ผลรางวัล

รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

  • Home
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง

ประเทศในเขาวงกต

กวีนิพนธ์ชุด “ประเทศในเขาวงกต” ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ แบ่งเนื้อหาเป็น ๔ ภาค ภาคแรก :ฟ้าค่ำนี้อาจสีเศร้า ภาคสอง : บนบรรทัดประวัติศาสตร์ ภาคสาม : ประวัติศาสตร์กำลังเดินทาง ภาคสี่ : ขอบฟ้าอนาคต  ภาพรวมว่าด้วยสังคม การเมือง เหตุการณ์ความรุนแรง ปัญหาความขัดแย้งทางความคิด ความเชื่อ ปัญหาเหลื่อมล้ำ ฯลฯ ลักษณะเด่นอยู่ที่ความหนักแน่น เข้มข้นในเนื้อหาสาระ ใช้คำเท่าที่จำเป็น ทุกคำจึงมีความหมาย ทั้งที่ใช้คำธรรมดาสามัญ แต่เมื่อใช้อย่างถูกกาลเทศะ ทำให้ลงตัวงดงาม ทรงพลัง และเนื่องจากรวมบทกวีเล่มนี้ไม่เคร่งครัดฉันทลักษณ์  กวีอาศัยความจัดเจนทางภาษา จังหวะจะโคน จึงเห็นความโดดเด่นด้านชั้นเชิงวรรณศิลป์แจ่มชัด ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของ “ประเทศในเขาวงกต” คือความคิดที่แหลมคม อาจเรียกได้ว่าคมคำ คมความคิด และสำคัญสุด วรรณกรรมเล่มนี้มิใช่แค่รายงานสถานการณ์ หรือมิเพียงสะท้อนว่าทุกองคาพยพของประเทศกำลังตกอยู่ในเขาวงกต กวีได้พยายามเสนอทางออก ชี้ประวัติศาสตร์ให้ทบทวนบทเรียนเพื่อก้าวสู่เส้นทางใหม่ ๆ หลายช่วงฉายภาพและตอกย้ำให้เห็นปัญหา แล้วเปิดปลายให้ผู้อ่านนำไปขบคิดต่อ ขณะที่หลายชิ้นงานตั้งคำถามต่อสังคมแบบคมคายเป็นการกระตุกกระตุ้นให้ตื่นจากวังวนเดิม ๆ เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลงานภายในเล่มหลายสำนวน เขียนขึ้นตามวาระต่าง ๆ แต่มีนัยกว้างออกไป ไม่จำกัดเฉพาะวาระพิเศษนั้น ๆ นี่คือเสน่ห์ และถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของพัฒนาการด้านกวีนิพนธ์ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมบทกวี “ประเทศในเขาวงกต” ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

หญิงร้าย

เป็นหนังสือที่ปรับปรุงจากวิทยานิพนธ์ แสดงถึงประวัติศาสตร์สังคมของผู้หญิงไทย ทั้งสตรีชนชั้นสูงและสามัญชน ที่ถูกกดทับ จำกัด ปิดบัง อยู่ใต้วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่มายาวนาน ตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์มาจนถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ หนังสือเล่มนี้ให้คุณค่าความรู้จากการทำวิจัยจริง จึงมีข้อมูลหนักแน่น แสดงให้เห็นการปะทะกันระหว่างโครงสร้างอำนาจเดิมกับกระแสความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย นำเสนอให้ผู้อ่านเพลิดเพลินเห็นภาพชัดเจนราวกับได้อ่านนวนิยายประวัติศาสตร์เสมือนจริง นับเป็นตัวอย่างวิธีการดึงดูดให้คนรุ่นใหม่สนใจอ่านงานวิชาการด้วยเทคนิคการเขียนที่ทันสมัย แม้จะยังสามารถปรับปรุงวิธีวางโครงเรื่องและลีลาการเขียนให้อ่านราบรื่นกว่านี้ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “หญิงร้าย” ของ “วรธิภา สัตยานุศักดิ์กุล” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓

Juice : Arrivals 3

“Juice : Arrivals 3” เรื่องราวในรั้วโรงเรียน ของ “ม่อน” กับ “ทิม” ที่มีทั้งความรัก ความผูกพัน  ความขัดแย้ง และประสบการณ์ร่วมกัน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา  ถึงแม้ว่าระยะหนึ่งจะมีเหตุทำให้ทั้งสองคนต้องห่างเหินกันไปบ้าง แต่เมื่ออีกฝ่ายประสบปัญหาก็กลับมาช่วยเหลือกัน  เนื้อเรื่องสะท้อนในชีวิตของวัยรุ่นยุคปัจจุบันที่มีปัญหาในเรื่องเพื่อน และความรัก ได้เป็นอย่างดี หนังสือ “Juice : Arrivals 3” มีลายเส้นทันสมัยและการให้สีสวยงาม มีมิติ แสดงบรรยากาศของฉาก สถานที่ และเอกลักษณ์ตัวละครได้ดี องค์ประกอบภาพ การลำดับภาพสามารถสื่ออารมณ์ และเล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหลชวนติดตาม คณะกรรมการตัดสินจึงเห็นสมควรให้ “Juice : Arrivals 3” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑  รางวัล เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทการ์ตูน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๓

เลือดข้นคนจาง

หลังเปิดพินัยกรรมไม่กี่วัน ทายาทคนโตของตระกูลจิระอนันต์ ก็ถูกฆาตกรรมอย่างมีเงื่อนงำ ด้วยน้ำมือของผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเป็นใครคนใดคนหนึ่งในตระกูล ดูเผิน ๆ แล้ว โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในนวนิยายแนวสืบสวน-สอบสวนเรื่อง “เลือดข้นคนจาง” ของ “ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์” ก็ไม่ต่างจากเรื่องราวที่พบเห็นได้ทั่วไปในครอบครัวนักธุรกิจชาวจีนผู้มั่งคั่ง ที่ความโลภและความริษยาระหว่างพี่น้องสายเลือดเดียวกัน นำไปสู่จุดจบที่อื้อฉาวดังปรากฏพาดหัวข่าวอยู่เนือง ๆ อย่างไรก็ตาม หากพิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง ผ่านพื้นที่แต่ละบท ที่ผู้เขียนเปิดโอกาสให้แต่ละตัวละครสะท้อนมุมมอง และระบายความในใจออกมา สิ่งสำคัญยิ่งกว่าการเปิดเผยตัวฆาตกร คือการค้นพบว่า จารีตแห่งความเหลื่อมล้ำระหว่างชาย-หญิง ต่างหาก ที่เป็นผู้ร้ายตัวจริง ขนบธรรมเนียมซึ่งเปิดโอกาสให้เพศชายผูกขาดอำนาจ มอบอภิสิทธิ์ให้ผู้ชาย–โดยเฉพาะบุตรชาย/หลานชายคนโต สร้างความไม่เท่าเทียมกันอย่างยิ่งยวดระหว่างลูกชายและลูกสาว สิ่งเหล่านี้ถูกบ่มเพาะ ฝังราก ตอกย้ำด้วยพิธีกรรม และส่งผ่านให้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า กลายเป็นยาพิษที่ไหลเวียนอยู่ในระบบ กัดกร่อนสัมพันธภาพ ก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ แก่งแย่งแข่งขัน และทำให้ความรักและภราดรภาพระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดมิอาจเกิดขึ้นได้จริง           “หากเรื่องเล่าที่ดี คือเรื่องเล่าที่ทำให้เชื่อขณะอ่าน และเปลี่ยนผู้อ่านเมื่อปิดหน้าสุดท้าย”  นวนิยายเรื่องเลือดข้นคนจาง ถือว่าเป็นเรื่องเล่าที่ดียิ่งไปกว่านั้น  เพราะสารอันทรงพลัง ที่สอดแทรกผ่านเหตุการณ์และเรื่องราวของตัวละคร  ทำให้เมื่อปิดหน้าสุดท้าย ผู้อ่านกล้าฝันถึงการถือกำเนิดขึ้นของยุคใหม่ ยุคที่อคติและความเหลื่อมล้ำทางเพศถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ยุคที่เมล็ดพันธุ์แห่งความรักและความเท่าเทียม ได้รับการปลูกฝังและเบ่งบานในหัวใจของสมาชิกทั้งชายและหญิงโดยตั้งต้นจากพื้นที่ในครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานสำคัญอันดับแรกของสังคม ด้วยกลวิธีในการประพันธ์ เนื้อหาสาระ และคุณค่าที่ปรากฏในนวนิยายเรื่องนี้ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “เลือดข้นคนจาง” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๓

ไต้ก๋ง

“ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด และส่วนใดของทะเล เขาจะต้องร่าเริง เปี่ยมด้วยพลังเหมือนเกลียวคลื่น…” นี่คือความคิดคำนึง และปณิธาณของ “กิ่ง” เด็กหนุ่มลูกเรือประมงที่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่าในวันข้างหน้าของตน “ไต้ก๋ง” นวนิยายของ “ประชาคม ลุนาชัย” บอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเผชิญความ    ท้าทาย ชะตากรรมอันหนักหน่วง ดุจจะทดสอบความมั่นคงแห่งจิตใจอันมุ่งมั่นหาญกล้าของเขา จากลูกเรือสู่หน้าที่อันสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้เป็น “ไต้ก๋ง” ผู้นำเรือลำที่โอ่อ่าพรั่งพร้อมด้วยเครื่องมือประมงอันทันสมัย คืนวันผ่านไปปีแล้วปีเล่า ความรัก ความหวังที่สมหวังและผิดหวัง  ความยากลำบากที่มิได้คาดฝัน ท่ามกลางท้องทะเลกว้าง บางครั้งเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์และเรื่องเล่าขานถึง               “ไต๋กิ่ง” หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต ผู้ประพันธ์สร้าง “กิ่ง” ให้มีชีวิตโลดแล่นไปตามบทบาทต่าง ๆ ของแต่ละช่วงวัยได้อย่างเข้มข้น ให้รายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตชาวประมง ลูกเรือที่มีทั้งด้านมืด และด้านสว่างที่เราอาจไม่เคยรู้แต่ทว่ามีอยู่จริง ธุรกิจประมงระหว่างนายทุนกับลูกเรือ ตลอดจนปัญหาระหว่างน่านน้ำกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยวรรณศิลป์อันคมคาย ลุ่มลึก ให้รายละเอียดในทุกจังหวะชีวิตของตัวละคร สามารถทำให้ผู้อ่านสะเทือนใจไปกับชะตากรรมของกิ่ง และสัมผัสได้ถึงบุคลิกอันโดดเด่นของเขา นั่นคือ ความซื่อตรง ความอดทน ความสุขุมและความเรียบง่ายในการดำรงชีวิต ที่สำคัญคือการ “ให้” แก่ทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะผู้ที่ด้อยกว่า นับเป็นความงดงามอย่างยิ่งของมนุษย์ ด้วยเนื้อหาที่มีคุณค่าและแสดงความหมายของชีวิต  ตลอดจนการดำเนินเรื่องอย่างสอดคล้อง และภาษาวรรณศิลป์อันมีพลังส่งให้ทุกตัวละครแสดงอารมณ์ของปุถุชนอันมิอาจปฏิเสธได้และมีชีวิตชีวาดูราวกับเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าผู้อ่าน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้  “ไต้ก๋ง” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๓  

๒๔ ชั่วโมง

“๒๔ ชั่วโมง” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๔ เรื่อง ของ “แพรพลอย วนัช” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต และสัมพันธภาพของคนในสังคม ซึ่งดำเนินไปในแต่ละวัน ผ่านเรื่องราวของตัวละครหลากหลายสถานะ หลากหลายแง่มุม หลากหลายเรื่อง และหลากหลายรส ผู้เขียนสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างสมจริง บางเรื่องท้าทายความคิด บางเรื่องสร้างแรงสะเทือนใจ บางเรื่องเป็นอุทาหรณ์ให้เข้าใจโลกและชีวิต ความโดดเด่นของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ชั้นเชิงในการนำเสนอเนื้อหาได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ มีการใช้สัญลักษณ์ มีความเปรียบที่แปลกใหม่ ใช้ภาษาเล่าเรื่องที่เป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัวและสังคมอย่างลึกซึ้ง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “๒๔ ชั่วโมง” ของ “แพรพลอย วนัช” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓        

เรื่องราวในหนึ่งวันกับเหตุการณ์ไม่ปกติอื่น ๆ

“เรื่องราวในหนึ่งวันกับเหตุการณ์ไม่ปกติอื่น ๆ” ของ “กฤติศิลป์ ศักดิ์ศิริ”   เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๙ เรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราว ปัญหา และอารมณ์ความรู้สึกของคนที่ต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในสังคมสมัยใหม่ได้อย่างลุ่มลึกและมีพลัง แต่ละเรื่องเปิดเปลือยความรู้สึกนึกคิดที่ซ่อนเร้นของตัวละคร ทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ทั้งความหม่นมัวและความดีงามที่ซ้อนทับซับซ้อนอยู่ในจิตใจของคนเหล่านั้น ความโดดเด่นของรวมเรื่องสั้นเล่มนี้คือการสะท้อนเรื่องราวและปัญหาหลากหลายแง่มุมของผู้หญิงในสังคมปัจจุบัน เน้นย้ำให้เห็นถึงความมีตัวตน มีอารมณ์ มีความคิด และวิธีจัดการกับปัญหาในแบบของตนเอง ผู้เขียนใช้กลวิธีเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา มีรายละเอียดที่สมจริง ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพและมีอารมณ์ร่วม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “เรื่องราวในหนึ่งวันกับเหตุการณ์ไม่ปกติ          อื่น ๆ”  ของ  “กฤติศิลป์ ศักดิ์ศิริ”   ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓

รองเท้าโลหะ

“รองเท้าโลหะ” เป็นชีวิตของเด็กหนุ่มวัย ๑๕ ปีที่ประสบชะตากรรมพลิกชีวิตจากนักเรียนมัธยมศึกษา กลายเป็นลูกกำพร้าสูญเสียพ่อแม่ และขาทั้งสองข้างอย่างกะทันหันในคราวเดียวด้วยอุบัติเหตุรถยนต์  ต้องรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลนานเกือบปี  จึงแข็งแรงและก้าวพ้นความบอบช้ำทางจิตใจ มีความเข้มแข็งที่จะอยู่ในโลกแห่งความจริงในสภาพของผู้พิการใช้ขาเทียม  และดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปที่บ้านเดิมของตน เรื่องราวต่าง ๆ เป็นแบบสมจริงสลับจินตนาการของตัวละครและเรื่องในอดีตสลับกับปัจจุบัน  นำเสนอโดยการบรรยายของตัวละครเอก  การสนทนาและกิจกรรมระหว่างเขากับบุคคลต่าง ๆ โดยเฉพาะน้องชายในจินตนาการ  ที่เกิดจากอาการป่วยทางจิตซึ่งเป็นผลจากความกระทบกระเทือนจิตใจจากการตายของน้องชายผู้เป็นที่รัก  ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ ผู้ประพันธ์มีความสามารถในการสร้างโครงเรื่องที่หนักและซับซ้อนให้ชวนติดตาม  ด้วยการสร้างมุมมองของตัวละครเอกต่อชีวิตในเชิงบวก  และพฤติกรรมเชิงสร้างสรรค์เมื่อเขากลับมาอยู่บ้านในสภาพ                  ผู้พิการโดยมีน้าให้ความช่วยเหลือดูแล เช่น การให้กำลังใจเด็กในการแข่งกีฬา  การมอบรองเท้ากีฬาคู่พิเศษซึ่งเป็นสัญลักษณ์และเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง  ที่ซื้อไว้ก่อนเกิดอุบัติเหตุแก่ญาติผู้น้อง และการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นแม้ในเรื่องเล็กน้อย  ทำให้เข้าใจได้ว่าเขาได้ก้าวข้ามความสูญเสียมาสู่โลกแห่งความจริง และจะสามารถดำเนินชีวิตในสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ นอกจากนี้ผู้ประพันธ์บรรยายสิ่งต่าง ๆ ละเอียดชัดเจนจนมองเห็นภาพ  บทสนทนาเป็นธรรมชาติเหมาะสมกับตัวละคร  แทรกข้อคิด มีการเปรียบเทียบ และอารมณ์ขัน คณะกรรมการตัดสินจึงเห็นสมควรให้ “รองเท้าโลหะ”  ของ “จิระพนธ์  ขันชารี” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดนวนิยายขนาดสั้น ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓

คล้ายว่าน่าน เพิ่งพ้นผ่านไม่นานนัก

เรื่องเล่าประสบการณ์การเดินทาง ผ่านตัวละครหลัก คือ  “ลูกชายวัยรุ่น” ที่แม่พาแยกจากพ่อ จากเหนือมาอยู่ใต้ตั้งแต่เล็ก แล้ววันหนึ่งลูกชายได้กลับมาหาพ่อที่น่าน ผู้ประพันธ์เขียนด้วยภาษาเรียบ ๆ เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา ตัวละครมีความคิด และทัศนคติในการมองชีวิตเชิงบวก ผ่านการใช้ชีวิตกับแม่ ครู เพื่อน และในวันที่มาเยือนพ่อ หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานาน อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงใจที่เคว้งคว้างของเด็ก ที่อยากให้ครอบครัวเป็นครอบครัว อยากให้พ่อแม่อยู่ด้วยกัน ในวันที่พ่อทิ้งไป ตอนวัยเด็กนั้นอาจจะเศร้า แต่ก็คิดได้ว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่สบายใจ การแยกกันอยู่ก็คงดีที่สุด เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม จะอยู่ หรือ แยก แม่ก็ยังเป็นแม่ พ่อก็ยังเป็นพ่อ แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานถึง ๑๗ ปี ในวันที่มาเจอกันนั้น ความจริงตรงหน้า คือ ร่างกายของพ่อเปลี่ยนไปตามวัย แต่ภาพของพ่อในใจลูก   ไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงแจ่มชัดเช่นเดิม เสน่ห์ของหนังสือนี้ คือผู้ประพันธ์ใช้แง่งามของแต่ละชีวิต เชื่อมโยงวัฒนธรรมต่างยุค  อยู่ร่วมสมัยด้วย ศิลปะ ดนตรี หนังสือ กวีนิพนธ์ และอาหาร ด้วยความเข้าใจ คณะกรรมการตัดสินจึงเห็นสมควรให้ “คล้ายว่าน่าน เพิ่งพ้นผ่านไม่นานนัก”  ของ “ปรัชวิชญ์  บุญยะวันตัง” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดนวนิยายขนาดสั้น ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓  

โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) ตอน ความลับใต้ผืนทราย

“โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) ตอน ความลับใต้ผืนทราย” เป็นวรรณกรรมเยาวชน ที่ผู้เขียนนำเสนอเรื่องเป็นตอนสั้น ๆ ชวนให้อ่านและติดตาม ตัวละครเอก มดแดงกับแตงกวาและเอย สามสหาย พร้อมครอบครัวเดินทางไปที่ภูเก็ต ระหว่างพักที่ภูเก็ตได้ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่าง ๆ    เรื่องตื่นเต้น น่าสนใจ คือ การวางไข่ของเต่าทะเล ซึ่งมีปัญหาเต่าไม่ขึ้นมาวางไข่หลายปี  การพบไข่เต่าเป็นเรื่องที่แตงกวาสัญญาว่าจะต้องรักษาไว้เป็นความลับ ผู้เขียนนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ผู้อ่านเกิดความตระหนัก เพื่อช่วยกันรักษาท้องทะเลให้สะอาดและปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล  วิธีนำเสนอเรื่องเป็นแนวสมจริง เรียบง่าย ชวนติดตาม มีความรักในครอบครัว มีน้ำใจไมตรีต่อเพื่อน ตัวละครมีชีวิตชีวา เนื้อหาสอดแทรกความรู้ คณะกรรมการตัดสินจึงเห็นสมควรให้ “โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) ตอน ความลับใต้ผืนทราย” ของ “งามพรรณ เวชชาชีวะ” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓  

ต้นไม้ทุกต้นเคยเป็นต้นกล้า

“ต้นไม้ทุกต้นเคยเป็นต้นกล้า” กวีนิพนธ์ ของ “ณรงค์ชัย แสงอัคคี” ที่ตัวชื่อบทบ่งบอกถึงมิติความคิดต่ออนาคต เหมือนแม้ว่าวันนี้อาจจะมีปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ อยู่ แต่สังคมในอนาคตจะเป็นสังคมที่มีความแข็งแรง ประกอบด้วยเนื้อหา ๓ ภาค คือ ภาคที่ ๑ เพาะพันธุ์ ภาคที่ ๒ เติบต้น และ ภาคที่ ๓ โรยรา ภาคที่ ๑ เพาะพันธุ์ ได้แสดงให้เห็นภาวะแห่งการเริ่มต้นของชีวิต ชีวิตเป็นดั่งนาฬิกาที่เดินหน้าไปตามเวลา เพื่อเรียนรู้สู้กับอุปสรรคที่เหมือนแสงเริงแรงแห่งตะวัน ภาคที่ ๒ เติบต้น ผู้เขียนใช้ความคิด จินตนาการ เพื่อเรียนรู้โลกอย่างมั่นคง เรียนรู้ด้วยการเป็นผู้ให้ไปพร้อมกับการเติบโต ไม่เร่งร้อนรีบเร่งไปสู่จุดหมาย จนลืมรายละเอียดของชีวิต ภาคที่ ๓ โรยรา เป็นภาคที่ใช้สายตาประมวลภาพชีวิต ที่อาจต้องเผชิญกับอุปสรรค แต่ขอให้มีหัวใจจะฝ่าไป แม้แท้แล้วจะเจอกับคำตอบในชีวิตหรือไม่ก็ตาม           “ต้นไม้ทุกต้นเคยเป็นต้นกล้า” เป็นบทกวีแห่งความคิดหวัง ด้วยประสบการณ์ของผู้เขียนในระดับเยาวชน จึงมีความหวั่นหวาด แต่เต็มไปด้วยกำลังใจ แม้เป้าหมายไม่อาจบอกได้ชัดว่าคือสิ่งใด แต่ความรู้สึกแบบกวีย่อมสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นเป็นอันเดียวกับชีวิตจริงที่เราต้องเผชิญหน้า จึงต้องใช้จิตใจอันเติบโตและแข็งแรงเพื่อพบกับความจริงแห่งชีวิต ดังนั้น คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “ต้นไม้ทุกต้นเคยเป็นต้นกล้า”  ผลงานของ “ณรงค์ชัย แสงอัคคี” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวด          กวีนิพนธ์ ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓

Hi! So-Cial ไฮโซ…เชียล

หนังสือกวีนิพนธ์ชุด “Hi! So-Cial ไฮโซ…เชียล” ของ “ขวัญข้าว ขวัญเรียมเอย” เขียนเป็นกลอนแปดโดยวิธีการร้อยสัมผัสต่อเนื่องกัน ตั้งแต่เรื่องแรกจนถึงเรื่องสุดท้าย จำนวน ๔๐ สำนวน นำเสนอประเด็นการเปรียบเทียบสังคมออนไลน์ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนร่วมสมัยกับวิถีไทยในอดีต  ผู้เขียนสะท้อนให้เห็นว่าแม้สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่แก่นแท้ของพฤติกรรมมนุษย์ก็ยังคงเดิม “Hi! So-Cial ไฮโซ…เชียล”  บอกเล่าเรื่องราวที่คนในสังคมรับรู้กันอยู่แล้ว แต่ด้วยมุมมองแปลกใหม่แฝงไว้ด้วยน้ำเสียงที่มองโลกในแง่งาม ก็ทำให้เรื่องราวธรรมดาสามัญกลายเป็นเรื่องชวนคิดอย่างมีนัยสำคัญ ด้านกลวิธีการประพันธ์ “ขวัญข้าว ขวัญเรียมเอย” มีความสามารถในการใช้ภาษาประกอบสร้างเป็นบทกวีที่มีลักษณะเรียบง่ายแต่งดงาม มีลูกเล่นทางความคิดที่สอดร้อยเข้ามาในเนื้อหาอย่างมีจังหวะจะโคน ทำให้เกิดความคมคายในเนื้อสารที่ต้องการสื่อ อย่างไรก็ตามการเลือกวิธีร้อยสัมผัสระหว่างบทตลอดเล่ม แม้จะมีข้อเด่นที่ผู้เขียนได้แสดงฝีมือในเชิงร้อยกรองขนาดยาวให้ปรากฏ แต่วิธีการดังกล่าวก็อาจสร้างข้อจำกัดให้ผู้เขียนไม่สามารถถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกอันเข้มข้น ผ่านคำและความได้อย่างราบรื่นสม่ำเสมอตลอดเล่มเช่นกัน ดังนั้น คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือกวีนิพนธ์ชุด “Hi! So-Cial ไฮโซ…เชียล” ของ                “ขวัญข้าว ขวัญเรียมเอย” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำพุทธศักราช  ๒๕๖๓

สองฝั่งแม่น้ำเก่า

“สองฝั่งแม่น้ำเก่า” รูปรอยของคืนวันบนผืนดินและแผ่นน้ำโบราณ ของ “ลอง จ้องรวี” เป็นรวมบทกวี ประกอบด้วยสองบรรพ์คือ บรรพ์ ๑ บ้านที่เราเกิด และบรรพ์ ๒ แผ่นดินที่เราฝัน ผู้เขียนนำเสนอความทรงจำของชีวิตวัยเยาว์ที่มีความสุขในชนบทบ้านเกิด วิถีชีวิตเรียบง่ายและความรักจากครอบครัวหล่อหลอมให้รักและตระหนักในคุณค่าของผืนดินบ้านเกิด           “บ้านของอดีตยังติดตรึง            ในความคะนึงคิดถึงหนัก           เป็นบ้านงดงามด้วยความรัก                 รู้จัก “การให้” น้ำใจงาม” ความเปลี่ยนแปลงของวิถีสมัยใหม่เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงและ “บ้านหลังเก่า” มีอยู่เพียงในความทรงจำ กระนั้นก็ยังคงทรงคุณค่าทางจิตใจและเป็นที่สร้างแรงบันดาลใจ สร้างไฟฝันให้ต่อสู้ชีวิตใน “โลกที่ไม่มีอะไรง่าย อย่าอายที่จะแพ้”           “การแพ้ก็แค่คัดและตัดสิน         ใช่สูญสิ้นดิ้นดับอย่าสับสน           แพ้ก็แค่เห็นธรรมใช่จำนน                    ยอมเพื่อยลและยินจิตวิญญาณ                     การพ่ายแพ้แค่เป็นศิลปะ           ชัยชนะแค่คำเพรียกใช้เรียกขาน           อุปโลกน์โลกในรูปอุปาทาน                   มิใช่การชี้วัดที่ชัดเจน”   ด้านศิลปะการประพันธ์ ใช้กลอนแปดด้วยลีลาและภาษาที่เรียบง่าย สื่อความ สร้างจินตภาพและอารมณ์ บางบทยังใช้ความเปรียบที่มีลักษณะเฉพาะตน เช่นในบท “แม่เป็นนวัตกรรมมานานแล้ว” “เป็นคอมพิวเตอร์เสมอมา ลูกจะค้นหาอะไรก็ได้           ความจำคำตอบคำปลอบใจ                  มีให้ลูกค้นทุกคนเอย” ดังนั้น คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ รวมบทกวี “สองฝั่งแม่น้ำเก่า” ของ “ลอง จ้องรวี” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓

ผมกำลังรอ..ของขวัญของผมอยู่

“ผมกำลังรอ…ของขวัญของผมอยู่” เป็นเรื่องที่หยิบเหตุการณ์ปัญหาสังคมปัจจุบันมานำเสนอได้ดี การผูกเรื่องทำได้กลมกลึน ตัวละครแต่ละตัวก็เขียนได้อย่างมีอารมณ์ สามารถโน้มน้าวให้ผู้อ่านมีความรู้สึกร่วมและคล้อยตามไปกับตัวละครเป็นเรื่องของ เก่ง เด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตลอดเวลาเฝ้าแต่รอ “ของขวัญที่มีชีวิต” ผ่านประตูสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเข้ามาในทุกวันเด็ก และเกสร เด็กนักเรียนที่ท้องและดลอดลูกในวัยเรียน ได้นำลูกไป ทิ้งในกองขยะโดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกเป็นหญิงหรือชาย เมื่อเวลาล่วงเลยก็มา ตามหาลูกโดยวิธีตรวจ DNA สุดท้ายก็พบว่าเก่งคือลูกของตัวเอง และเก่งก็พบแม่ในวันเด็กเป็น “ของขวัญที่มีชีวิต” ที่ตัวเองรอคอยมานาน

ภาษาแห่งความรู้สึก

ผู้ประพันธ์เชียนกวีนิพนธ์ได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้ภาษาและถ้อยคำได้ดีเหมาะสม แต่ยังมีข้อผิดพลาดของลักษณะคำประพันธ์อยู่เล็กน้อย

ขบวนการเด็กซ่า…แบบมีระเบียบ

การวาดภาพยังมีความเป็นเด็ก ใช้ภาษาถูกต้อง

ในคืนมีฝัน ในวันมีไฟ

บทกวีมีความหลากหลาย ทั้งกลอน กพย์ยานี และกาพย์ฉบัง ด้านฉันทลักษณ์ ผู้เขียนรู้ฉันทลักษณ์ดี ดูจากการเขียนตัดคำในกลอนวรรคแรกของกลอนบางบทบางตอน ที่สามารถส่งสัมผัสบังคับไปวรรคต่อไปได้อย่างลงตัว ด้านวรรณศิลป์ ใช้คำง่ย ไม่ต้องแปล ไม่ต้องตีความ ถ้อยคำกระชับ และหลายตอนดูเหมือนพยายามเล่นกลอักษรด้วย ผู้เขียนไม่ได้เขียนกลอนแต่ละวรรคให้จำนวนคำและจังหวะลงตัวอย่างกลอนสุนทรภู่ หากแต่ปล่อยการใช้จำนวนคำตามอารมณ์ ผู้อ่านจึงต้องกำหนดจังหวะเอาเอง ซึ่งเป็นความตื่นเต้นผสมกับความกระโดกกระเดกไปอีกแบบต่างจากฉันทลักษณ์กลอนที่ราบเรียบตามแบบลีลากลอนสุนทรภู่ เนื้อหา เป็นความรักความโหยหาแบบตามวัยกับโลกทัศน์ ตามมุมมองของผู้เขียนที่ยังไม่มีคำตอบ ด้วยการทิ้งภาระไว้ให้ผู้อ่านคิดต่อ มีข้อน่าสังเกตว่ากลอนหลายชิ้นที่ผู้เขียนดูเหมือนยังไม่พอใจ หรือยังไม่จุใจในกลอนจบวรรดสุดท้าย จึงแต่งกลอนสองวรรคท้ายสำรอง ทำให้รู้สึกถึงความไม่มั่นใจของผู้เขียน ในการเขียนบทกวี ขอให้ผู้เขียนมีความมั่นใจ และกล้าตัดสินใจที่จะเขียนผลการตัดสิน

รวมเรื่องสั้นติดมันและอันตรายร้อยแปด

เขียนแบบเรื่องสั้น ที่มีหักมุมตอนจบ พรรณนาเนื้อเรื่องได้เห็นภาพพจน์ การนำเสนอมีกลวิธีที่แยบยล สามารถนำเรื่องธรรมดา เรียบง่าย มาบรรยายให้ผู้อ่านคาดไม่ถึง ใช้ภาษาพูดมาปนกับภาษาเขียนในช่วงบรรยาย ไม่มีการตรวจทานอย่างรอบคอบ มีการสะกดคำผิด และการเว้นวรรคไม่ถูกต้องหลายแห่ง ถ้าจะจัดพิมพ์ควรมีบรรณาการกิจและในเนื้อเรื่องควรมีภาพประกอบ ในการจัดทำหนังสือ ควรเชิญนักเขียน ผู้จัดทำภาพประกอบ และบรรณาธิการมาหารือกัน

ย้อนไปข้างหลัง

เป็นหนังสือที่ ดร.วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร เขียนขึ้น โดยยึดเอาเวลาและเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงชีวิตของผู้เขียนมาเล่าย้อนหลัง ง ดังหัวเรื่องที่บอกไว้ว่า “รวมเรื่องราวประสบการณ์จากอดีตครึ่งศตวรรษในสังคมไทย” เป็นเรื่องราวกึ่งชีวิตของผู้เขียนเองผสมกับเหตุการณ์บ้านเมืองในยุคนั้น สอดแทรกด้วยความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเป็นครั้งคราว ผู้เขียนเขียนด้วยสำนวนภาษาที่ราบรื่น อ่านง่าย เข้าใจง่าย ให้สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ นับว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่าเล่มหนึ่ง คณะกรรมการพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ได้รับรางวัลที่ ๒ ประเภทหนังสือดีในอดีต

จากดักแด้สู่ผีเสื้อ

แสดงธรรมะด้วยโวหารสัญลักษณ์ เปรียบจิตในสมาธิเหมือนดักแด้ เป็นชีวิตที่เจริญเดิบโตอยู่ตลอดเวลาตามธรรมชาติ ผีเสื้อเกิดจากดักแด้ฉันใด พุทธธรรมก็เกิดจากจิตที่มีสมาธิฉันนั้น เนื้อหาชัดเจนมีลักษณะกึ่งวิชาการกึ่งกวีนิพนธ์ สอนหลักธรรมโดยใช้ธรรมชาติเป็นสื่อ ทำให้คนอ่านซาบซึ้งในเรื่องที่ลึกซึ้งได้ดี ด้วยภาษาที่งดงาม ไพเราะ กินใจ

สองทศวรรษ

1. มีความลงตัวในองค์ประกอบของวรรณศิลป์ และมีสุนทรียภาพในการนำเสนอสำนวนโวหารลึกซึ้งคมคาย 2. เนื้อหาหลากหลาย สะท้อนความคิดเห็นของผู้เขียนในช่วงเวลาสองทศวรรษและเป็นเอกภาพกับชื่อเรื่อง

เมืองใต้อุโมงค์

“เมืองใต้อุโมงค์” ของประชาคม ลุนาชัย เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นจำนวน ๑๒ เรื่อง ได้แก่สีขาว, สุธรรมสองศตวรรษ, เหตุเกิดข้างถนน, ใบหน้าและดวงตา, อาณาจักรมายา, ละครคนเมือง,มีดด้ามงา, คำอธิษฐาน, เหนือดวงตาที่ปิดสนิท, หมอคุณธรรม, หมาฝรั่งและเดือนฉายใต้อุโมงค์ เรื่องราวส่วนใหญ่ของเรื่องสั้นชุดนี้ เป็นภาพสะท้อนชีวิตของผู้คนในสังคมเมืองคนในวงสังคมชั้นสูง ดาราภาพยนตร์ พ่อค้า นักธุรกิจ ผู้เขียนซี้ให้เห็นว่า ชีวิตของผู้คนเหล่านั้นล้วนเป็นภาพมายาที่ปราศจากความจริงใจ สังคมไทยร่วมสมัยมีสภาพไม่ต่างกับ “เมืองใต้อุโมงค์”ที่กำลังรอให้ “เดือนฉาย” หรือมีคนมาท “สีขาว” ให้ โรคขาดคุณธรรมกำลังระบาดไปทั่วเมืองแห่งนี้ซึ่งหากปล่อยให้ลุกลามต่อไปก็ยากจะบำบัดอย่างไรก็ตามความดำมืดของ “เมืองใต้อุโมงค์” จะเยี่ยวยาแก้ไขได้ก็ด้วย “ความสว่างไสว” ภายในจิตใจของคนเมืองนี้เท่านั้น”เมืองใต้อุโมงค์”ของประชาคม ลุนาชัย คือยาขนานเอก ซึ่งมีสรรพคุณที่จะเยียวยาให้ ‘เมืองใต้อุโมงค์” ของผู้อ่าน กลับมาสว่างไสวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

บูรพา

เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์ซึ่งตรงกับสมัยวิกตอเรียนขอเนื้อเรื่องและการสร้างตัวละครสมจริง มีชีวิตชีวา สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรมในช่วงเวลาดังกล่าวสะท้อนปัญหาความรักและคตินิยมของคนต่างเชื้อชาติและชนชั้นสอดแทรกปรัชญาและการดำเนินชีวิตของสังคมที่ยึดมั่นในจารีต ภาษาที่ใช้สื่ออารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้ลึกซึ้งและแยบยล

ย่ำสวนป่า

เนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับความทรงจำในวัยเด็กที่น่ารัก เล่าถึงธรรมชาติและสังคมในชนบท การดำเนินเรื่องกระชับ นำเสนออย่างตรงไปตรงมา อ่านสนุก แทรกอารมณ์ขัน แต่ละตอน มีการเชื่อมโยงถึงกัน ภาษาที่ใช้สละสลวย อ่านแล้วเห็นภาพขัดเจน ภาพประกอบเป็นภาพเขียนสีสวยงาม มีชีวิตชีวา สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง การจัดรูปเล่มมีองค์ประกอบที่สมบูรณ์

Moon’s shadow

ผู้เขียนใช้จินตนาการนำความซาบซึ้งจากบทเพลงในวัยเยาว์ความประทับใจจากประสบการณ์ชีวิตจริงและความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาเป็นกลวิธีในการแต่งและวาดการ์ตูนเรื่องนี้ได้กลมกลืนดี เนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวในลักษณะแอบรักคนที่เขามีคู่แล้ว ตัวเองได้แต่เฝ้าดูแลอยู่ห่าง ๆ เปรียบเหมือนดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก แต่ไม่เคยเข้าใกล้โลก สุดท้ายก็คือ เป็นผู้เสียสละ ลายเส้นการจัดวางภาพและเทคนิคพิเศษ (สกรีนโทน) ดูสวยงามลงตัว เนื้อหาโดยรวมอ่านเพลิน ๆ ดำเนินได้ลื่นไหล แต่ไม่โดดเด่นหรือกระทบอารมณ์ ฝีมือของผู้วาดจัดว่าดี แต่กรรมการเห็นว่าเป็นลักษณะการวาดที่ดาษดื่นตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไป ไม่โดดเด่นและไม่ได้หลุดออกไปจากกรอบของการ์ตูนในแนวเดียวกัน พิจารณาฝีมือทั้ง 2 เล่มแล้วฝีมือจัดว่าใกล้เคียงกัน กรรมการให้คุณค่าของผลงานที่เนื้อหาและคุณค่าที่ให้สาระแก่ผู้อ่าน จึงพิจารณาตามผลที่ประกาศมา

ร่มเงาเรือง

เป็นงานเขียนบทกวี 40 ชิ้น ที่มีความหลากหลายทั้งด้านฉันทลักษณ์และเนื้อหา ใช้คำที่มีพลัง นำเสนอแง่มุมความคิดและอารมณ์ ได้อย่างจับใจ

ในความว่างนั้นยังมี

เป็นงานเขียนบทกวี 40 ชิ้น ที่มีความหลากหลายด้านฉันทลักษณ์ เนื้อหาสะท้อนความคิดเชิงสังคมอย่างสร้างสรรค์ ทั้งรูปธรรมและนามธรรม เช่น ประวัติศาสตร์ บุคคล การเมือง ฯลฯ เลือกใช้คำและสัมผัสได้อย่างสละสลวย

เรื่องธรรมดาของคนสามัญ

เป็นรวมเรื่องสั้น 10 เรื่องที่หลากหลายความคิด การดำเนินเรื่องดี กระชับ ภาษาที่ใช้อ่านง่าย บางเรื่องให้ความสะเทือนใจ บางเรื่องเสียดสีสังคม และบางเรื่องสนุกสนาน

เส้นเลือดสีขาว

เป็นเรื่องที่เขียนจากประสบการณ์จริงอย่างสมเหตุสมผล มีข้อคิด และอารมณ์ขัน ภาษาที่ใช้ชวนติดตามและให้กำลังใจกับผู้อ่านได้อย่างดี

ที่นี่…มีชีวิต

ด้วยรูปแบบลายเส้นการออกแบตัวการ์ตูนและนำเสนอเนื้อหาแบบสากล การนำเสนอมุมมองของภาพ การจัดองค์ประกอบลงตัว แม่นยำ สวยงาม  เนื้อหาสะท้อนและนำเสนอปัญหาของคนในวิถีชีวิตและทัศนคติของสังคมเมืองสมัยใหม่ เป็นการ์ตูนแบบบู๊แอ็คชั่นบวกแฟนตาซี มีการจัดภาพได้ตื่นเต้นเร้าใจ ซึ่งดูแล้วก็ให้ความรู้ และแง่คิดแก่ผู้อ่านได้พอสมควร แต่ด้วยเนื้อเรื่องของเล่มและรูปแบบที่นำเสนอมีเทคนิคการวาดหลากหลายทำให้ดูกระจัดกระจายเป็นรูปแบบเรื่องสั้น คณะกรรมการพิจารณาให้ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1