ผลรางวัล

หนังสือแนะนำ

  • Home
  • หนังสือแนะนำ

หนังสือแนะนำ

ดวงใจยังส่องฝัน

ใช้ภาษาสละสลวย มีจินตภาพ อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสเก็บรายละเอียดทางด้านอารมณ์ได้ดี ให้ความรู้สึกของตัวละครโดยเฉพาะแง่มุมเกี่ยวกับความรัก

จักรวาลอนันต์ การเดินทางไม่สิ้นสุด

ภาษาราบรื่นชวนอ่าน ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องแนววิทยาศาสตร์ แต่ละตอนมีเอกลักษณ์และไม่ซ้ำแนวกัน

กระตั้วแทงเสือ

บางเรื่องในกระตั้วแทงเสือเปรียบเทียบได้ดี สะท้อนสภาพชีวิตของคนในเมืองใหญ่เช่น ภาพชีวิตบนรถโดยสารประจำทาง จากการมองคนขับรถเมล์ร่วมฯ ด้วยความรังเกียวเปลี่ยนเป็นเข้าใจมากยิ่งขึ้น หรือการสะท้อนให้เห็นภาพของคนทำงานในเมืองใหญ่อาชีพพนักงานบริษัท เป็นต้น

สัปดาห์สุดท้าย

“สัปดห์สุดท้าย” เป็นนวนิยายที่นำเสนอเรื่องเศรษฐศาสตร์ได้อย่างน่สนใจ ผู้แต่งสามารถเขียนเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย การใช้ภาษาตี ใช้เทคนิคดี อ่านแล้วเกิดอารมณ์สะเทือนใจ ไม่น่าเบื่อ

ในวารวัน

“ในวารวัน” เป็นนวนิยายเกี่ยวกับการต่อสู้ชีวิตของตัวละครเอก ซึ่งผ่านความยากลำบากในชีวิตมาทุกรูปแบบ แต่สามารถผ่านวิกฤติทั้งมวลมาด้วยความใฝ่ดี สะท้อนแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสภาพสังคมชนบทสมัยรัชกาลที่ 2 ถึงรัชกาลที่ ๗ สอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับธรรมะ และแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม

อาม่าที่รัก

เรื่องความสัมพันธ์ของหญิงสูงอายุผู้มีเมตตาต่อเด็กและผู้อื่น ซึ่งไม่ใช่ญาติพี่น้องให้คติเรื่องความขยันขันแข็ง ทำมาหากิน สู้ชีวิต ผู้อ่านเยาวชนได้เรียนรู้ศีลธรรมชั้นพื้นฐานความดี ความซื่อสัตย์ การบริโภคอย่างพอเพียง การเคารพอาวุโส เป็นต้น

อยากให้ลมหนาวหวนมาอีกครั้ง

เรื่องสนุกๆ ของชีวิตนักศึกษา บรรยายเรื่องดี ใช้เทคนิคเหมือนภาพวาด ภาษาสละสลวย หลากรสอารมณ์ หมาะแก่ผู้อ่านวัยรุ่น

สีเทาเจ้าตัวจิ๋ว

เนื้อเรื่องสร้างสรรค์ จินตนาการน่ารักเกี่ยวกับสัตว์ อ่านแล้วมีความสุข ภาพประกอบดีรูปเล่มสวยงาม เหมาะสำหรับเด็กเล็ก

สิมิลัน กราภูงา ตอน ส่งครามมหาเวท

เนื้อหาชับซ้อน ซ่อนข้อมูลมากมายไว้อย่างดี เสนอภาพของโลกในอดีตกับโลกอนาคตสลับกันไปมา ตัวละครมีสีสันชวนติดตาม มีการต่อสู้อย่างโลดโผน เหมาะสำหรับเยาวชนเพศชายหรือ นักอ่านที่ชอบเรื่องตื่นเต้น

ส้มโอ น้าหมู หนูแมว

ผู้เขียนนำเรื่องชีวิตประจำวันในครอบครัวซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวมาเขียนได้ดี ให้ภาพชีวิตที่อบอุ่นน่ารัก แสดงความผูกพันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์และมนุษย์กับสัตว์ ภาษาดี เป็นธรรมชาติ เหมาะแก่ผู้อ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่

บีตั๊ก : ดวงดาวนั้นระหว่างน้ำกับฟ้า

เรื่องราวของครอบครัวคนชายชอบที่อบอุ่นเป็นธรรมชาติ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมได้น่าสนใจ เยาวชนผู้อ่านจะรู้จักสังคมต่างวัฒนธรรม เข้าใจและเห็นใจผู้อื่น

เด็กชายชาวนา

เรื่องราวชีวิตวัฒนธรรมของสังคมชนบทไทยในอดีต ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วแต่อย่างน้อยผู้อ่านที่เป็นยาวชนก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่อบอุ่นเป็นมิตร เรียบง่ายและมีสันติสุข

ความลับของเด็กเกเร

เรื่องเด็กกับโรงเรียน มีปริศนาให้หาคำตอบ ชวนให้ติดตามอ่าน สร้างตัวละครได้น่ารักสมวัย ภาษาและภาพประกอบเหมาะกับเรื่อง

เดินตามรอย

“เดินตามรอย”ของวันเนาว์ ยูเด็น คือผลงานที่นำเอา ‘โคลงโลกนิติ’ วรรณกรรมเก่าลายคราม ฉบับพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร มาเป็นแรงบันดาลใจ โดยผู้เขียนได้คัดเลือกโคลงจำนวน ๘๐ บท ที่มีเนื้อหาต่างกันมาเกริ่นนำ แล้วร้อยเรียงเสียใหม่ในรูปแบบ ‘กลอนสุภาพ’ เพื่ออธิบายขยายความวรรณกรรมคำสอนอันทรงคุณค่านั้น รวม ๘๐ สำนวน การนำของเก่ามาเล่มใหม่โดยผูกโยงสังคมปัจจุบันด้วยฝีมือนักกลอนชั้นครู นอกจากทำให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้ว ผู้อ่านยังได้รับความรื่นรมย์พร้อมๆ กันไปด้วย

ภูผา ป่าไม้ และสายน้ำ

เป็นสารคดีที่สอดแทรกสาระและความรู้ได้ตามสมควร ให้แง่คิดในเชิงอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม ใช้ภาษาเรียบง่ายแสดงให้เห็นประสบการณ์ในการเขียนหนังสือได้ดี

ฉันท่องไปตามทางที่จันทร์ส่อง

ใช้ภาษาเรียบง่าย กระชับ แต่แฝงด้วยจินตนาการผสานกับข้อมูลความรู้ อันทำให้ผู้อ่านสนุกสนานเพลิดเพลิน ได้อรรถรสจากการเรียนรู้สภาพสังคม วัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์แดนอาทิตย์อุทัยไปพร้อม ๆ กัน

จะไปให้ไกลถึงไหนกัน

ความเรียงและเรื่องราวว่าด้วยการเดินทางไปยังเทือกเขาเอเวอเรสต์ พรมแดนตุรกี โรม จอร์แดน รัฐอัสสัม เว้ ฯลฯ ข้อเขียนไม่ได้เน้นที่รายละเอียดหรือบรรยากาศแปลกตาในดินแดนไกลโพ้น หากสิ่งกระทบใจจากผู้คน บ้านเมือง สถานที่ที่ได้เห็นระหว่างการเดินทางของผู้เขียนต่างหาก คือเนื้อหาสำคัญที่ทำให้ จะไปให้ไกลถึงไหนกัน แตกต่างจากหนังสือเดินทางท่องเที่ยวเล่มอื่น ผู้เขียนเป็นนักวิชาการรุ่นใหม่ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางทั่วโลกเมื่อครั้งทำงานเป็นนักเขียนบทสารคดีโทรทัศน์เมื่อหลายปีก่อน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นมุมมองของคนทำสารคดีอาชีพอันน่าสนใจ และยังทิ้งคำถามไว้ให้ผู้รักท่องเที่ยวผจญภัยได้ค้นหาความหมายของ “การเดินทาง” ร่วมกันด้วย หากเราเชื่อว่า การอ่านคือการเดินทางในโลกกว่างอย่างไร้ขีดจำกัด จะไปให้ไกลถึงไหนกัน เป็นตัวอย่างของการเดินทางในโลกกว้างอย่างแท้จริง

ขับรถเที่ยวอิตาลี 8 เมืองมรดกโลก

อิตาลี ดินแดนแห่งวัฒนธรรมความเจริญรุ่งเรือง ศูนญ์กลางของจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความยาวนานทางประวัติศาสตร์ที่ฝังรอยลึกไว้ในเมืองใหญ่น้อยของอาณาจักรโรม มิลาน เวนิส และฟลอเรนซ์ ยังยืนยงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ผู้เขียนเป็นคนชอบลุยซอกแซกท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยตนเอง แต่ยังมีพรสวรรค์ในการเก็บรายละเอียดของสถานที่และสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านพบ ผู้เขียนยังมีสไตล์การเขียนหนังสือชวนอ่านแสบ ๆ คัน ๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เขียน และเนื้อหาในเล่มก็ไม่เบาหวิวหรืออัดแน่นไปด้วยข้อมูลจนล้นเกินไป ขับรถเที่ยวอิตาลี 8 เมืองมรดกโลกจึงเป็นตัวอย่างของหนังสือคู่มือการไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเองที่น่าสนใจเล่มหนึ่ง สำหรับผู้รักการเดินทางชอบประวัติศาสตร์ ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมและเชื่อว่าการเดินทางคือการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การไปถึงเท่านั้น ขับรถเที่ยวอิตาลี 8 เมืองมรดกโลก เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ควรค่าต่อการนำติดตัวไปด้วย

“หัวหมอน” โลมาพเนจร

ผู้แต่งเป็นนักต่อสู้เพื่อสัตวชน มีความรู้เรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอยู่ในพื้นที่ เนื้อหาของหนังสือให้ความรู้เยาวชนได้ดี โครงเรื่องดี นำเสนอดี นำเรื่องจริงมาเสนอได้ไม่น่าเบื่อ ได้ข้อคิด องค์ประกอบดี สำนวนภาษาดี เนื้อเรื่องดี น่ารัก รูปเล่มภาพประกอบดี นำเนื้อหาที่เด็กสนใจ ให้เด็กเขียนภาพประกอบ ภาพประกอบน่ารัก เป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่ง อ่านสบาย ๆ ให้ข้อคิดเป็นหนังสือที่เขียนได้น่ารัก บรรยายเกร็ดความรู้ อ่านสนุก ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ชีวิตของโลมา

ป้าจ๋า โก้ ติ๊ดตี่ น่ะจ้ะ

เป็นเรื่องในครอบครัวของเด็กกรุงเทพฯ และชนบทที่น่ารัก มีการเขียนจดหมายโต้ตอบ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีน้อยก็ตาม ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต แม้จะเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ผู้เขียนใช้ภาษาง่าย ๆ  เขียนได้มีเสน่ห์ ชวนให้ติดตาม สำนวนภาษาดี อ่านสบาย ๆ

ต้นกล้า

เสนอเรื่องร่วมสมัย เหมาะสำหรับวัยรุ่นอ่าน ใช้ภาษาง่าย ๆ ฉากในโรงพยาบาลสมจริง เนื้อหามีคติสอนใจ ให้ข้อคิด ภาษาดี สะท้อนความคิด และคุณธรรม เป็นเรื่องที่ช่วยให้ผู้ป่วยเอดส์มีความทัดเทียมในสังคม แต่เนื้อหาบางส่วนยังเกินจริง การแก้ปัญหาในเรื่องง่ายเกินไป  ทำให้ไม่สนุกเท่าที่ควร

เซรีญา เล่ม 1-3

ผู้เขียนวางโครงเรื่องน่าติดตาม ทั้ง 3 ตอน ใช้ภาษาบรรยายชัดเจน อ่านเข้าใจง่าย ผู้เขียนมีเทคนิคในการเขียนให้ผู้อ่านติดตามเรื่อง ทิ้งปมไว้ ผู้เขียนแทรกปรัชญา คติธรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ นำตำนานต่าง ๆ ผูกเข้าเป็นเรื่อง อ่านได้อรรถรสมีคุณค่าเหมาสมให้นักเรียนอ่าน เนื้อหาซับซ้อน แฝงปรัชญา มีข้อคิดมากมาย นอกเหนือจากการอ่านเพื่อความสนุก

จูเลียตสีเงิน

เนื้อเรื่องมีครบทุกรส บู๊ โศก เศร้า เหงา รัก โครงเรื่องสนุกตื่นเต้น ผู้เขียนบรรยายได้ดี เห็นภาพพจน์ การกระทำของตัวละครมีเหตุผล ฉากจบ บรรยายได้ดี มีเหตุผล ซาบซึ้ง ประทับใจ เนื้อหาให้ข้อคิดแก่ผู้อ่าน ข้อด้อยคือ ใช้ฉากต่างประเทศ แทรกวัฒนธรรมต่างประเทศ แต่สำนวนไทย ตัวละครเป็นไทย แต่ชื่อต่างประเทศ ฉากกับตัวละครขัดกัน แม้จะบรรยายฉากได้ดีก็ตาม ถ้าปรับมาใช้ฉากในไทยจะดีมาก

วรรณกรรมตกสระ

วรรณกรรมตกสระ ของ ภาณุ ตรัยเวช เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเนื้อหาและแนวคิดที่นำสมัย มีวิธีการนำเสนอที่หลากหลายและแปลกใหม่น่าสนใจ

กุหลาบในสวนเล็กๆ

ชมัยภร แสงกระจ่าง เขียนนวนิยายเรื่องนี้จากประวัติชีวิตและผลงานเขียนของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ “ศรีบูรพา”  นักคิดนักเขียนที่ได้รับยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลดีเด่น และรวมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส 100 ปีชาติกาลในปี 2548 ที่ผ่านมา ผลงานต่าง ๆ ของศรีบูรพาทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย บทความ งานแปล และอื่น ๆ ล้วนแสดงให้เห็นว่า “อุดมการณ์” และ “คุณธรรมจริยธรรม” มีความหมาย ความสำคัญต่อการสร้างสังคมที่แสนงาม เพราะอุดมการณ์และคุณธรรมจริยธรรมเป็นสิ่งบ่งชี้ความเจริญทางจิตใจ จิตวิญญาณ และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ซึ่งความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุและเทคโนดลยีไม่อาจเทียบได้ ความเป็นกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ “ศรีบูรพา” คือความกล้าท้าทายอำนาจอันไม่เป็นธรรม ทำให้ผลงานของ “ศรีบูรพา” ยิ่งใหญ่และไม่ล้าสมัย แต่เพราะเหตุที่สังคมไทยมีวัฒนธรรมการอ่านอ่อนแอลงไปทุกที คนรุ่นใหม่จึงไม่ได้เรียนรู้เรื่องราวของบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมไทย และไม่ได้รับรู้คุณค่าของหนังสือดี ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ชมัยภร แสงกระจ่าง จึงทำหน้าที่เชื่อมต่อช่องว่างนี้ โดยนำประวัติและงานเขียนของ “ศรีบูรพา” มาร้อยเรียงเข้ากรับเรื่องราวของสังคมสมัยใหม่ เพื่อเป็นการสานต่ออุดมการณ์ความคิดของ “ศรีบูรพา” และแนะนำให้นักอ่านรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของผลงานเขียนของนักคิดแห่งสังคมไทย ข้อจำกัดของการที่ต้องนำข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับบุคคลและผลงานมาสร้าง ทำให้นวนิยายเรื่องกุหลาบในสวนเล็ก ๆ มีข้อมบกพร่องทางวรรณศิลป์อยู่บ้าง แต่กระนั้นความตั้งใจอของผู้เขียนที่จะเชื่อมโยงความคิดของคนรุ่นเก่ามาสู่คนรุ่นใหม่ ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ นวนิยายเรื่องกุหลาบในสวนเล็ก ทั้งชี้นำและทั้งเชิญชวนให้นักอ่านอยากรู้จัก “ศรีบูรพา” และผลงานประพันธ์ของเขาให้มากขึ้นกว่าที่ได้อ่านจากหนังสือเล่มนี้ นี่คือความสำเร็จของนวนิยายเรื่องกุหลาบในสวนเล็ก ๆ โดยแท้ ดังนั้น กุหลาบในสวนเล็ก ๆ ของชมัยภร แสงกระจ่าง จึงสมควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นหนังสือควรอ่านสำหรับนักเรียนและนักอ่านทั่วไป

เอมอุทัยอิ่มฟ้า

แม้จะเป็นกวีหน้าใหม่ แต่นำเสนองานได้หลากหลาย ฉันทลักษณ์ถูกต้อง ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ครบเครื่องเรื่องเสียดสี ชิ้นเชิงมีเสน่ห์

ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ

ผู้ประพันธ์เป็นมือกลอนเก่า ลีลาการเขียนดี ลงตัว

อัลฟ่า โอเมก้า ไล่ล่าหาความตาย

อัลฟ่า โอเมก้า ไล่ล่าหาความตายเป็นเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ ซึ่งเสนอคำตอบที่มนุษย์เคยตั้งคำถามและพยายามดิ้นรนค้นคว้ามานานแสนนานว่าทำไมมนุษย์จึงตาย และจะทำอย่างไรมนุษย์จึงเอาชนะความตายจนมีชีวิตที่เป็นอมตะได้ นี่คือความฝันและความจริงที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้ โดยมนุษย์พยายามแสงหากรรมวิธีต่าง ๆ เช่น การทำธนาคารอสุจิ การแช่แข็งศพ การสร้างสเต็มเซลล์ การโคลนนิ่ง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายที่จะเอาชนะความตาย เพื่อความเป็นอมตะ ในความเป็นจริง มนุษย์ไม่อาจฝืนธรรมชาติได้ แม้เนื้อหาของเรื่องสั้นชุดนี้จะเป็นแนววิทยาศาสตร์ แต่ถ้าพิจารณาสาระที่ผู้แต่งสื่อออกมาก็จะสามารถตีความในเชิงพุทธปรัชญาได้ ว่าความตายของมนุษย์ คือการหลุดพ้นจากทุกสิ่ง และเป็นการบรรลุสูงสุดนั่นเอง

เราหลงลืมอะไรบางอย่าง

เราหลงลืมอะไรบางอย่างเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ที่สะท้อนและวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตผู้คนในสังคมไทยปัจจุบันที่กำลัง “หลงลืมอะไรบางอย่าง” อันเป็นแก่นสารของชีวิต ทั้งในระดับบุคคล เช่น นักศึกษาที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักปฏิวัติ แต่กลับแพ้ตนเองในเรื่องนักปฏิวัติในระดับชุมชน เช่น นักการเมืองท้องถิ่นที่ไร้อุดมการณ์ในเรื่องราวแสงแห่งศรัทธา และในระดับสังคม เช่น อดีตผู้นำวีรชนผู้มีวิถีชีวิตแปลกแยกจากครอบครัวและสังคมในเรื่องฟ้าเดียวกัน ผู้แต่งให้แง่คิดแก่ผู้อ่านว่า วิถีชีวิตแบบใหม่ตามกระแสสังคมโลกที่กำลังรุกล้ำเข้ามาทำให้ค่านิยมที่ดีงามของวิถีชีวิตดั้งเดิมสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย และทิ้งท้ายให้ใคร่ครวญว่าทำอย่างไรวิถีชีวิตทั้งสองแบบจึงจะพัฒนาได้อย่างสันติและกลมกลืน หนังสือรวมเรื่องสั้นชุดนี้เป็นงานเขียนที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อจรรโลงชีวิตและสังคมไทยร่วมสมัยอย่างมีวรรณศิลป์

ห้าวันที่ฉันตื่น

เป็นเรื่องเล่าถึงประสบการณ์ของผู้เขียนที่มีโอกาสเข้าร่วมงานภาวนากับพระภิกษุ ติช นัท ฮันห์ และคณะอีก 80 รูป จากหมู่บ้านพลัม  ประเทศฝรั่งเศสที่เดินทางมาเผยแพร่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 5 วัน เป็นการนำการเจริญสติมาฝึกปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ทำให้เข้าถึงธรรมด้วยความตื่นตา ตื่นเต้น และตื่นรู้ จากการที่พระธรรมแห่งเถรวาทพบกับพระธรรมแห่งมหายาน ในที่สุดผู้ปฏิบัติได้สัมผัสร่วมกันถึงความสุขเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผู้เขียนนำเสนอภูมิปัญญาในการแสวงหาความสุข โดยไม่เบียดเบียนผู้อื่นตามหลักธรรมทางพุทธศาสนา ผ่านคำสอนของท่านติช นัท ฮันห์ เนื้อหามีประโยชน์ จุดประกายความคิดเชิงสร้างสรรค์แต่เนื่องจากมีสัดส่วนของการเป็นข้อเขียนเชิงบันทึกความทรงจำ  จึงมีความโดดเด่นด้อยกว่าสารคดีภูมิปัญญาโดยตรง