ผลรางวัล

หนังสือแนะนำ

  • Home
  • หนังสือแนะนำ

หนังสือแนะนำ

ไม่มีขาใช่ว่าไม่มีลมหายใจ

ไม่มีขาใช่ว่าไม่มีลมหายใจ เป็นสารคดีที่มีความสละสลวยของภาษาที่ใช้ ดำเนินเรื่องอย่างต่อเนื่องราบรื่น นำเสนอชีวิตของคนที่น่าจะสิ้นหวังแต่ไม่สิ้นหวัง ทั้งยังมีความลุ่มลึกให้กำลังใจแก่ผู้อ่านที่อาจรู้สึกว่าชีวิตด้อยโอกาส โดยมีลีลาภาษาเขียนที่สวยงาม ราบรื่นเพลิดเพลิน และสะเทือนใจ

WHEN I WAS THERE หน้าพระลานไม่นานนี้

When I was there : หน้าพระลานไม่นานนี้ เป็นงานเขียนแนวปกิณกะ เล่าเรื่องด้วยภาพสีน้ำสวยงาม ประกอบคำบรรยาย กล่าวถึงสถานที่ อาคาร ร้านค้า ตลอดจนผู้คนทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยศิลปากร ครอบคลุมบริเวณหน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ ข้ามฟากไปถึงฝั่งวังหลัง  เลือกจุดที่น่าสนใจจากมุมมองที่หลากหลายและจากความทรงจำของผู้เขียนสมัยเป็นนักศึกษามัณฑนศิลป์ ทำให้ผู้อ่านได้รู้จักสถานที่บรรยากาศ และชีวิตของคนบริเวณนั้นในอดีต ในแง่มุมที่น่าสนใจ และชวนติดตาม

เมื่อเกรียนไปเรียนธรรม

เมื่อเกรียนไปเรียนธรรม เป็นงานประพันธ์แนวอัตชีวประวัติ สะท้อนชีวิตที่ผกผันของวัยรุ่น นักศึกษาศิลปะ จาก “เด็กแนว เด็กติสต์ เด็กเกรียน” ผู้มีมุมมอง อุดมการณ์ และความมุ่งหวังจะแสวงหาตัวตนที่แท้จริง มาสู่สมณเพศด้วยการบวช ณ วัดป่าแห่งหนึ่ง เพื่อศึกษาธรรมะสำหรับใช้ดำเนินชีวิตหลังเรียนจบ ทำงาน และสร้างครอบครัว โดยหวังจะกลับมาบวชอีกครั้งหลังผ่านชีวิตแบบฆราวาสแล้ว  แต่เมื่อได้สัมผัสธรรมะและตระหนักถึงความจริงของชีวิตที่มีเวลาจำกัด จึงเปลี่ยนวิถีชีวิตมุ่งสู่ทางธรรมะตราบจนปัจจุบัน หนังสือเรื่องนี้แม้จะมิใช่บันเทิงคดี  แต่ดำเนินเรื่องชวนติดตามแบบการสนทนา เนื้อหามีสาระและแทรกคติธรรมไว้อย่างเหมาะสม  สำนวนภาษาสละสลวย  มีอารมณ์ขัน จึงเหมาะสมและมีคุณค่าสำหรับเยาวชนวัยรุ่นในช่วงวัยที่มีความสับสนในชีวิต  ได้แนวคิดและการปฏิบัติเพื่อรู้จักตนเอง ขจัดความทุกข์และมีความสุขอย่างร่มเย็น  

HOW HAPPINESS WORKS AND WHY WE BEHAVE THE WAY WE DO ความสุขทำงานยังไง

HOW HAPPINESS WORKS AND WHY WE BEHAVE THE WAY WE DO ความสุขทำงานยังไง  เขียนโดยนักวิชาการที่ศึกษา ‘ความสุข’ มาเป็นเวลานาน หนังสือเล่มนี้คือการ ‘ย่อย’ เกร็ดความรู้เรื่องความสุขและพฤติกรรมของมนุษย์ออกมาเป็นตอน ๆ ทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ในมิติใหม่ นำเสนอด้วยความกระชับ ใช้ภาษาง่าย ๆ เพื่อสื่อสารแบบพูดคุยกับผู้อ่านประกอบการคิดวิเคราะห์

ลายสลักอักษรา

ลายสลักอักษรา เป็นสารคดีอัตชีวประวัติที่สะท้อนประวัติศาสตร์สังคม ความเป็นไปของวงการวรรณกรรมไทยในยุคหนึ่ง วิธีนำเสนอใช้สำนวนภาษคล้ายนวนิยาย เปิดเผยวิธีบ่มเพาะการเขียน ปัญหา และแนวทางแก้ไขในการทำงาน ถือเป็นประสบการณ์ตรงของนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ให้อรรถรสในการอ่านที่หลากหลายและเป็นแบบอย่างในการเขียนที่ดี  

ถอดรหัส ภาพผนัง พระจอมเกล้า-ขรัวอินโข่ง

ถอดรหัส ภาพผนัง พระจอมเกล้า-ขรัวอินโข่ง เป็นสารคดีเกี่ยวกับผู้สร้างศิลปกรรมชิ้นสำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนำเสนอด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง มีการค้นคว้าเชิงลึกเพื่อถอดรหัสที่ซ่อนอยู่ในภาพจิตรกรรมทำให้ผู้อ่านเข้าใจประวัติศาสตร์ไทยในสมัยที่ต่อสู้กับนักล่าอาณานิคม ราวรัชกาลที่ 4-5  มีการแทรกภาพอย่างเหมาะสมจนดูราวกับเป็นสารคดีกึ่งภาพกึ่งอักษร

ชายแดนแสนรัก

ชายแดนแสนรัก เล่าถึงชีวิตวัยมัธยมของเด็กชายลูกชาวนาชายแดนไทย-กัมพูชา   อำเภออรัญประเทศ  จังหวัดปราจีนบุรี (จังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน)ที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบาก และหวาดกลัวภัยสงครามภายในประเทศกัมพูชาระหว่างปี พ.ศ.2528–2539  ชาวบ้านต้องวิ่งหนีลงบังเกอร์เพื่อหลบภัยจากกระสุนและระเบิด ผู้คนมีชีวิตอย่างยากลำบาก เด็กชายคนนี้ก็เช่นกัน เขาต้องช่วยงานครอบครัวทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ ซ้ำร้ายพ่อยังป่วย ท่ามกลางอุปสรรคต่าง ๆ เขากลับไม่ย่อท้อมุ่งมั่นในการเรียน จนได้รับทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย ผู้อ่านจะได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศใกล้เคียง ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคนไทยชายแดน จากผู้มีประสบการณ์ตรง

มนุษย์กรุงเทพ

มนุษย์กรุงเทพฯ มีวิธีนำเสนอที่แปลกใหม่ ได้แรงบันดาลใจจากเพจดังของต่างประเทศเป็นบทสัมภาษณ์ผู้คนของกรุงเทพฯ ในหลากแง่มุม สะท้อนความทุกข์ ความสุข และให้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ แก่ผู้อ่าน

พะเลอโดะ แห่งป่าแม่เงา

พะเลอโดะแห่งป่าแม่เงา ให้แง่คิดในด้านการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย กลมกลืนสอดคล้อง กับธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มานะอดทน มั่นคงในจิตใจ ไม่เอนไปตามกระแสแห่งความโลภ ด้วยภาษาสละสลวยกระชับ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนลึกซิ้งและมีอารมณ์ร่วม

ตาสว่างกับรัชกาลที่ 4

ตาสว่างกับรัชกาลที่๔ เป็นสารคดีเชิงวิเคราะห์พระราโชบายในรัชกาลที่ C แสดงให้เห็น ถึงพระปรีชาสามารถในการรักษาเอกราชของชาติจากหลากแง่มุม ทั้งการเมืองการปกครองและวิทยาศาสตร์ ผ่านการนำเสนออย่างมีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์

ความสุข ความทรงจำ ในรัชกาลที่ 9

ความสุข ความทรงจำ ในรัชกาลที่ นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงทุ่มเทพระราชหฤทัย ทรงงานเพื่ออาณาประชาราษฎร์ นำเสนอ ด้วยภาษาสำนวนเรียบง่ายแต่งดงาม

HOMO FINISHERS สายพันธุ์เข้าเส้นชัย

เล่าประสบการณ์การออกวิ่งของผู้เขียน ที่ค่อย ๆ ผ่านการฝึกปรือฝีเท้าไปพร้อมกับวันวัยที่ล่วงผ่าน ผู้เขียนถ่ายทอดทั้งแรงบันดาลใจ การเรียนรู้จากผู้มาก่อน และเทคนิคในการฝึกฝนต่าง ๆ โดยใช้ภาษาที่สละสลวย งดงาม เต็มไปด้วยรายละเอียดในการวิ่งแต่ละครั้ง การวิ่งในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นเพียงการออกกำลังกาย แต่ยกระดับกิจกรรมนี้สู่การค้นหาความหมายของชีวิต และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่าน ไม่ใช่เพียงเพื่อวิ่ง แต่เพื่อให้เกิดความ ‘แข็งแรง’ ทั้งทางกายและใจด้วย  

140 ปี “การ์ตูน” เมืองไทย

การ์ตูนเป็นสื่อที่มักถูกมองข้าม เพราะสังคมไทยมักเห็นว่าการ์ตูนเป็นสื่อสำหรับอ่านเล่น จึงไม่มีการบันทึกประวัติความเป็นมา ทั้ง ๆ ที่การ์ตูนเป็นหนังสือเล่มแรก ๆ ในชีวิตของเด็ก ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้รักการอ่าน การ์ตูนจึงสำคัญต่อการสร้างสรรค์สังคมมาตั้งแต่ต้น สิ่งที่อยู่ในการ์ตูนไม่ได้มีเพียงลายเส้น แต่รวมถึงคติและค่านิยมต่าง ๆ ด้วย การศึกษาประวัติศาสตร์ของการ์ตูนในสังคมหนึ่ง ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ หนังสือเล่มนี้ให้ความรู้ ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับชีวิต สังคม และการเมือง ผ่านพัฒนาการของตัวการ์ตูนไทย โดยมีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ ใช้ภาษาที่อ่านง่าย มีเสน่ห์ และเพลิดเพลิน

ผ้าบาติก มรดกแห่งการเสด็จเยือนชวา

ผ้าบาติก มรดกแห่งการเสด็จเยือนชวา เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเสด็จฯ ประพาสชวา 3 ครั้ง ของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงนำสิ่งที่พบเห็นมาพัฒนาบ้านเมืองด้านต่าง ๆ หลายด้าน เช่น การชลประทาน  การคมนาคม  การจัดและการดูแลสวน  ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในอุตสาหกรรมพื้นบ้านโดยเฉพาะการจัดทำผ้าบาติก ผู้จัดทำนำเสนอเนื้อหาผ่านเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่บรรพบุรุษเป็นเจ้าของโรงงานผ้าบาติกในชวา ซึ่งได้ตามเสด็จรับใช้เบื้องพระยุคลบาท และได้เข้ามาทำงานในสยามประเทศ  สมาชิกในครอบครัวรุ่นหลานได้รับรู้บันทึกของคุณทวดจากการบอกเล่าของคุณตา และเรียนรู้วิธีการเขียนผ้าจากคุณป้า การเสนอข้อมูลโดยการเล่าเรื่อง และการสอนให้ปฏิบัติจริง ทำให้ชวนติดตาม มีภาพประกอบทั้งภาพวาดและภาพถ่าย มีภาคภาษาอังกฤษในเล่มเดียวกัน

น้ำตาแม่มด

เรื่องราวของน้ำตาแม่มดเกิดขึ้นในจังหวัดเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ตำนานที่เล่าสืบต่อกันถึงน้ำตาแม่มด ทำให้เอสและมินต์ได้พบกับความจริงบางอย่างของคุณนายวัลย์ซึ่งเป็นคุณป้าของมารีญ่าเพื่อนเก่าสมัยประถม           ของเอส วรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้เป็นเสมือนสะพานเชื่อมความเข้าใจระหว่างเยาวชนกับผู้สูงอายุ ซึ่งมีวิธีคิดอันเนื่องมาจากประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน   ทำให้เยาวชนได้ตระหนักและเรียนรู้เพื่อที่จะยอมรับการเผชิญหน้ากับความตายอย่างสงบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก ความตายก็ทำให้เรารู้จักชีวิตและใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า

เด็กชายต้นไม้

เด็กชายต้นไม้ เป็นบันเทิงคดีแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ   เป็นเรื่องราวของเด็กประถมปลายที่ผูกพันกับต้นไม้หลากหลายชนิด มีตัวละครหลักที่มาจากโลกอนาคตที่มีความสามารถพิเศษสื่อสารกับต้นไม้ได้ เนื้อหาเน้นความสำคัญของต้นไม้ที่มีชีวิตและความรู้สึก  ชี้ให้เห็นว่าการตัดต้นไม้ทำลายป่าทำให้เกิดภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น  เมืองใหญ่ ๆ ตามแนวชายฝั่งจะต้องจมน้ำ นอกจากนั้นยังให้ความรู้เกี่ยวกับการขยายพันธุ์ต้นไม้ และการเก็บรักษาพันธุ์ไม้ โดยเฉพาะการเพาะเนื้อเยื่อ เด็กชายต้นไม้ จึงเป็นหนังสือที่ให้ความรู้ผ่านบทบาทของตัวละครได้อย่างเหมาะสม และเป็น ประโยชน์ต่อเยาวชนอีกเล่มหนึ่ง  

ก้าวเล็ก ๆ ของเด็กชายตูน

หนังสือเรื่อง ก้าวเล็ก ๆ ของเด็กชายตูน เป็นเรื่องราวชีวิตของ ‘พี่ตูน บอดี้สแลม‘  ผู้ชายที่ประกาศตัวเป็นคนธรรมดาแต่อาสาชวนผู้คนมา “ก้าวไปด้วยกัน” เพื่อเพื่อนมนุษย์  เด็กชายตูนมีพ่อแม่ส่งเสริมให้ทำทุกอย่างที่สนใจมาตั้งแต่เด็ก และเขาก็ตั้งใจทำจนสำเร็จเสมอมา ทั้งด้านการเรียน ดนตรี  และกีฬา ในช่วงเวลาที่ธุรกิจที่บ้านมีปัญหา พี่ตูนทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ ส่งของ และเป็นนักร้อง นักดนตรีตามร้านอาหารเพื่อหารายได้ช่วยครอบครัว  ทุกเหตุการณ์ในชีวิตหล่อหลอม และเป็นแรงบันดาลใจให้พี่ตูนเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเสียสละโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ก้าวเล็ก ๆ ของเด็กชายตูน สามารถสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนให้เห็นว่าคนธรรมดาก็มีความฝันอันยิ่งใหญ่ได้ เพียงตั้งใจจริงและมุ่งมั่นก็สามารถไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้  ทั้งยังสะท้อนถึงความเสียสละโดย        ไม่หวังสิ่งตอบแทน สำหรับผู้ใหญ่จะเห็นถึงการเลี้ยงดูที่สามารถหล่อหลอมให้เด็กเติบใหญ่ และเป็น “ผู้ให้” เช่นพี่ตูน  

แม่งูไม่เคยห่างหายจากหมู่บ้าน

แม่งูไม่เคยห่างหายจากหมู่บ้าน เป็นรวมบทกวีจำนวน 47 สำนวน ส่วนใหญ่ใช้คำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพ เนื้อหาแบ่งเป็น 2 ภาค คือภาคแรก ฟ้าตอนนี้ ฟาฏอนี และภาคที่สอง ปราการปรากฏ กวีนำเสนอวิถีชีวิตของชาวไทยมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับความรุนแรง เสียงระเบิดและความตาย ด้วยการเล่าเรื่องราวของผู้คนหลากหลายชีวิตที่ต้องอยู่ในสภาวะหวั่นหวาด                เคลือบแคลง อคติ ทั้งที่ชาวบ้านปรารถนาชีวิตที่สันติสุข  แม้เรื่องราวที่นำเสนอจะเป็นวาทกรรมความรุนแรงที่เคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว  กวีใช้น้ำเสียงแสดงความคลุมเครือ ใช้สัญลักษณ์ ความเปรียบที่เผยให้เห็นการวิพากษ์และการตอบโต้การกดทับทั้งวาทกรรมภาครัฐ  ความเชื่อ ระบบอาวุโสและอคติซึ่งเปรียบเสมือนดวงตาของแม่งูที่เฝ้าจ้องมองและควบคุมความเป็นไปของลูกงูในหมู่บ้าน

ในรังนอนของหนอนตัวหนึ่ง

ในรังนอนของหนอนตัวหนึ่ง ประกอบด้วยเนื้อหาสาระอันเป็นเรื่องราวความทรงจำในวัยเด็ก เปรียบได้กับการเดินทาง แล้วพบพานสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว   การเคลื่อนไหวของหลายชีวิตนำประสบการณ์ที่พบผ่านมาบันทึกเป็นบทกวี  เสมือนเป็นสมุดเล่มใหญ่  ฉันทลักษณ์ที่ใช้เป็นกลอนแปดตลอดทั้งเรื่อง แบ่งเป็น 5 หมวดหมู่ ได้แก่ สวนดอกไม้ในดวงตา ภาพชีวิต เราก็ต่างตกเป็นผู้ต้องหา สิ่งมีชีวิตในโรงงาน ในรังนอนของหนอนตัวหนึ่ง และบทส่งท้าย ลีลาโดดเด่นในบางบท เช่น กล่อมดาว จงผลิบาน โดยไร้ใครบังคับ  เพลงบ้านนา  เป็นต้น

นิราศนรกานต์และเรื่องอื่น ๆ

นิราศนรกานต์และเรื่องอื่น ๆ เป็นรวมบทกวี   ที่นำตำนานรักแม่นาคพระโขนงมาเล่าในรูปแบบนิราศด้วยมุมมองใหม่ มีความร่วมสมัย ใช้เส้นทางโดยสารรถไฟฟ้าจากสถานีแพรกษา ในจังหวัดสมุทรปราการ มายังสถานีพระโขนงซึ่งเป็นต้นเรื่องของตำนาน ในชื่อ “นิราศพระโขนง” กับการล่องเรือตามขนบนิราศโบราณผ่านเส้นทางปัจจุบัน เพื่อย้อนรำลึกถึงอดีตความรักข้ามภพภูมิใน “นิราศนรกานต์” ด้วยชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ที่ชวนอ่านชวนติดตาม เนื้อหาในเล่มนอกจากนิราศขนาดสั้น 2 เรื่องหลักดังกล่าวแล้ว            ยังประกอบไปด้วยบทกวีสั้น ๆ อีก 6 สำนวน

กลางทะเลขี้ผึ้ง

กลางทะเลขี้ผึ้ง ของ ธาร ธรรมโฆษณ์ เป็นกวีนิพนธ์ที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตในวัยเยาว์     มีกลิ่นอายของท้องถิ่น คติชนวิทยา ผนวกเข้ากับปรัชญาทางพระพุทธศาสนาที่ผู้เขียนเคยใช้ชีวิต                        ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ โดยใช้ฉันทลักษณ์กลอนสุภาพ โคลง และเพลงกล่อมเด็กภาคใต้ เป็นเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์  สอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นไปของสภาพสังคม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ โดยผู้เขียนมีความเพียรพยายามเน้นให้เข้าถึงสัจธรรม แม้ชีวิตจะเหมือนการเดินทางกลางทะเลขี้ผึ้ง ให้มีพลังแหวกว่ายไปถึงแก่นแห่งหลักธรรม