขัน เช่นการที่คนเฝ้าหอพักเพียรเขียนประกาศห้ามสารพัดเรื่องอย่างไร้ผลและดูเหมือนไร้สาระนั้นสะท้อนภาพพฤติกรรมของผู้คนที่ไร้ระเบียบวินัยในสังคมที่เจริญอย่างเมืองกรุงได้เป็นอย่างดี เป็นต้น
คนเล็กหัวใจมหึมามหาสมุทร
คนเล็กหัวใจมหึมามหาสมุทรเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเอกภาพทั้งในด้านเนื้อหาและกลวิธีการนำเสนออย่างชัดเจน ผู้แต่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่แง่คิด และ จิตวิญญาณของเหล่าชาวประมง และกลุ่มผู้มีสถานภาพอันต่ำต้อย ซึ่งแม้จะเป็นเพียงคนเล็กๆ ในสังคม แต่กลับดูยิ่งใหญ่มหาศาลในด้านน้ำใจอันใส่ชื่อบริสุทธิ์ที่มีต่อเพื่อนร่วมอาชีพและเพื่อนร่วมโลกผู้ประสบความเดือดร้อนและทุกข์ยาก ด้วยลีลาการนำเสนอที่เรียบง่ายและสำนวนภาษาที่สามัญ แต่คมบาดลึกอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่าน ทำให้เกิดความหดหู่และปิติตื้นต้นได้อย่างน่าประทับใจ
ห่างไกล ไม่ห่างกัน
หนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนความเรียงง่ายๆ ในรูปแบบของจดหมายจากพ่อถึงลูก มีสาระชวนอ่าน เหมือนได้นั่งคุยสนทนากับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง อ่านแล้วมีความสุขใจ ให้ข้อ คิดง่ายๆ แต่ลึกซึ้งและทำให้ทราบว่าผู้เขียนเป็นคนมองโลกในแง่ดี สามารถหาความงดงามของชีวิตได้ท่ามกลางปัญหาสลับซับช้อนในยุคสมัยนี้
วิถีแห่งปราชญ์
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวชีวิตและปฏิปทา จริยาวัตร ประวัติการงาน งานเขียนของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ที่สมบูรณ์ที่สุดเล่มหนึ่ง ถ่ายทอดออกมาด้วยภาษา ง่ายๆ แต่สามารถเข้าใจชีวิต ความเป็นผู้มีจิตใจละเอียดอ่อน ความลึกซึ้งในทางสติปัญญาของท่านอาจารย์ได้อย่างดี ทำให้ผู้อ่านมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตตามหนทางที่ถูกต้อง
จิตร ภูมิศักดิ์ คนยังยืนเด่นโดยท้าทาย
เรื่องราวชีวิตของชายผู้เป็นเอกในทุกทาง เป็นปัญญาชน นักคิดนักเขียน นักปฏิวัติผู้มีอุดมคติสูงส่ง ฯลฯ เล่าเรื่องผ่านวิธีการนำเสนอในรูปแบบใหม่ เป็นหนังสือที่ให้ภาพวีรชนคนสำคัญของชาติไทยได้อย่างแจ่มชัดและสมบูรณ์ที่สุดเล่มหนึ่งเท่าที่เคยมีการเขียนถึงจิตร ภูมิศักดิ์ นับเป็นงานสารคดีที่ควรค่าแก่การอ่านยิ่ง ในยุคที่อุดมคติและความเป็นจริงในสังคมนับวันมีแต่จะพร่ามัวลง
คนไร้รัฐ
ทุกวันนี้ทั่วโลกยังมีผู้คนจำนวนมากที่มีสถานะเป็นคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ คือเป็นคน ที่ไม่มีสัญชาติ ไม่มีเอกสาร ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร ของประเทศใดๆ ในโลก ทั้งๆ ที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน ในประเทศไทยก็ยังมีคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติอยู่หลายล้านคน หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนสามารถเล่าเรื่องง่ายๆ ของหลายชีวิต เพื่อให้เห็นปัญหาของคนไร้รัฐอย่างเป็น รูปธรรม และสะเทือนใจ อ่านแล้วทำให้ทราบว่า ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยยัง มีอยู่อีกมาก โดยเฉพาะในพื้นที่อันห่างไกล
รังเลือด
นวนิยายฉายภาพชีวิตผู้คนที่ประกอบอาชีพเก็บรังนกนางแอ่น ธุรกิจที่สร้างความ ร่ำรวยมหาศาลให้นายทุน แต่ในขณะเดียวกันเป็นงานที่อันตรายและยากลำบากสำหรับ ผู้แขวนชีวิตไว้กับลำไม้ไผ่ เหตุการณ์และพฤติกรรมของตัวละครนำเสนออย่างดิบ เถื่อนและแสดงธาตุแท้ของมนุษย์อย่างระทึกใจ
ฤดูดาว
จินตนิยายผสมผสานตำนานความเชื่อของชนเผ่า เมืองโบราณ และดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์กับแนวคิดวิทยาศาสตร์การเกษตร ผู้เขียนเน้นการต่อสู้ระหว่างความรักและความโลภ ซึ่งในที่สุดความรักเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่และเป็นนิรันดร์
เคหาสน์กุหลาบดำ
นวนิยายกำลังภายในที่เขียนโดยนักเขียนไทย ผูกเรื่องได้สนุก หลากอารมณ์ทั้งการยุทธ์ไร้เทียมทานและความรักหวานเศร้า สำนวนโวหารกลมกล่อม ฝากคติธรรมให้คิด
กาษา นาคา
จินตนิยายที่นำเอาปกรณัมเรื่องครุกและนาคมาผูกเป็นเรื่องความรักความแค้น ข้ามชาติภพ ยึดโยงด้วยเรื่องกรรมและหลักธรรมในพระพุทธศาสนาได้อย่างมีอรรถรส
เล่นแร่แปลภาพ ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย
สารคดีที่นำเสนอเรื่องเล่าผ่านภาพที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ผู้เขียนรวบรวมภาพถ่ายต่าง ๆ ที่หาดูได้ยาก และค้นคว้าเจาะลึกเรื่องราวเบื้องหลังภาพเหล่านั้น ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ล้านนาผ่านเจ้าดารารัศมี เป็นต้น
ชีวิตและความฝันใฝ่ของคนรุ่นใหม่สมัยคณะราษฎร
ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์และพัฒนาการของเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย การต่อสู้ทางความคิดระหว่างพลังใหม่ที่ก้าวหน้ากับพลังอนุรักษ์นิยม สะท้อนบรรยากาศความตื่นตัวของราษฎรเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ อิสรภาพ ภราดรภาพ จากหลายเหตุการณ์ที่ไม่ปรากฏในหนังสือทางวิชาการเล่มอื่น ๆ เนื้อหาจึงมีคุณค่า กระตุ้นความตื่นตัวทางการเมือง ผ่านการค้นคว้า รวบรวมข้อมูลหลักฐานที่หนักแน่น กว้างขวาง น่าเชื่อถือ แต่เรียบเรียงด้วยภาษาอ่านง่าย น่าติดตาม
แม่ ฉัน และอัลไซเมอร์
งานเขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่มีแม่เป็นอัลไซเมอร์ ฉายภาพการต่อสู้ของลูกที่ต้องทำงานพร้อมกับดูแลแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ไปด้วย แม้เป็นเรื่องเศร้า แต่นำเสนอด้วยทัศนะมุมบวก อ่านแล้วต้องอมยิ้ม ไม่รู้สึกเศร้าหมอง ผู้เขียนนำมาเล่าได้ชวนอ่าน ชวนติดตาม ทำให้สังคมได้เรียนรู้ถึงสาเหตุ อาการ และวิธีดูแลผู้ป่วยโรคนี้ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
A HISTORY OF CATS
งานเขียนของผู้เขียนที่คลั่งไคล้แมว บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของแมวอย่างลุ่มลึก สอดคล้องกับยุคสมัยแห่ง “ทาสแมว” เต็มไปด้วยเกร็ดเรื่องแมวที่นึกไม่ถึง แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนค้นคว้ามาอย่างดี
ควอนตัม จากแมวพิศวง… สู่ควอนตัมคอมพิวเตอร์
แม้ควอนตัมฟิสิกส์จะเป็นศาสตร์ที่เข้าใจยากที่สุด แต่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้ย่อยเนื้อหาที่เป็นวิทยาศาสตร์ทั้งหมดออกมาโดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้อ่านที่ไม่มีพื้นฐานทางควอนตัมเข้าใจได้ง่าย เหมาะกับคนที่ต้องการทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างยิ่ง
มหัศจรรย์ พรรณพฤกษ์ (อยู่วังสระปทุม ๓)
มหัศจรรย์ พรรณพฤกษ์ (อยู่วังสระปทุม ๓) ให้ความรู้เกี่ยวกับวังสระปทุมและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เมื่อเสด็จฯ มาประทับที่วังแห่งนี้ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นต้นมา พระองค์ทรงให้ความสำคัญในการรักษาต้นไม้เก่าแก่ที่มีอยู่เดิม รวมทั้งเสาะหามาปลูกเพิ่มทั้งไม้ใบ ไม้ผลและไม้ดอก โดยมีผู้เชี่ยวชาญดูแล นอกจากนี้ยังมีแปลงพืชผัก สวนสมุนไพร สวนครัว ซึ่งทรงทำเป็นตัวอย่างนำไปประกอบผลิตภัณฑ์อาหารสร้างรายได้อีกด้วย ตัวละครสำคัญในการเล่าเรื่อง คือ เจ้าแมวเหมียว หนึ่งในบรรดาสัตว์เลี้ยงในพระอุปถัมภ์ สัตว์อื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในวังก็มาช่วยกันเล่าเสริมด้วย ช่วยให้อ่านสนุก ชวนติดตาม ภาพประกอบสวยงาม ทั้งภาพถ่ายพระราชทานและภาพวาด
คลองที่แสงดาวเต็มฝั่ง
คลองที่แสงดาวเต็มฝั่ง เป็นงานเขียนที่ผู้ประพันธ์ เล่าเรื่องราววิถีชีวิตชนบทในอดีต ในรูปแบบสาระบันเทิง ดำเนินเรื่องโดยเด็กหญิงที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับอาหาร การละเล่น ประเพณี วัฒนธรรมของท้องถิ่น มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของเนื้อหา อธิบายให้ผู้อ่านได้เข้าใจ เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี สำนวนภาษาดี อ่านได้อย่างเพลิดเพลิน ภาพประกอบสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง