ผลรางวัล

รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง

  • Home
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง

รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง

บังฟ้าเบิกอบาย

บังฟ้าเบิกอบาย  รวมกวีนิพนธ์ของ นายทิวา เป็นงานฉันทลักษณ์ในรูปแบบของกลอนสุภาพ แบ่งเป็นสองภาค ภาคแรก “ความจริงลวง” และภาคสอง “ความลวงจริง” ภาคแรก “ความจริงลวง” ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้พบเห็นและเป็นไปในสังคมปัจจุบัน เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้า พระราหู  อสุรกาย เวทมนต์คาถาและพิธีกรรมต่าง  ๆ เช่น ในบท “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแม่บ้าน” “ราหูอมเรา” “มูเดินสายนอก” และ “มูเดินสายใน” ด้วยมุมมองและทัศนะที่หลากหลาย ภาคที่สอง “ความลวงจริง” มุ่งเน้นให้เข้าใจเห็นความเป็นมนุษย์ด้วยกัน พูดถึงความจริงที่อยู่คู่กับความลวงแต่มองไม่เห็น  ด้วยท่วงทำนอง ลีลา อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของกวี ด้านกลวิธีการประพันธ์ กวีมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของฉันทลักษณ์ การใช้ภาษา และการใช้สำนวนโวหารเชิงบรรยาย พรรณนา และเปรียบเทียบประชดประชันสอดแทรกด้วยอารมณ์ขัน เสนอประสบการณ์ร่วมไว้อย่างไร้ข้อจำกัด คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ บังฟ้าเบิกอบาย  ของ นายทิวา  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทกวีนิพนธ์  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

DRAG QUEEN และซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ

            DRAG QUEEN และซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ  ของ ณพรรธน์ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๘ เรื่อง           ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย มีทั้งแนววิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำสมัย แนวแฟนตาซี แนวสมจริง แต่ละเรื่องสะท้อนค่านิยมความคิดต่างของผู้คนหลากเพศ  หลายวัย  ผู้เขียนเล่าเรื่องอย่างมีวรรณศิลป์ ชวนให้ติดตาม ตอนจบของแต่ละเรื่องได้ทิ้งปริศนาปลายเปิดให้ผู้อ่านคิดและจินตนาการต่อไป คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น DRAG QUEEN และซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ  ของ ณพรรธน์    ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

Rainbowlogy ศาสตร์สีรุ้ง

หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดเรื่องราวความหลากหลายทางเพศที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเรื่องซับซ้อน ให้เข้าใจ ง่ายด้วยสำนวนภาษาที่ตรงไปตรงมาและสนุกสนาน ผ่านประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่มีความเข้าใจ อย่างลึกซึ้ง ผู้อ่านจะได้เปิดโลกไปกับความสัมพันธ์หลากรูปหลายแบบของเพศต่าง ๆ ที่เคยเป็นความลึกลับ ให้กระจ่างแจ้งในความเข้าใจ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ Rainbowlogy ศาสตร์สีรุ้ง ของ สิรภพ แก้วมาก  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทสารคดี  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตนอื่น ๆ

            DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตนอื่น ๆ ของ จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท  เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นแนวจินตนิยม ๘ เรื่อง มีโครงเรื่อง ตัวละคร และแนวความคิดแปลกใหม่หลากหลาย   ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่ชั้นเชิงในการนำเสนอเรื่องอย่างสร้างสรรค์ มีมิติซับซ้อน มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความหมายของชีวิต  ความสำคัญของความรักและเสรีภาพ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตน อื่น ๆ ของ จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

Orlando in a Glimpse หากเล่าถึงออร์ลันโด

         Orlando in a Glimpse หากเล่าถึงออร์ลันโด เป็นนวนิยายแนวเควียร์กอธิค (Queer Gothic Literature) ที่ดำเนินเรื่องภายใต้ท้องฟ้าเจิดจ้าในช่วงฤดูร้อนแสนสั้นของอิตาลี ผ่านตัวละครหลักคือเด็กสาวชาวไทยชื่อเจ๋  ซึ่งเป็นผู้เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบโดยใช้สรรพนามแทนตัวว่า “ผม” หลังจบ ม.๖ ก่อนมหาวิทยาลัยเปิดภาคเรียน เจ๋ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวอิตาลีครั้งแรกโดยอาศัยอยู่ที่บ้านลุงโจ—พี่ชายแท้ ๆ ของแม่ ซึ่งได้แต่งงานกับป้ามาติลดา เจ้าของโรงแรมเก่าแก่ในเมืองเซียนา ที่นั่น..เจ๋ได้พบจูเลีย ลูกสาวของลุงกับป้า และได้รับรู้เรื่องราวของออร์ลันโด พี่ชายสุดที่รักของเธอและลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของป้า นักเปียโนฝีมือฉกาจ ผู้มีรูปลักษณ์ราวเทพที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน เหตุการณ์แปลกประหลาดทยอยเกิดขึ้นเป็นระลอกนับจากวันที่เจ๋ได้ยินเสียงบรรเลงเปียโนไร้ที่มากลางจัตุรัสโล่งกว้าง ไปจนถึงวันที่ปริศนาการตายของออร์ลันโดได้รับการเปิดเผย สาเหตุการตายก่อนเวลาอันควรนี้ ชูประเด็นสำคัญที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอในเรื่องเกี่ยวกับ “พื้นที่” และการยอมรับใน “ตัวตน” ของกลุ่มคนที่เรียกกันว่า “นอนไบนารี” (Non binary) ออร์ลันโดและเจ๋ เป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่ระบุว่าตัวเองไม่ใช่ทั้งหญิงและชาย หากแต่มีความลื่นไหลทางเพศ (Gender Fluid/fluidity) ที่สามารถเปลี่ยนแปลงและนิยามอัตลักษณ์ของตนกลับไปกลับมาได้ ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต “เหมือนสายลมและสายน้ำที่เปลี่ยนแปรไปมาอยู่เสมอแม้เพียงข้ามคืน”  แม้ออร์ลันโดจะเป็นนักดนตรีฝีมือเอก และมีพรสวรรค์ในการบรรเลงบทเพลงราวฟ้าประทาน แต่เจ๋ผู้มีทักษะทางเปียโนกระท่อนกระแท่น ดูจะเป็นผู้โชคดีกว่า เพราะเขาได้มีชีวิตต่อมาเพื่อบรรเลงเพลงบทใหม่ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความจริงแท้ของตนเอง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ Orlando in a Glimpse  หากเล่าถึงออร์ลันโด  ของ ลาดิด ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

เรื่องของ ป้อง

เรื่องของ ป้อง เป็นเรื่องย้อนยุคแนวสมจริง เล่าขานผ่านชีวิตของ “ป้อง” เด็กชายวัยแปดขวบ ที่อาศัยอยู่กับปู่ย่า ใช้ชีวิตชาวเรือริมแม่น้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ในจังหวัดพิษณุโลก  ครอบครัวมีความอบอุ่น ความรัก ความเมตตา โอบอ้อมอารีต่อกัน ในสังคมที่เรียบง่ายน่าอยู่ มีบรรยากาศของงานวัด ตลาด และการละเล่นของเด็กยุคนั้น ป้องอยู่อย่างมีความสุขกับปู่ย่าที่ไม่ใช่สายเลือด แม้ไม่มีแม่เลี้ยงดู ส่วนพ่อนั้นนาน  ๆ จึงจะมาหา ถูกเพื่อนล้อเลียนว่าเป็นลูกไม่มีแม่ ทำให้ลึก ๆ ในใจของป้องโหยหาความรักจากพ่อแม่ แต่ในที่สุดป้องก็ตระหนักว่าได้รับความรักและความสุขจากปู่ย่า เรื่องราวดี นำเสนอได้ดี ทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้เรื่องของ ป้อง ของ กอบสินธุ์  กล่อมปัญญา   ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

ผลิบานและหาญกล้า

ผลิบานและหาญกล้า เป็นเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตของไอดอลสาว ในช่วงเวลาที่เธอต้องไปเก็บตัวในสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อความปลอดภัย เหตุจากการแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ขัดแย้งกันในพื้นที่สาธารณะ สถานที่นั้นเธอได้พบกับผู้ดูแลสถานที่ ผู้พักอาศัยข้างห้องและบริเวณใกล้เคียง ผู้เขียนได้สอดแทรกเหตุการณ์ต่าง ๆ  ทั้งดีและร้าย นำเสนอด้วยภาษารุนแรงตามลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในที่สุดก็คลี่คลายไปในทางดี ทำให้เธอได้รู้จักและเรียนรู้วิถีของคนเหล่านั้นมากขึ้น มีโอกาสช่วยเหลือกันและกันด้วยมิตรไมตรี จึงเปลี่ยนทัศนคติ พร้อมที่จะออกไปดำเนินชีวิตอย่างผลิบานและหาญกล้า ตามแบบของตนด้วยความมั่นใจ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้  ผลิบานและหาญกล้า ของ  จิรภัทร คงถนอมธรรม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดนวนิยาย     ขนาดสั้น  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

Before Becoming the Buddha 1 พุทธประวัติฉบับคอมมิค ภาค ก่อนตรัสรู้

          Before Becoming the Buddha 1 พุทธประวัติฉบับคอมมิค ภาค ก่อนตรัสรู้ เป็นหนังสือการ์ตูนที่นำเสนอพุทธประวัติในรูปแบบการ์ตูนนิยายภาพ  ออกแบบตัวละคร ให้ผู้อ่านเห็นบุคลิกที่สง่างามของเจ้าชายนักบวช ที่แม้อยู่ในชุดเสื้อผ้าที่ซอมซ่อ แต่ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนแวดล้อม ผู้วาดเน้นพุทธประวัติขององค์พระพุทธเจ้าที่ผ่าน เรื่องราวต่าง ๆ สู่การตรัสรู้ โดยเล่าย้อนเวลาตั้งแต่ช่วงการเดินทางทรงผนวช  ฝึกฝนเรียนรู้จากนักบวชผู้มีประสบการณ์  การพบปะบุคคลทุกชนชั้น ตั้งแต่กษัตริย์ นักบวช และสามัญชน หนังสือการ์ตูนเล่มนี้เป็นพุทธประวัติที่มีมุมมองใหม่ ๆ เหมาะสมกับยุคสมัยของคนอ่านในปัจจุบัน รูปแบบหนังสือเป็นการ์ตูนสวยงามด้วยมุมภาพที่มีเสน่ห์ ลายเส้นงดงาม ภาพวาดได้แรงบันดาลใจมาจากพระพุทธรูปยุคคันธาระ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปในยุคแรกที่ได้อิทธิพลจากสไตล์กรีก-โรมัน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ Before Becoming the Buddha 1 พุทธประวัติฉบับคอมมิค    ภาค ก่อนตรัสรู้  ของ ADISAK DAS PONGSAMPAN  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่น            บุ๊คอวอร์ด ประเภทการ์ตูน ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๗  

THE TRUE THUG

THE TRUE THUG เป็นหนังสือในโครงการ 7-11 ถอดรหัสนักวาดการ์ตูนในฝัน ส่งผลงานเข้าประกวดในนามกลุ่ม           เป็นการ์ตูนเรื่องสั้น ๆ ที่ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพที่น่าสนใจ ๒ ภาพ คือ ภาพจากมุมมองระยะไกล จะเห็นพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงของเด็กเกเร และความอ่อนโยนของเด็กเรียบร้อย ภาพจากมุมมองระยะใกล้ จะเห็นความอ่อนแอในเด็กเกเร เห็นความก้าวร้าวรุนแรงในเด็กเรียบร้อย นักเขียนนักวาดกลุ่มนี้ นำชีวิตในโรงเรียนของความเป็นเพื่อนที่ว่า นักเลงจริงต้องไม่ทำร้ายคนอ่อนแอ  เรื่องสนุก แสดงบุคลิกการแต่งตัวของตัวละคร ๓ ตัวที่ต่างกัน ภาพภายนอกที่เห็นอาจไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของแต่ละบุคคล  โรงเรียนเป็นสถานที่ที่ย่อส่วนสังคมให้เยาวชนด้อยประสบการณ์ ได้ทดลองแก้ปัญหาต่าง ๆ  ซึ่งจะทวีความซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ตามช่วงวัย ทำให้เยาวชนได้เรียนรู้ผู้อื่นพร้อมกับได้เรียนรู้ตัวเอง ได้รู้จักปรับปรุงตัวเองให้สอดคล้องกับสังคมเล็ก ๆ ในโรงเรียน อย่างเข้าใจและมีความสุข พร้อมรักษาความเป็นตัวของตัวเองไปด้วย THE TRUE THUG นับว่าเป็นการ์ตูนที่ดี ช่วยชี้นำสิ่งที่ผู้อ่านมองข้ามไปอย่างน่าสนใจ ลายเส้นและการจัดภาพ​สวยงาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ THE TRUE THUG ของ ณัฐนิช คำพุด, ปนัสยา บรรลุดี,  ชนันรัฒน์ เตชะสุน และ ขวัญวริญ รัศมีฉาย  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊ค อวอร์ด  ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดการ์ตูน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗

แม่นาก ภาคสมบูรณ์ : MAE NAK CLASSICAL GHOST OF SIAM

งานเขียนของนักเขียนสารคดีแถวหน้าผู้ทำงานค้นคว้าประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน หนังสือเล่มนี้ใช้เวลาศึกษาอย่างต่อเนื่องกว่า ๔๐ ปี จึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “แม่นาก” ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากเนื้อหาในการเขียนแล้ว ยังมีภาพประกอบอันทรงคุณค่าอีกมากมาย คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ แม่นาก ภาคสมบูรณ์ : MAE NAK CLASSICAL GHOST OF SIAM ของ เอนก นาวิกมูลได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

โคโค่กับนกฟีนิกซ์ที่หายไป

ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้แน่นอน การพลัดพรากนำมาซึ่งความทุกข์  สติจะทำให้ตระหนักรู้ในที่สุดว่าทั้งหมดทั้งมวล มิได้มีตัวตน วงเวลา ผู้ประพันธ์เรื่อง โคโค่กับนกฟินิกซ์ที่หายไป ได้วางโครงเรื่อง โดยสร้างตัวละคร กำหนดฉาก เวลาและสถานที่ อธิบายแนวคิดในเชิงปรัชญาข้างต้น เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจว่ามาจากความคิด ความรู้สึกที่ยึดติดกับอดีตและความวิตกกังวลถึงอนาคต  การมีสติรู้เท่าทันปัจจุบัน นำไปสู่ความเบิกบานจากการตื่นรู้ว่าสรรพสิ่งล้วนสัมพันธ์กัน แต่มิอาจถือมั่นให้เป็นตัวตนได้ มูมู คือนกฟินิกซ์ เพื่อนรักของโคโค่ ที่เถ้าถ่านจากการเผาไหม้ตัวเองปลิวกระจายหายไป  เพื่อให้เสียงเพลงอันไพเราะที่นกฟินิกซ์ขับขานทุกเช้า อันทำให้เหล่าสิ่งมีชีวิตในดินแดนแห่งวันนี้กลับมามีความสุข เหล่าสัตว์ทั้งหลายเอาใจช่วยให้โคโค่ออกตามหามูมู การตามหาเริ่มจากดินแดนแห่งเมื่อวาน ตามคำแนะนำของผู้เฒ่านกฮูก โคโค่ได้ช่วยให้แพนด้าที่ยึดติดกับความแปลกแยกจากเผ่าพันธุ์ยอมรับหนทางที่ตนเลือก เมื่อเดินทางไปตามหามูมูต่อในดินแดนแห่งพรุ่งนี้ โคโค่ช่วยให้ดักแด้ที่ไม่ยอมออกจากเปลือกที่ห่อหุ้มคลายกังวล เปลี่ยนแปลงเป็นผีเสื้อที่สวยงามและโบยบินอย่างเป็นอิสระ แม้การตามหานกฟินิกซ์ในดินแดนแห่งเมื่อวานและพรุ่งนี้จะล้มเหลว โคโค่ได้เรียนรู้จากกับดักทางความคิดของแพนด้าและดักแด้ว่าความยึดติดกับอดีตและความวิตกต่ออนาคตทำให้เกิดความทุกข์   อีกทั้งคำแนะนำจากผู้รู้ใช่จะแก้ปัญหาได้เสมอไป  โคโค่จึงประมวลความคิดต่อไปว่าหากสรรพสิ่งเบิกบานได้เพราะเสียงเพลงจากนกฟินิกซ์  ก็ย่อมนำเสียงเพลงจากนกฟินิกซ์กลับมาได้เช่นกัน แทนที่จะออกตามหานกฟินิกซ์มูมูด้วยใจเป็นทุกข์ โคโค่จึงกลับมารับฟัง คลายทุกข์ให้สรรพสัตว์ดังที่เธอได้ทำให้กับแพนด้าและดักแด้  เธอใช้เวลานานกว่าจะทำให้บรรดาสัตว์ค่อย ๆ แช่มชื่นขึ้น แต่มูมูก็ยังไม่กลับมา ในที่สุดเมื่อโคโค่ มองเห็นความงามของปัจจุบันด้วยใจที่เป็นสุขทำให้เธอเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า สรรพสิ่งในธรรมชาติทั้งมวลต่างพึ่งพาอาศัยไม่อาจแยกขาดจากกัน ทุกสิ่งมีความสุขได้เพราะไม่ได้แบ่งแยกเป็นเมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้  นกฟินิกซ์ไม่ได้จากไปไหน และไม่ได้มาจากที่ใด  ด้วยความตระหนักรู้นี้ มูมูนกฟินิกซ์ในเรื่องจึงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงเพลงอันไพเราะ สาระของเรื่อง โคโค่กับนกฟินิกซ์ที่หายไป จึงมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์ถึงความทุกข์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะความคิดและความรู้สึก การพินิจความทุกข์ให้ถ่องแท้นำไปสู่การหยั่งรู้ความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียว การให้ความสำคัญกับปัจจุบันคือความสุขที่แท้หรือกล่าวได้ว่าคือความเบิกบานจากการตื่นรู้นั่นเอง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ โคโค่กับนกฟีนิกซ์ที่หายไป ของ วงเวลา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

ทัศนียภาพที่เคลื่อนไหล

ทัศนียภาพที่เคลื่อนไหล ของ นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๑๓ เรื่อง ที่นำชีวิตของผู้คนในสังคมธรรมดาที่อยู่รายรอบตัวเรา ผ่านสายตาของผู้เขียน โดยเล่าเรื่องอย่างง่าย ๆ แต่สร้างอารมณ์ร่วมให้แก่ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนใช้ภาษาที่ราบรื่น งดงาม และกลมกลืนกับเนื้อเรื่องที่มีลักษณะแปลกใหม่ เน้นความเคลื่อนไหวของตัวละคร ทั้งยังบรรยายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีชีวิตชีวาน่าติดตาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น ทัศนียภาพที่เคลื่อนไหล ของ นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

Z Diary

Z Diary ของ พัณณิดา ภูมิวัฒน์ คือบทบันทึกการโคจรมาพบกันของผีดิบตัวสุดท้ายกับมนุษย์ชราคนสุดท้าย ในฉากโลกอนาคตที่โรคระบาดร้ายแรงได้คร่าล้างมนุษย์จนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ การ (อาจจะ) เป็น “สิ่งสุดท้าย” ในชีวิตกันและกันของสองตัวละครหลัก ค่อย ๆ เปลี่ยนบทบาทจากนักล่าและผู้ถูกไล่ล่าให้กลายเป็นความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกชาย อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อแสวงหา “ชีวิตอื่น” ซึ่งอาจจะเป็นทางรอดของพวกเขาทั้งคู่ ความโดดเด่นของนวนิยายวิทยาศาสตร์ (Sci-fi) เรื่องนี้ อยู่ที่การหยิบยกประเด็นร่วมสมัยเรื่องพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของโลกไซเบอร์และสมองกลหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) มา “ทดลองคิด” และจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคมมนุษย์อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเมื่อเอไอสามารถถือกำเนิดขึ้นเองจากมหาสมุทรแห่งข้อมูล กลายเป็นจิตสำนึกที่สามารถคิด ตัดสินใจ และมีชีวิตของตัวเอง เมื่อผนวกกับความสามารถในการปฏิบัติการได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเข้าถึงความรู้ของมนุษย์อย่างไร้ขีดจำกัด ยิ่งทำให้เอไอดูราวกับเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ และมีสถานภาพไม่ต่างอะไรไปจากพระเป็นเจ้าผู้มีอำนาจสูงสุด (Sovereign) ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย นอกจากนี้ ความโดดเด่นอีกประการที่เดินเคียงคู่ไปกับคำเตือนว่าโลกจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใดภายใต้เงื่อนไขใหม่ ๆ ของวิทยาการล้ำยุค คือการ “ทดลองตอบ” และหาทางออกเพื่อกอบกู้โลกและเผ่าพันธุ์มนุษย์ โดยนำเอานิทานเรื่องพิน็อคคิโอมาเล่าและตีความใหม่ (Pinocchio Retelling)  และใช้เป็นกลวิธีในการดำเนินเรื่องจนคลี่คลายไปสู่ตอนจบที่อบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความหวัง ที่สุดแล้ว..จุดหมายปลายทางของทุกการแสวงหาและหัวใจแห่งความรอดเพื่อฟื้นฟูโลกและธำรงเผ่าพันธุ์ อาจเป็นคำตอบเดียวกันกับที่ทำให้หุ่นไม้อย่างพิน็อคคิโอและผีดิบอย่างไพน์ใฝ่ฝันและปรารถนาที่จะเป็นมนุษย์ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ Z Diary ของ พัณณิดา ภูมิวัฒน์  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖  

My playlist KANIS x Whal&Dolph

My playlist KANIS x Whal&Dolph  เป็นการ์ตูนที่ผู้เขียนนำบทเพลงประทับใจ ของ Whal&Dolph ๔ เพลง มาเล่าผ่านการ์ตูน ๔ เรื่องคือ ๑) เก็บเธอเอาไว้ดูก่อน  ๒) ฉันยังเก็บไว้  ๓) ไม่รู้ทำไม และ ๔) รอให้เธอบอก  ซึ่งผู้อ่านสามารถสแกน QR CODE ที่วางไว้ก่อนเริ่มเรื่อง เพื่อฟังเพลงพร้อมกับดูการ์ตูนไปด้วยกัน การ์ตูนในรูปแบบมังงะ (นิยายภาพญี่ปุ่น) ของ KANIS มีลายเส้นสีสันเรียบง่าย สวยงาม อบอุ่นอ่อนโยนสอดคล้องกับอารมณ์เพลง ทุกเรื่องที่นำเสนอ เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพในลักษณะให้ติดตามอารมณ์ของการ์ตูน ดูการเคลื่อนไหวไปทีละรูปทีละหน้า มีคำบรรยายน้อยและไม่มีคำบรรยาย ซึ่งทำให้อ่านได้ลื่นไหล ซึมซับอารมณ์ภาพกับเสียงเพลงไปในคราวเดียวกัน เนื้อหาทั้ง ๔ เรื่อง จาก ๔ บทเพลง เล่าถึงความรัก ความเศร้า ความผูกพันและความสูญเสีย ให้แง่คิดต่อชีวิตที่ดำรงอยู่ นับเป็นหนังสือที่ดี  มีคุณค่าทั้งเนื้อหาและรูปแบบ คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ My playlist KANIS x Whal&Dolph โดย KANIS ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทการ์ตูน ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๖

มิปรารถนาเป็นอื่น

มิปรารถนาเป็นอื่น  รวมกวีนิพนธ์ของ กวิสรา ม่วงงาม แบ่งกลุ่มเนื้อหาในเล่มออกเป็น ๔ ภาค ประกอบด้วย “ภาคแรก ดิน” “ภาคสอง น้ำ” “ภาคสาม ลม” และ “ภาคสี่ ไฟ” ใช้ท่วงทำนองการเล่าเรื่องแบบ Ballad จากชีวิตประจำวันของกวีผ่านวิถีของชาวสวนผู้เปี่ยมสุข สุขเพราะการค้นพบว่าวิถีกวีและการเป็นชาวสวนล้วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน การดูแลต้นไม้และสัตว์เลี้ยงแม้จะเป็นงานหนักแต่ก็ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้รับรู้ถึงความละเอียดอ่อนของชีวิตไม่ผิดกับการเขียนบทกวี ผ่านวิถีการทำงานที่อบร่ำด้วยความรักเมื่อได้ประจักษ์ถึงความทุกข์ที่ไม่จีรังยั่งยืน กวีเขียนถึงบรรดาสัตว์เลี้ยงของครอบครัวได้อย่างมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะเจ้าลูกม้าขี้อ้อนที่ชื่อ “บัวหลาด” ท่ามกลางบรรยากาศแมกไม้นานาพรรณของบ้านสวน กวียังย้อนความทรงจำถึงช่วงวัยเยาว์อย่างเข้าใจชีวิต เพื่อให้ผู้อ่านร่วมซึมซับประสบการณ์ในอดีตเทียบทาบกับความตระหนักรู้ในปัจจุบัน นับเป็นบทกวีที่เปี่ยมด้วยความหวังและกำลังใจอย่างมีนัยสำคัญ ด้านกลวิธีการประพันธ์ มิปรารถนาเป็นอื่น เป็นงานสร้างสรรค์ที่มีลีลาภาษาเรียบง่ายแต่หนักแน่นด้วยความหมายที่กวีกลั่นออกมาจากใจ ผ่านการกรองคำตามลีลาเฉพาะตนที่ไม่ได้เดินตามขนบวรรณศิลป์ไปทุกวรรค  แต่มิปรารถนาเป็นอื่น จึงอาจเป็นได้ทั้งข้อด้อยและข้อเด่นในขณะเดียวกัน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้รวมบทกวี มิปรารถนาเป็นอื่น ของ กวิสรา ม่วงงาม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

แสงหนึ่งคือรุ้งงาม

“แสงหนึ่งคือรุ่งงาม” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ๕ เรื่อง ในแนวดิสโทเปียนานาฮาระ ฮิเดยูกิ ผู้ประพันธ์สร้างเรื่องโดยจินตนาการถึงโลกอนาคตที่หม่นมัว หดหู่ตัวละครแต่ละเรื่องฉายภาพของมนุษย์ที่ไม่ระบุสัญชาติ พื้นที่ และพร่าเลือนเพศสถานะเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ เผชิญหน้ากับยุคเข็ญอย่างอาจหาญดิ้นรนปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด หากยังพยายามคงอุดมการณ์และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ท่ามกลางความเลวร้ายที่เหมือนจะสิ้นหวัง เรื่องสั้นเหล่านี้สะท้อนภาพของมนุษย์ที่ไม่ยอมจำนน หล่อเลี้ยงชีวิตด้วยความหวังเพียงน้อยนิด แม้ในด้านภาษาจะมีความไม่ราบรื่นอยู่บ้าง แต่ในส่วนเนื้อหา ผู้ประพันธ์วางโครงเรื่องจากวิกฤตนานาที่เปลี่ยนโลกนี้ได้อย่างสมเหตุสมผล ฝากคำถามให้ขบคิดว่าวิกฤตนั้นจะนำพามนุษยชาติไปในทิศทางใด และมนุษย์จะพยุงความเอื้ออาทรที่มีต่อกันได้มากน้อยเพียงใด คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “แสงหนึ่งคือรุ่งงาม” ของ นานาฮาระ ฮิเดยูกิได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์หมวดรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

๒๔๗๕ ราษฎรพลิกแผ่นดิน

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือข้อมูลที่ผู้เขียนเพียรค้นคว้าจากเอกสารต่าง ๆ รวมถึงหนังสืองานศพจำนวนมาก แล้วนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหน้าประวัติศาสตร์สังคมและการเมืองไทย ขณะเดียวกันก็ฉายให้ผู้อ่านได้เห็นภาพชีวิตของผู้ร่วมก่อการที่มีอุดมคติและท่วงทำนองชีวิตอันหลากหลาย ไม่แห้งแล้ง เห็นถึงความมีเลือดเนื้อ อำนาจ และความเปลี่ยนแปรของสัจธรรม เป็นสารคดีเชิงประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่เก็บรายละเอียดต่าง ๆ มานำเสนออย่างได้อรรถรสและมีวรรณศิลป์ชวนอ่าน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ ๒๔๗๕ ราษฎรพลิกแผ่นดิน ของ นริศจรัสจรรยาวงศ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดีประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

เจ้าหนูผู้พิทักษ์แห่งเกาะลิบง

“เจ้าหนูผู้พิทักษ์แห่งเกาะลิบง” เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงอันดาสาวน้อยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ เมื่อครั้งไปเยี่ยมเยียนคุณตาคุณยายที่เกาะลิบง จ.ตรัง ระหว่างนั้นได้ไปท่องเที่ยวชมสถานที่สวยงามทางธรรมชาติ ได้ความรู้เกี่ยวกับพืชทะเล สัตว์ทะเลหลากหลายชนิด เช่น ปูเสฉวน เต่าตนุ เต่ามะเฟือง หอยติบ หอยชักตีน โดยเฉพาะพะยูนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นสัตว์ป่าสงวนเพียงชนิดเดียวที่เป็นสัตว์น้ำ อาศัยอยู่ในทะเลเขต อบอุ่นที่ถูกทำร้ายและลักลอบล่า รวมถึงเรื่องการผจญภัยของอันดาและเพื่อน ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีช่วยสืบหากลุ่มคนร้าย ผู้เขียน เขียนเรื่องสนุก ชวนติดตาม อ่านแล้วอยากเดินทางไปเที่ยว เพราะให้ความรู้ ความบันเทิงทั้งเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล และสัตว์ทะเลนานาชนิดสอดคล้องกับการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “เจ้าหนูผู้พิทักษ์แห่งเกาะลิบง” ของ กิติศักดิ์ศรีแก้วบวร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

บ้านที่กลับไม่ได้

บ้านที่กลับไม่ได้ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นเชิงมานุษยวิทยาจำนวน ๙ เรื่อง ของบุญเลิศ วิเศษปรีชา ผู้แต่งเล่าเรื่องของผู้คนต่างเพศต่างวัย ต่างเชื้อชาติ แต่มาใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้านกลางกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ตัวละครในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ มีปํญหาชีวิตที่ทำให้ ต้องมากินมานอนริมถนน สวนสาธารณะ ชายคาตึกแถว ฯลฯ อาศัยอาหารบางมื้อจากโบสถ์และบางแห่งอนุญาตให้คนไร้บ้านซักผ้าได้ในวันอาทิตย์ ทำให้คนไร้บ้านได้มาพบปะกัน ผู้แต่งใช้ภาษาที่เรียบง่ายและมีชีวิตชีวาในการบรรยายฉาก บทสนทนาและพฤติกรรมของตัวละคร อย่างสมจริง สามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจน เรื่องราวที่อยู่ในเรื่องสั้นชุดนี้เป็นเรื่องจริงที่ผู้แต่งได้สัมผัสมาด้วยตนเอง แทนที่ผู้แต่งจะเขียนเป็นสารคดีที่มุ่งให้ความรู้ทั่ว ๆ ไป กลับเลือกที่จะใช้รูปแบบเรื่องสั้น ทำให้ผู้อ่านซึมซาบประทับใจกับเรื่องที่เล่าได้เป็นอย่างดี คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น บ้านที่กลับไม่ได้ ของ บุญเลิศวิเศษปรีชา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้นประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

วินาทีไร้น้ำหนัก

วินาทีไร้น้ำหนัก เป็นนวนิยายสะท้อนภาพชีวิตหลากหลายอาชีพในเมืองหลวงอันวุ่นวายสับสน มีคนขับรถตู้ สถาปนิก นักเรียน นักศึกษา นักเขียน แคชเชียร์สาวซูเปอร์มาร์เก็ต พนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร หญิงชราขายน้ำที่วินรถตู้และสุนัขจรจัด ชีวิตเหล่านี้ ต่างประสบชะตากรรมหรือเกี่ยวข้องในอุบัติเหตุรถชนกันบนทางด่วนในเย็นวันศุกร์ที่ฝนตกหนักผู้เขียนเล่าเรื่องผ่านเสี้ยววินาทีที่ผู้ประสบอุบัติเหตุแต่ละคนระลึกย้อนถึงเรื่องราวของตัวละครของตัวเองความทรงจำความฝันและจินตนาการ แม้ตัวละครล้วนมีชีวิตที่ยากลำบากแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีร่วมกันคือ การมุ่งไปสู่ความสำเร็จในชีวิต ความโดดเด่นของนวนิยายเรื่องนี้มีสองประการ ประการแรกผู้เขียนสามารถเล่าเรื่องและบรรยายสภาพจิตใจ ความนึกคิด อารมณ์ของตัวละครได้อย่างมีรายละเอียดผสมผสานมิติ ด้านฟิสิกส์ เคมีและปรัชญาเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ทำให้เรื่องราวชวนติดตาม ประการที่สอง ผู้เขียนสามารถชี้ให้เห็นถึงความหมายและคุณค่าของชีวิตที่ดำรงอยู่แม้ในคนเล็ก ๆ ซึ่งสังคมเคยพบ แต่ไม่เคยมองเห็น หรือให้ความสำคัญ และเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ วินาทีไร้น้ำหนัก ของ วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕

วันนี้คือวันตายของเจ้า! HAVE A GOOD DIE

“วันนี้คือวันตายของเจ้า! HAVE A GOOD DIE” เป็นการ์ตูนตลกร้าย เนื้อหาในแต่ละหน้าพาตัวละครไปพบจุดจบคือความตาย หรือบาดเจ็บสาหัสภายใน ๔ ช่อง ความตายของตัวละครเกิดจากการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบัน เช่น การกินอาหาร การใช้ชีวิตคู่ การทำงาน เทคโนโลยี ความเชื่อ เป็นต้น ซึ่งแต่ละมุกตลกน่าประทับใจ สะกิดใจให้ผู้อ่านหวนคิดถึงสิ่งนั้น ๆ ที่เราเคยชินจนมองผ่านไป ช่วงท้ายเล่าประสบการณ์ทางอารมณ์และความรู้สึกที่มีต่อความตายของผู้เขียนอย่างลึกซึ้ง เก็บรายละเอียดได้ดี เป็นที่มาของการเขียนการ์ตูนเรื่องน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “วันนี้คือวันตายของเจ้า! HAVE A GOOD DIE” โดย PPONG ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทการ์ตูนประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๕

ดวงตากวี

กวีนิพนธ์ชุด ดวงตากวี ของ รินศรัทธา กาญจนวตี เป็นงานฉันทลักษณ์สร้างสรรค์ ในรูปแบบกลอนสุภาพ เนื้อหาแบ่งเป็นสามภาค ภาคแรก ‘โลกภายใน : มองลึกเข้าไปในใจนั้น’ ภาคสอง ‘โลกภายนอก : มองออกไป ในความจริง ในความฝัน’ และ ภาคสาม ‘โลกของเรา : เธอบอกฉัน ฉันบอกเธอ’ ภาคแรก ‘โลกภายใน : มองลึกเข้าไปในใจนั้น’ กวีชี้ให้เห็นถึงคุณค่าหนังสือ ความ มหัศจรรย์ของการอ่านและพลังของบทกวี อีกด้านหนึ่งกวีได้กล่าวถึงการเขียนจากมุมของ ผู้บกพร่องทางสายตา แต่เขียนขึ้นจากความรู้สึก สัมผัสด้วยใจ… “บทกวีคือดวงตาข้าพเจ้า                               เส้น แสง เงา โค้ง ขอบ ประกอบสร้าง ภาพ เสียง คำ ทุกบทกำหนดวาง                   ลึก ไกล กว้าง เกินกว่าสายตามอง” ขณะเดียวกันกวีพาผู้อ่านย้อนรำลึกความทรงจำในวัยเยาว์อันบริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยจินตนาการ ทำให้เราเห็นภาพเหล่านั้นแจ่มชัด ตลอดจนกล่าวถึงความรักที่แม้ว่าถ่ายทอดด้วยลีลากลอน แต่ค่อนข้างเข้าถึงอารมณ์ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกและความงามทางวรรณศิลป์ได้ไม่ยาก… “หยาดน้ำค้างหยดค้างบนยอดหญ้า               หยาดน้ำตาหยดต้องทั้งสองแก้ม หากแม้นดาวส่องจับแสงวับแวม                     คงแต่งแต้มภาพเลือนได้เหมือนใจ” ภาคสอง ‘โลกภายนอก : มองออกไป ในความจริง ในความฝัน’ ว่าด้วย ความเป็นไปของสังคม อุดมการณ์ การเมือง สงคราม ความมีน้ำใจ ความยิ่งใหญ่และ ความงามของธรรมชาติ รวมถึงบุคคลต้นแบบ เช่น นักคิด นักเขียน นักต่อสู้ นักอนุรักษ์ กวีสามารถสื่อออกมาได้ ประทับใจและสะเทือนใจ แม้บางสำนวนดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัว แต่มีมิติทางสังคมทับซ้อนอยู่เสมอ ภาคสาม ‘โลกของเรา : เธอบอกฉัน ฉันบอกเธอ’ ว่าด้วยความหวัง กำลังใจ รักศรัทธาต่อสิ่งต่าง ๆ ตลอดถึงคุณค่าความงามมวลพฤกษา ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ทั้งยังชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกัน มีมุมมองต่างกัน แต่ควรมองต่างอย่างมีศิลปะ ในด้านรูปแบบ กวีมีความช่ำชองในเชิงฉันทลักษณ์ เมื่อรวมกับเสน่ห์ในการใช้ สำนวนโวหาร มีจินตนาการและอารมณกวีที่ประณีต ทำใหเห็นความงามของ “ดวงตากวี” คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้รวมบทกวี “ดวงตากวี” ของ รินศรัทธา กาญจนวตี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๕

ทักษะความสุข

หนังสือเล่มนี้นำเสนอแง่คิดและมุมมองต่อโลกและสังคมรอบด้าน ที่จะสร้างสุขให้ผู้คนทั่วไปได้ไม่ยาก ผู้เขียนรวบรวมข้อมูลจากงานวิจัยในต่างประเทศ มาผสมผสานกับประสบการณ์ส่วนตัวได้อย่างกลมกลืน จึงมีคุณค่าในทางความคิด การดำเนินชีวิต ทัศนะในการมองโลกตามความเป็นจริง ทั้งที่เป็นและควรจะเป็น รวมถึงการดำรงตน ความรักความเมตตา ความกรุณา  ความสุขแท้จริงที่เกิดจากการให้ ความเสียสละ  ความพอเพียง ไม่เห็นแก่ตัว ลีลาการนำเสนออ้างอิงแนวคิดของนักคิดทั้งไทยและสากลมาอธิบายสนับสนุนได้อย่างน่าเชื่อถือ ด้วยสำนวนความเรียงที่มีลีลาน่าอ่าน เพลิดเพลิน เข้าใจง่าย ประกอบตัวอย่างจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนและบุคคลที่มีชื่อเสียง เขียนได้อย่างมีอรรถรส ภาษาสละสลวย อ่านสบาย และงานเขียนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอ่านได้อย่างดี คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “ทักษะความสุข”  ของ นิ้วกลม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

ทุ่งหญ้า ป่าข้าว เจ้าเขากาง และผม

“โข่ง” เด็กชายผู้เล่าเรื่อง “ทุ่งหญ้า ป่าข้าว เจ้าเขากาง และผม”  พาผู้อ่านย้อนอดีตไปสัมผัสชีวิตชาวนาที่เงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต หากการเอื้อเฟื้อแบ่งปันใส่ใจกันในหมู่เครือญาติและเพื่อนบ้านคือความสุขในความอัตคัด และเป็นรากฐานอันมั่นคงให้เด็กคนหนึ่งเติบโตมาด้วยความรักความผูกพัน สำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ จนไม่รู้สึกว่าตนเองขาดอะไร นอกจากภาพชีวิตในชนบท วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงภาพการศึกษาของไทยในอดีตที่ดำเนินไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเสียสละของครูที่มุ่งมั่นจะพัฒนาลูกศิษย์ให้มีคุณภาพ หยิบยื่นโอกาสอันนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น วรรณกรรมเรื่องนี้ถ่ายทอดความรักความอบอุ่นของสายสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ เพื่อนพ้อง ครูกับศิษย์ และคนกับสัตว์ในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในชนบทที่หล่อหลอมให้เด็กคนหนึ่งได้เรียนรู้ เข้าใจ และตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งรอบตัว คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “ทุ่งหญ้า ป่าข้าว เจ้าเขากาง และผม”  ของ เอกอรุณ  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔  

บินไปเหนือสะพานข้ามดาว

“บินไปเหนือสะพานข้ามดาว” เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นจำนวน ๑๒ เรื่อง ของ ประชาคม ลุนาชัย  สะท้อนให้เห็นแง่มุมของความเป็นมนุษย์และภาพสังคมหลากหลาย นอกจากเรื่องที่มีกลิ่นอายแห่งท้องทะเลและชีวิตที่กร้านแดดฝนบนเรือประมงแล้ว  ผู้เขียนยังนำบอกเล่าเรื่องราวและคิดค้นแง่มุมเนื้อหาสาระในแต่ละเรื่องให้ร่วมสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็นำเอาสัตว์ต่าง ๆ มาเป็นสัญลักษณ์สะท้อนให้เห็นชีวิตผู้คนและด้านมืดที่้เกิดขึ้นในยุคนี้  ทั้งยังแสดงทัศนะที่มีต่อเหตุการณ์ทางการเมือง   ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความอยุติธรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น  บางเรื่องได้ใช้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงของโลกมาต่อยอดความคิดเป็นเรื่องใหม่อีกด้วย ผู้เขียนมีความคิดที่ลุ่มลึกนำเสนอเรื่องราวด้วยกระบวนวิธีเรียบง่าย ผ่านภาษาประณีตงดงาม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้หนังสือรวมเรื่องสั้น “บินไปเหนือสะพานข้ามดาว” ของ ประชาคม ลุนาชัย ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

แด่ความคิดถึง

“แด่ความคิดถึง”  ของ ทนุธรรม เป็นเรื่องราวของวินกับทนิน ชายหนุ่ม ๒ คนที่แบ่งเช่าห้องชุดในคอนโดมิเนียมด้วยกัน วินจ่อมจมอยู่กับความเจ็บปวดจากอดีต ส่วนทนินหมกมุ่นอยู่กับความฝันอยากเป็นนักเขียน แม้จะอยู่ในห้องชุดเดียวกัน แต่สัมพันธภาพของคนทั้งสองห่างเหินเพราะต่างคนต่างมีโลกส่วนตัว จนวันหนึ่งทั้งสองเปิดใจเชื่อมมิตรภาพระหว่างกัน แต่ต่อมาก็กลับเกิดเหตุขัดใจจนต้องลาจากกัน นวนิยายเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในชีวิตของใครบางคน แต่เรื่องธรรมดานี้สะท้อนชีวิตของคนในเมืองใหญ่ที่ต่างคนต่างอยู่ ไม่สนใจใครแม้แต่คนใกล้ตัว ความเหงาลึกจึงก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางความซับซ้อน สับสน และผู้คนมากมายที่อยู่รอบตัว หลายคนพึ่งพาโซเชียลมีเดียเป็นที่ระบายความในใจแทนการสนทนากับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผู้เขียนใช้กลวิธีนำเสนอด้วยบันทึกของทนิน ไปพร้อมกับความคืบหน้าในบทต่าง ๆ ของนวนิยายที่ ทนินจำใจเขียน สาระว่างเปล่าของนวนิยายรักเป็นภาพล้อคู่ขนานไปกับความเปราะบางของสัมพันธภาพที่กว่าทนินจะประจักษ์ในคุณค่าของความเป็นเพื่อน ความเข้าใจถึง และห่วงใยจิตใจของผู้อื่นอย่างจริงใจ ก็สายเกินไป “ผมหลับตาลงแล้วนึกว่า ถ้ามีโอกาสพูดกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย ผมจะพูดว่าอย่างไร มันนึกออกได้ไม่ยากเลย คงเป็นคำว่า ‘คิดถึง’ อย่างแน่นอน” น่าเสียดายที่โอกาสของทนินไม่เคยหวนกลับมาอีกเลย คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “แด่ความคิดถึง” ของ ทนุธรรม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔  

การเดินทางของบรรณาธิการ

หนังสือเรื่อง “การเดินทางของบรรณาธิการ” เป็นการ์ตูนแนวเหนือจริงเชิงสัญลักษณ์สะท้อนปัญหาสภาวะการสร้างงานต้นฉบับของนักเขียนการ์ตูน และภารกิจหนักอึ้งของผู้เป็นบรรณาธิการ ตลอดจนสภาวะตกต่ำของธุรกิจสิ่งพิมพ์ โดยจำลองภาพเป็นการเข้าไปสู่โลกเสมือน เป็นเรื่องราวของชายผู้เป็นบรรณาธิการหนังสือการ์ตูนมาจนแทบจะทั้งชีวิต ต้องเข้าไปอยู่ในโลกที่ล่มสลาย โลกที่เงินตราไม่มีความหมาย ไม่มีการเจรจาแลกเปลี่ยน ไม่มีการประนีประนอมให้ผู้อ่อนแอ จะมีเพียงแต่การต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์เพื่อแย่งชิงและเอาชีวิตรอด ทั้งในโลกความเป็นจริงและโลกเสมือนจริง  โดยใช้ภาพของอสูรกาย และสัตว์ร้ายแทนอุปสรรคดังกล่าว ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยลายเส้นที่สนุกสนาน การจัดภาพและดำเนินเรื่องได้น่าตื่นเต้น มีความเป็นอิสระและสไตล์ของตัวเอง นำเสนอเรื่องราวมีเนื้อหาให้แนวคิดอย่างสร้างสรรค์ และได้มีการค้นคว้าความรู้ทางสากล เป็นการเพิ่มคุณค่าของหนังสือเล่มนี้ นับว่าเป็นหนังสือการ์ตูนที่น่าส่งเสริมและสนับสนุน ผู้เขียนยังได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการอยู่รอดและการต่อสู้ของอาชีพบรรณาธิการทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือน คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “การเดินทางของบรรณาธิการ” ของ ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี  ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทการ์ตูน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

แผนแผ่นพ่างเมืองแมน

รวมบทร้อยกรอง “แผนแผ่นพ่างเมืองแมน” ของ ปรัชญา  พวงเพ็ชร นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับประสบการณ์และรสชาติชีวิต โดยแบ่งเป็น ๔ ภาค ดังนี้ ปฐมภาค แผนแผ่นรักแห่งอักษรา กล่าวถึงการถวายความจงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระบรม          ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แรงบันดาลใจจาก “คุณยายนักเล่า”  ความศรัทธาในภาษาและบทกวี รวมทั้งบทกราบครูกลอนสุนทรภู่ ทุติยภาค ผืนแผ่นฟ้าแห่งความฝัน กล่าวถึงความฝันและ “ความอยากเป็น” ในรูปแบบต่าง ๆ ตติยภาค ร้อยรักสลักประพันธ์ กล่าวถึงความรักหลากหลายรูปแบบ ทั้งสมหวังและผิดหวัง รวมทั้งความรักต่อผู้มีพระคุณ จตุรภาค หยัดยืนยันโลกความจริง นำเสนอการเผชิญปัญหา อุปสรรคและการยอมรับความเป็นไปในโลก ด้านรูปแบบคำประพันธ์ ส่วนใหญ่ใช้กลอนสุภาพ นอกจากนี้ยังมีกลอนดอกสร้อยและสักวา กาพย์ยานีและโคลงสี่สุภาพ  ผู้เขียนแสดงถึงภูมิหลังการอ่านวรรณคดีโบราณ เช่น นิราศนรินทร์และนำมาประยุกต์ใช้ด้วยความหวังที่จะสืบสานกานท์กวี คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้รวมบทร้อยกรอง “แผนแผ่นพ่างเมืองแมน”  ผลงานของ ปรัชญา  พวงเพ็ชร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒  รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียน          รุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔  

หัวใจป่า

หนังสือกวีนิพนธ์ “หัวใจป่า”  ของ พล พิมพ์โพธิ์ เป็นผลงานรวมบทกวีนิพนธ์ใช้คำประพันธ์ ประเภทกลอนสุภาพเป็นหลัก มีกาพย์ยานีแทรกเล็กน้อย แบ่งเป็น ๓ ตอนด้วยกัน คือ ตอนที่ ๑  ป่าไม้ ประกอบด้วยผลงาน ๑๔ สำนวน พูดถึงเรื่องราวธรรมชาติของแมกไม้มวลดิน  น้ำและป่า สวนดอกไม้ ชีวิตสัมพันธ์ของบ้าน คน และป่าไม้ “คนอยู่อิงอาศัยเพราะได้ป่า  สัตว์นานาก็พึ่งพิงอิงอาศัย  ป่าคือบ้านทุกชีวิตทุกจิตใจ หมู่บ้านใหญ่รวมร่วมผูกพัน ใครอยู่ป่าคือเจ้าถิ่นดินแดนป่า ต้องพิทักษ์ต้องรักษาต้องสร้างสรรค์ เสือไก่หมีชะนีค่างไม่ต่างกัน คือเจ้าบ้านทั้งนั้นของป่านี้” สำนวนโวหารเรียบง่าย ไพเราะงดงาม ตอนที่ ๒ ป่าเมืองประกอบด้วยผลงาน  ๙ สำนวน  กล่าวถึงชีวิตที่สัมพันธ์อยู่ในชุมชนเมือง “หากจะลองไถ่ถามสนามหญ้า  จะแบ่งมาก็ไม่เหลือสักเนื้อที่  ข้อจำกัดข้อเก่าที่เรามี จึงถูกตีกรอบกฎกำหนดชัด  แต่ในกรอบขอบคั่นอันคับแคบ  ดูเหมือนแทบย่ำแย่เพราะแออัด  กำแพงรั้วหลังโรงเรียนติดรั้ววัด   ยังพอจัดพื้นที่สีเขียวเติม”  ฉันทลักษณ์ถูกต้องตามกฎเกณฑ์  เนื้อหาสาระเหมาะสมกลมกลืน  การใช้ถ้อยคำได้อรรถรสชัดเจน มีบทเด่น เช่น เงินทองของแม่  อาณาจักรแห่งลมหายใจ  เป็นต้น ตอนที่ ๓ ป่าใจ  ประกอบด้วยผลงาน ๑๕ สำนวน เป็นการบอกเล่าจิตสำนึกภายในของกวี “ปลูกต้นจิตสำนึกให้ลึกสุด   เริ่มต้นที่จิตมนุษย์ใช่ใครอื่น  เพื่อให้พอต่อหวังอย่างยั่งยืน  ก่อนขมขื่นเกาะกินแผ่นดินใจ  เอาน้ำใจน้ำรินแผ่นดินชุ่ม ความอาทรปกคลุมต้นกล้าใหม่  รานเหยียดหยัดต้นทะยานแผ่   ก้านใบ  แย้มดอกไม้ช่อผลบนลานรัก”  มีอีกหลายบทกลอนที่อ่านแล้วทำให้รู้สึกได้ว่า “โลกเรานั้นมีสีทอง  คืออาทิตย์ฉายส่องจากห้องสวรรค์  ปลุกชีวิตให้ฟื้นตื่นชีวัน  จุดไฟฝันทอประกายสายลมบน” สามารถใช้รสคำรสความได้อย่างเหมาะสมพอสมควร คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ “หัวใจป่า” ผลงานของ พล  พิมพ์โพธิ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด  ประเภทกวีนิพนธ์  ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔  

My Chefs

แม้หนังสือเรื่องนี้จะตั้งประเด็น “อาหาร” เป็นแกนหลัก แต่ผู้เขียนเชื่อมโยงเรื่องราวไปสู่ความรู้อันหลากหลายทั้งประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงความทรงจำวัยเยาว์ที่เคยกินข้าวก้นบาตรพระในฐานะเด็กวัดได้อย่างน่าสนใจ หนังสือเล่มนี้พูดถึงอาหารพื้นบ้านจนกระทั่งอาหารบนภัตตาคารหรู ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามประสบการณ์ตรงของผู้เขียน จึงเกิดการเปรียบเทียบวัฒนธรรมอาหารไทยกับอาหารนานาชาติให้เห็นภาพความลุ่มลึกของอาหารได้อย่างชัดเจน ให้สาระความรู้ ความคิด ความสำนึกต่ออาหาร ลึกลงไปถึงระดับวัฒนธรรมอาหาร วัฒนธรรมการบริโภค ศิลปะการประกอบอาหาร กระบวนการเปลี่ยนแปลงของอาหาร ด้วยลีลาการเรียบเรียง โดยบรรยายด้วยภาษาสละสลวยงดงามราวงานวรรณกรรม คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้  “My Chefs”  ของ “อนุสรณ์ ติปยานนท์”  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำพุทธศักราช ๒๕๖๓