กรองและค้นหา

เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 7

เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 7

365 ํ (ของขวัญ…ถึงวันพรุ่งนี้)

การ์ตูนเรื่อง “365 ํ (ของขวัญ…ถึงวันพรุ่งนี้)” เป็นการ์ตูนจินตนาการแนวชีววิทยาศาสตร์บอกเรื่องราวของโลกกว่าพันปีมาแล้ว ที่เด็กทุกคนที่ถูกปลุกขึ้นมาโดยออกมาจากไข่ จะถูกฝังไมโครชิพไว้ในสมองและจะได้รับแจกปฏิทินไว้นับถอยหลังชีวิตตน ซึ่งแต่ละคนจะได้รับคนละ 365 แผ่นเท่า ๆ กัน แต่ “เด็กสาว” ที่เป็นตัวเอกกลับได้ปฏิทินถึง 600 แผ่น ต่อมาปฎิทินของ “เด็กสาว” ถูกขโมย แต่มีเด็กหนุ่มมาช่วยเอาคืนมาได้ แต่ในขณะเดียวกันปฏิทินของเด็กหนุ่มก็ถูกขโมยจนเหลือนิดเดียว เด็กสาวจะแบ่งให้แต่เด็กหนุ่มกลับปฏิเสธ จนเด็กสาวแปลกใจ เด็กสาวได้ประสบพบเห็นอาชญากรรมปล้นปฏิทินจากหญิงชรา ทำให้หญิงชราต้องร้องขอจากเด็กสาว     แต่ก็ไม่ทันหญิงชราเสียชีวิตไปก่อน เพื่อนของเด็กสาวชื่อเตมิกาเสียชีวิตเนื่องจากปฏิทินหมด เพราะเธอต้องเอาปฏิทินไปขายในตลาดมืดเพื่อเลี้ยงดูน้อง ๆ 5 คน เนื่องจากแม่ทิ้งพวกเธอไป เด็กสาวสงสัยที่ว่าสังคมเท่าเทียมกันแต่ทำไมยังเกิดโศกนาฏกรรมมากมาย เด็กสาวไม่เข้าใจทำไมต้องมีการแก่งแย่งและเกิดความเจ็บปวด เมื่อเด็กสาวกลับบ้านพบว่าแม่ป่วยหนัก เมื่อพาไปโรงพยาบาลหมอบอกว่าแม่เธอเหลือปฏิทินเพียงแผ่นเดียว  เด็กสาวไม่เข้าใจทำไมปฏิทินของเธอมีมากกว่าใคร ๆ แต่ทำไมแม่ของเธอกลับมีน้อยเหลือเกิน เธอจะทำอย่างไร แล้วในที่สุดเธอก็ตัดสินใจแบ่งปฏิทินของเธอให้แม่ และเธอก็รู้ความจริงจากคุณหมอว่า ตอนที่เด็กหญิงเกิด สุขภาพเธอไม่ค่อยแข็งแรง แม่กลัวจะเสียเธอไป จึงมอบปฏิทินของตัวเองกว่าครึ่งให้เธอ เด็กหญิงซึ่งตอนนี้มีปฏิทินเท่า ๆ กับเพื่อน ๆ แม้จะมีอายุที่สั้นลงแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำเพื่อผู้อื่น   เธอตระหนักว่าไม่มีความสุขไหน…จะสุขยิ่งกว่าการเฝ้ามองชีวิตตัวเอง แฝงอยู่ในความสุขของคนอื่นอีกแล้ว เนื้อหาประทับใจ ชวนซาบซึ้ง แต่รูปแบบการ์ตูนด้อยไปนิดหนึ่ง คณะกรรมการจึงพิจารณาให้หนังสือการ์ตูนเรื่อง “365 ํ  (ของขวัญ…ถึงวันพรุ่งนี้)”  ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2

อะฮ๊อย

หนังสือการ์ตูนเรื่อง “อะฮ๊อย”  เป็นหนังสือที่จัดทำภายใต้โครงการ สื่อสร้างสรรค์สำหรับเยาวชนของ สสส. จากฝีมือการวาดและประพันธ์โดยวงศกร จิรากูลสวัสดิ์ และ อรอุมา ปานมุนี เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ชื่อ  “แป๋ง”  ซึ่งเคยเป็นเด็กที่มีรูปร่างอ้วน เพราะมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเวลานอนก็กรนดังอีกด้วย จนวันหนึ่ง แป๋งได้พบกับสาวน้อยชื่อ อ้อมใจ อย่างปาฏิหาริย์ เพราะอุบัติเหตุ และเกิดเขม่นกับ บัวลอย ซึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของอ้อมใจ และคอยด่าว่ากลั่นแกล้งกีดกันแป๋งจากอ้อมใจ แป๋งซึ่งชอบอ้อมใจก็พยายามทำตัวใกล้ชิด และเลียนแบบกิจกรรมที่อ้อมใจชอบ ซึ่งก็คือเสียงเพลง และดนตรี แต่ก็ไม่วายเผชิญหน้ากับบัวลอยซึ่งดูถูกแป๋งว่าอ้วนแล้วยังเจียมตัว และเกิดการท้าทายงัดข้อแข่งกัน ถ้าใครแพ้ต้องเลิกคุยกับอ้อมใจ ซึ่งแป๋งก็แพ้ และข้องใจว่าตัวเองตัวใหญ่กว่า แต่ทำไมถึงสู้แรงบัวลอยซึ่งตัวเล็กกว่าไม่ได้ จึงมีความคิดที่จะลดความอ้วนโดยไม่ใช้ยา โดยเกิดแรงบันดาลใจจาก “ความพ่ายแพ้ มักทำให้ผู้แพ้เรียนรู้ และหาวิธีที่จะทำให้ตนเองแข็งแรงขึ้น” โดยจริงจังกับการดูแลตัวเอง และควบคุมการกินอาหาร ตลอดจนขยันหมั่นเพียรในการออกกำลังกายทุกครั้งที่มีเวลาว่าง และทำอย่างตั้งใจที่สุด  โดยมีคำขวัญว่า “ถ้าเราตั้งใจ ทำไมเราจะทำไม่ได้”  เพียงเวลา 3 เดือน แป๋งก็ความสามารถลดความอ้วนลงมาได้ และแข็งแรงขึ้นจนสามารถเอาชนะบัวลอยได้ คณะกรรมการพิจารณารางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ในหมวดวรรณกรรมเยาวชนส่วนนิยายภาพ หรือการ์ตูน คัดเลือกหนังสือการ์ตูนเรื่อง “อะฮ๊อย” ให้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1

เมื่อคำนึงจึงเห็นความเป็นเธอ

เป็นบทกวีสะท้อนทัศนะของผู้เขียนที่มีต่อโลกและชีวิต โดยเฉพาะความศรัทธาที่มีต่อวิชาชีพครูของตนสามารถใช้ภาษาได้อย่างละเมียดละไมมีความลื่นไหล  และคุม “ความ”  ได้ดีพอสมควร

พจน์โดยสาร

ผู้เขียนมีความช่างคิด ช่างสังเกต สามารถหยิบยกสิ่งรอบตัว อาทิ ปัญหาสังคม-การเมือง ปัญหาการศึกษา-วัฒนธรรม ฯลฯ นำมาสื่อสะท้อนเป็นประเด็นปลีกย่อยได้อย่างน่าสนใจ โดยสามารถใช้สำนวนภาษาและลีลาวรรณศิลป์ในการนำเสนอได้ดี หลายบทหลายสำนวนมีความคมคาย อาทิ “พรหมองค์เดียวที่ลิขิตชีวิตคน คือใจตนไม่ใช่ใครอื่นเลย” หรือ “คนล่าฝันไม่รู้ว่าฝันล่าคน ต่างหลงกลลาภสรรเสริญเกินพอดี”

‘ความฝันอันเดียวดาย วัยเยาว์ที่สูญหาย’

เป็นรวมเรื่องสั้นจำนวน 9 เรื่องซึ่งสะท้อนความคิด  อารมณ์ และความต้องการของวัยรุ่น    มีเรื่องเกี่ยวกับการสูญเสีย  ความเปลี่ยนแปลงร้ายแรงในชีวิต   การพลัดพราก   อุดมการณ์กับการศึกษา   และความต้องการความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจของครอบครัวและสังคม   ผู้แต่งเสนอแนวคิดที่น่าสนใจสอดแทรกข้อมูลความรู้เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องได้ค่อนข้างดี

ยุคสมัยของเรา

เป็นรวมเรื่องสั้นจำนวน 8 เรื่อง เสนอเรื่องราวของผู้คนและสังคมทั้งในชนบทและเมืองหลวง   ผู้แต่งบรรยายเหตุการณ์และตัวละครได้อย่างชัดเจน  ด้วยสำนวนภาษาสละสลวย  การดำเนินเรื่องชวนติดตาม สะท้อนแนวความคิดที่มีสาระเหมาะสมกับยุคสมัย   เรื่องสั้นบางเรื่องมีแนวคิดชัดเจน ลึกซึ้ง สะเทือนอารมณ์

เมืองเล็กเมืองนี้

  เป็นเรื่องสะท้อนชีวิตวัยรุ่นและสังคม ผ่านเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือการที่ผู้แต่งนำเสนอเรื่องผ่านเรื่องราวของผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ 5 คน ได้แก่ “เล็ก” เด็กชายวัยรุ่นกำพร้าพ่อลูกแม่ค้าข้าวแกง นักเรียนมัธยม มีเพื่อนชื่อกร  “นิด” แม่ผู้ต่อสู้ชีวิตที่รักและห่วงใยลูก  “กร” นักเรียนมัธยมเพื่อนของเล็กค่อนข้างเกเร  แต่รักพ่อมากจนกล้าต่อสู้กับผู้ที่ทำร้ายพ่อ  “ครูลินดา” ครูของเล็กและกร  ผู้ประสบเหตุวิวาทและแจ้งตำรวจ   และ “ ดาบเพชร” ตำรวจผู้ระงับเหตุวิวาท การใช้กลวิธีใหม่นำเสนอเรื่องราวเช่นนี้ แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ชวนติดตาม และสามารถสะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับวัยรุ่นในสังคมได้

กลิ่นหอมแห่งท้องทุ่ง

เป็นเรื่องเล่าชีวิตของ “หนอม” ชายผู้เกิดและใช้ชีวิตวัยเยาว์ในชนบทแวดล้อมด้วยทุ่งนา ฝูงควาย   และธรรมชาติอันบริสุทธิ์งดงาม   รวมทั้งเรื่องราวอันรื่นรมย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในท้องทุ่งนั้น  ผู้แต่งสามารถนำเสนอเรื่องเหล่านี้ได้อย่างสดใส ชัดเจน สอดแทรกแนวคิดเชิงอนุรักษ์วิถีชีวิตอันเรียบง่าย มีความรัก ความเมตตา และความเอื้อเฟื้อระหว่างคนและคนกับสัตว์โดยเฉพาะ “ควาย” อย่างแนบเนียนทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึงความงาม   เสียง  และกลิ่นหอมแห่งท้องทุ่งเกิดความรู้สึกร่วมในเนื้อเรื่องและแนวคิดของผู้แต่ง

ต้องเป็นที่ 1 ให้ได้

คณะกรรมการพิจารณาให้หนังสือการ์ตูนเรื่อง “ต้องเป็นที่ 1 ให้ได้” (ฉบับการ์ตูน) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2  หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้สร้างจากชีวิตจริง และประสบการณ์อันล้ำค่าตั้งแต่เด็ก ของ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี คนไทยคนแรกที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่ตัวเองเลือกคือเป็นนักวาทยกรมือระดับโลก หนทางสู่ความสำเร็จของคุณบัณฑิตต้องใช้ทั้งสติปัญญา อดทนเพียรพยายามเรียนรู้ พัฒนาความคิด เนื้อหาของการ์ตูนเต็มไปด้วยข้อคิดและเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี  เป็นเรื่องที่มีคุณค่าต่อสังคมแสดงความไม่ยอมแพ้  เหมาะสำหรับผู้อ่าน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ อ่านสนุกอย่างสร้างสรรค์ สร้างฝันให้เป็นจริง เป็นการบอกทางมุ่งหน้าไปสู่ความสำเร็จบนเส้นทางที่มีผู้สำรวจปักป้ายบอกทางลัดและป้ายเตือนต่าง ๆ เอาไว้แล้ว นับเป็นทางลัด ประหยัดเวลาสู่ความสำเร็จ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อ่านได้อย่างมาก อ่านจบแล้วก็เห็นคล้อยตามกับคำประกาศของคุณบัณฑิตที่ว่า “คนไทยทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก”                 หนังสือ “ต้องเป็นที่ 1 ให้ได้” (ฉบับการ์ตูน) วาดภาพโดย วิรัตน์ ยืนยงพัฒนากิจ ภาพการ์ตูนที่วาดดูเรียบง่าย ลายเส้นสวยงาม สะอาด ทันสมัย พิมพ์สี่สีดูสบายตา การออกแบบบุคลิกตัวการ์ตูนมีหลากหลายทั้งตัวเอกตัวรองและตัวประกอบมีความชัดเจน  การลำดับภาพและเรื่องทำให้อ่านง่าย ที่พิเศษคือมีแทรก Foot Note  เคล็ดลับ คำคม อยู่เป็นระยะ ๆ อีกทั้งยังมีแทรกความรู้ทั่ว ๆ ไปและด้านดนตรี ด้านการพัฒนาจิตใจและบุคลิกเป็นช่วง ๆ ทำให้ได้พักสายตา   และเป็นความรู้ขยายจากเรื่องราวในการ์ตูนเรื่องนี้  แม้ว่าจะอ่านสนุกและให้สาระ เป็นอย่างดี แต่หนังสือการ์ตูนเล่มนี้ก็ไม่มีพลังพอจะสะดุดใจและไม่โดดเด่นพอจะเทียบกับหนังสืออีก 2 เล่มที่กล่าวแนะนำไปข้างต้น คณะกรรมการพิจารณาให้ได้เพียงรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เท่านั้น

เรื่องมีอยู่ว่า

  คณะกรรมการพิจารณารางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ในหมวดของนิยายภาพ หรือการ์ตูน ได้ตัดสินให้หนังสือการ์ตูนเรื่อง “เรื่องมีอยู่ว่า” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1  รูปแบบหนังสือการ์ตูนเรื่อง “เรื่องมีอยู่ว่า” นี้ เป็นการรวมนิยายภาพหรือการ์ตูนขนาดสั้นหลาย ๆ เรื่องที่จบในตอนมาอยู่ในเล่มเดียวกัน แล้วแทรกการ์ตูนขำขันตลก ๆ เป็นระยะ ๆ  นิยายภาพหรือการ์ตูนที่นำเสนอในเล่มนี้มีลายเส้นทันสมัยอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีแนวความคิดเป็นตัวของตัวเองและเป็นการมองโลกนอกกรอบที่เรียกกันว่า “การ์ตูนเด็กแนว” เทคนิคการแต่งเรื่องดี มีความคิดสร้างสรรค์เติมแรงบันดาลใจและจินตนาการหลายหลาก  การ์ตูนหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้ชวนให้ได้ย้อนคิดและมองไปในมุมกลับ บางท่านอาจจะเคยประสบพบเจอกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่มีเนื้อหาเหมือนหรือใกล้เคียงกับหลาย ๆ เรื่องในเล่มนี้  ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามหรือไม่ก็พากันหลงลืมไป   การ์ตูนแต่ละเรื่องแทรกปรัชญาข้อคิดได้อย่างลงตัว ผู้อ่านเข้าถึงเนื้อหาได้ง่าย บุคลิกตัวละครแต่ละเรื่องชัดเจนเหมาะสม   และอ่านได้ทุกเพศทุกวัย หนังสือการ์ตูนเรื่อง “เรื่องมีอยู่ว่า” นี้ แต่งเรื่องและวาดภาพโดย THE DUANG วีระชัย  ดวงพลา  ซึ่งยังเป็นวัยรุ่น  อายุ 20 ต้น ๆ  แต่ฝีมือและความคิดกลับมีพลังเกินอายุ การ์ตูนในเล่มนี้สามารถสะท้อนสะกิดสะเกา กัด จิก หรือหยอกเอินน่ารักต่อผู้คนที่มีหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่เด็กจนคนชรา เช่น เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเพื่อนในโรงเรียน จากเรื่อง “จูบ” (หน้า 7-20),  เรื่องเกี่ยวกับการรู้จักให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จากเรื่อง “ผู้ให้” (หน้า 27-31), คุณค่าของความรัก และมิตรภาพที่แท้จริง จากเรื่อง “อยากมีเงิน” หน้า (87-92) อย่าตัดสินคนด้วยคำพูดคนอื่น จากเรื่อง “นินทา” (หน้า 95-99) และยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่นอกจากอ่านเพื่อความบันเทิง สนุกสนานแล้ว ยังนำไปเป็นข้อคิดเตือนใจในชีวิตประจำวันได้ เนื่องจากหนังสือการ์ตูน “เรื่องมีอยู่ว่า”   นี้เป็นการรวมการ์ตูนหลาย ๆ เรื่องมาอยู่ในเล่มเดียวกันทำให้ขาดพลังและเอกภาพ คณะกรรมการจึงมีมติให้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1

Turning Point แก้วตาดวงใจในหัวใจจักรกล

“Turning Point  แก้วตาดวงใจในหัวใจจักรกล”  เป็นหนังสือนิยายภาพ (การ์ตูน) เรื่องยาวที่ให้อรรถรสด้านเนื้อหาในแนววิทยาศาสตร์ที่แสดงวิวัฒนาการในโลกเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ผสมผสานกับการดำเนินเรื่องที่มีหลากหลายอารมณ์  ผู้เขียนสะท้อนให้เห็นถึงการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง ความเศร้า ความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถลบเลือนออกจากใจ การทดแทน ความรักความผูกพัน การยอมรับความจริง และการเสียสละ โดยกำหนดให้หุ่นยนต์เด็กหญิงเป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินเรื่อง การนำเสนอภาพการ์ตูนผู้วาดภาพมีศักยภาพในการตกแต่งภาพอย่างพิถีพิถันวิจิตรบรรจง ลีลาลายเส้นมีความสวยงาม การลำดับภาพในแต่ละหน้าตื่นเต้นชวนติดตาม มีความต่อเนื่องสมบูรณ์ นับว่าเป็น Comic ที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ แม้ภาพและเรื่องจะมีอิทธิพลหนังสือการ์ตูนแบบมังงะของญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่คณะกรรมการมีความเห็นว่ารูปแบบของการ์ตูนร่วมสมัยเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่ผู้อ่านให้ความนิยมเป็นอย่างมาก หนังสือการ์ตูนเรื่อง “Turning Point  แก้วตาดวงใจในหัวใจจักรกล” นี้ ผู้อ่านจะได้รับความสนุกสนาน ความสะเทือนใจ ความประทับใจ ความสุขและข้อคิดที่มีคุณค่า นับว่าควรค่าแก่การได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้

เด็กชายชนะ เด็กพิเศษที่ไม่อยากเป็นคนพิเศษ

เรื่องชีวิตของเด็กชายชนะผู้พิการขาลีบ   มีพ่อแม่ที่มีทั้งความรักและความเข้าใจดูแลให้ดำเนินชีวิตอย่างปกติ   ผู้เขียนตั้งใจจะสื่อถึงความรู้สึกของเด็กพิการที่ไม่ต้องการความสงสารแต่ต้องการรัก ความเข้าใจ  การส่งเสริมและให้โอกาสอยู่ในสังคมเช่นเดียวกับเด็กปกติ  และสะท้อนข้อคิดเกี่ยวกับการที่ผู้ใหญ่ปกป้องเด็กพิการโดยการเน้นความแตกต่างกับเด็กอื่น ๆ

ลมแล้งเริงระบำ

เป็นเรื่องราวของ “คำดั้ว” และเพื่อนบ้าน กับวิถีชีวิตของคนอีสานในหน้าแล้ง ให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารการกิน  ความเป็นอยู่  ประเพณี และภาษาอีสาน  เหมาะสมที่จะให้เยาวชนได้อ่านเพื่อเรียนรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับภาคอีสาน

ทางสืบทอด

เป็นเรื่องของ “ทัน” คนรุ่นใหม่ที่ซาบซึ้งในคำสอนของครูพิชิต  ครูมักจะนำเรื่องราวที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชีวิตแบบไทยที่กินอยู่อย่างพอเพียงมาบูรณาการกับการเรียนการสอนวิชาต่างๆ  ส่งผลให้ “ทัน” ผู้เป็นลูกศิษย์ได้เรียนรู้  จดจำ  สนใจ ใฝ่รู้เรื่องราวของวิถีชีวิตชาวชนบท  และตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย

ม็อกซ์ แมวมหัศจรรย์

ม็อกซ์ เป็นแมวเหมียวลายเทาธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเลยสำหรับเด็กชายคนหนึ่ง เพราะม็อกซ์สามารถพูดคุยกับเขาได้แต่ไม่อาจสื่อสารกับคนอื่นๆ ในบ้านได้เพราะ “กระแสคลื่น”  ยังไม่ตรงกัน  นับตั้งแต่ม็อกซ์เข้ามาอยู่ในบ้านก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งตื่นเต้น สนุกสนาน     และแม้กระทั่งความลับเล็กๆ น้อยๆ  แต่ก็ทำให้ทุกคนในบ้านมีชีวิตชีวาขึ้น “สุมาลี” เรียบเรียงเรื่องราวของม็อกซ์ แมวมหัศจรรย์  โดยการบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวที่อบอุ่น   สงบสุข จนกระทั่งมีแมวมหัศจรรย์ ตัวนี้เข้ามาสร้างความรื่นเริงให้อย่างน่ารัก และน่าติดตาม

อธิษฐานสิจ๊ะกับนางฟ้า สีเขียว

เรื่องราวความทรงจำในวัยเด็กของเด็กชายเล็กๆ คนหนึ่งซึ่งมีต่อ “นางฟ้า” ผู้แสนดีและพร้อมที่จะรับฟังทุกเรื่องราวของเขา  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กในสายตาผู้ใหญ่หรือเรื่องใหญ่ในความรู้สึกของเด็ก ผู้อ่านจึงได้รับรู้ความรู้สึกของเด็กน้อย  ตั้งแต่รายละเอียดที่บ้านอันอบอุ่นทั้งที่ขัดสนจนถึงโรงเรียนอันน่าสนุกสนานและน่าเบื่อ หรือเพื่อนรักของเขาซึ่งอาจจะไม่น่ารักสำหรับใครๆ แต่มิตรภาพอันบริสุทธิ์ของเด็กทั้งสองก็ยังคงอยู่ด้วยความบริสุทธิ์สดใส “วิเชียร  ไชยบัง”  สะท้อนความรู้สึกอันงดงามในใจของเด็กๆ ได้อย่างลึกซึ้ง  ด้วยภาษาที่อ่อนโยนละเมียดละไม ชวนให้ผู้อ่านต้องย้อนทบทวนว่า  เด็กๆ ก็มีหัวใจ และจินตนาการอันยิ่งใหญ่ที่เราไม่ควรละเลย

นักประดิษฐ์ทุกคนเป็นสิ่งประดิษฐ์

“นักประดิษฐ์ ทุกคนเป็นสิ่งประดิษฐ์” ของ ภูฉาน พันฉาย เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่เสนอภาพการดำเนินชีวิตและโลกทัศน์ของชาวชนบทท้องถิ่นภาคใต้ของไทยในยุคปัจจุบัน ซึ่งวิถีชีวิตของสังคมเมืองสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา การเมือง การท่องเที่ยว เงินทุนจากต่างประเทศ ฯลฯ กำลังรุกล้ำเข้าไปอย่างรวดเร็ว   เป็นผลให้ชีวิตความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมต้องเปลี่ยนแปรไป แต่ในขณะเดียวกันชาวบ้านก็ได้ปรับเปลี่ยนสิ่งที่เข้ามาใหม่เหล่านั้นให้สอดคล้องกับวิถีของตนได้อย่างน่าสนใจ ผู้เขียนมีความสามารถในการเล่าเรื่องและการใช้ภาษา สร้างภาพเหตุการณ์ในแต่ละเรื่องอย่างละเอียดลุ่มลึก และมีกลิ่นอายสีสันของท้องถิ่น ทั้งยังซ่อนปมปรัชญาให้ผู้อ่านได้ขบคิดและตั้งคำถามเกี่ยวกับตนเองและสังคมที่ตนสังกัดอยู่ว่าเรากำลัง “ประดิษฐ์” และ “ถูกประดิษฐ์” อย่างไรบ้าง หนังสือรวมเรื่องสั้น นักประดิษฐ์ทุกคนเป็นสิ่งประดิษฐ์ จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัล           เซเว่นบุ๊คอวอร์ดประจำปี 2553

คนในคลื่น

10 เรื่องสั้นที่รวมพิมพ์อยู่ในหนังสือ “คนในคลื่น” ถ่ายทอดเรื่องราวของคนที่ทำงานในเรือประมง   ความผูกพันระหว่างคนกับทะเล และความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน อย่างมีเลือดเนื้อ มีชีวิตจิตใจ และมีสีสัน ทั้งในฐานะที่ผู้เขียนมีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในเรือประมงมานานหลายปี และในฐานะของนักสังเกตการณ์ที่เฝ้ามองความเป็นไปต่างๆ อย่างพินิจพิเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะคนเขียนหนังสือที่มีฝีมือและความสามารถในการใช้ภาษาทำให้ผู้อ่านมองเห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ในเรือ สัมผัสขื่นคาวของทะเลและผู้คนที่ร่วมชะตากรรมในเรือลำเดียวกัน อีกทั้งผู้เขียนได้สะท้อนให้ย้อนมองกลับไปยังอดีตอันรุ่งโรจน์และอนาคตอันร่วงโรยของประมงไทยในที่ซึ่งประสบการณ์ของคนรุ่นเก่เผชิญหน้ากับเทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่ รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ยังได้บอกกับเราว่าแม้จะไม่ได้อยู่ในเรือประมง  แต่เราทุกคนก็อยู่ในคลื่นทะเลชีวิต เช่นเดียวกัน หนังสือรวมเรื่องสั้นคนในคลื่น จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประจำปี 2553

นักเดินทางสู่ห้องเก็บของใต้บันได

“นักเดินทางสู่ห้องเก็บของใต้บันได” ของจักรพันธุ์ กังวาฬ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น 13 เรื่อง ที่สะท้อนภาพชีวิตคนไทยร่วมสมัยยุควัตถุนิยมที่สูญเสียคุณค่าความเป็นมนุษย์ โดยตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน จนไม่อาจแยกแยะความจริงกับความลวง ความดีกับความชั่ว ความถูกต้องกับความผิดพลาด เรื่องสั้นโดยรวมมีทั้งความหมายตามตัวอักษรที่ทำให้ผู้อ่านสนุก ตื่นเต้น ระทึกใจ กับความหมายแฝงอันลุ่มลึกต่อการเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิต ผู้เขียนนำเสนอเรื่องราวด้วยกลการประพันธ์แบบสัจนิยม และแบบเหนือจริงอย่างแยบยล ใช้ภาษาสั้นและกระชับ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพและเกิดอารมณ์ร่วม ชื่อเรื่องบางเรื่องผู้เขียนตั้งขึ้นโดยเล่นกับความหมายของคำในภาษาได้อย่างแนบเนียนและกลมกลืน เช่น “เสียเด็ก”,  “คนลืมตัว” และ “ข้างนอกข้างใน” เป็นต้น ผู้เขียนนำชื่อเรื่อง 2 เรื่อง คือ “นักเดินทาง” กับ “เสียงร้องจากห้องเก็บของใต้บันได” มารวมกันเป็นชื่อหนังสือ “นักเดินทางสู่ห้องเก็บของใต้บันได” เหมือนจะชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนล้วนเป็นนักเดินทางทั้งสิ้น ซึ่งมักมีจุดหมายปลายทางอันห่างไกล  แท้ที่จริงสิ่งใกล้ตัวที่ไม่มีใครสนใจเหลียวแลต่างหากที่มีสาระชวนให้ค้นหาความหมายให้แก่ชีวิตมากกว่าสิ่ง        ไกลตัว ด้วยคุณสมบัติด้านเนื้อหาและกลการประพันธ์ดังกล่าว “นักเดินทางสู่ห้องเก็บของใต้บันได” ของจักรพันธุ์           กังวาฬ จึงสมควรได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทรวมเรื่องสั้น รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประจำปี 2553

เงาตนบนรอยซาย

สารคดีเชิงธรรมชาติวิทยาของกวางผาสัตว์ป่าสงวนของไทย ผ่านมุมมองและประสบการณ์ของนักเขียนที่มีความสามารถด้านการถ่ายภาพสัตว์ป่าขั้นสูง ผู้สนใจศึกษาทั้งวิถีชีวิตของกวางผา และชนเผ่าบนดอยสูงที่ผูกพันกับสัตว์ป่าที่น่าทึ่งชนิดนี้ ผ่านกระบวนการนำเสนอด้วยชั้นเชิงทางวรรณศิลป์กึ่งเรื่องสั้นหรือนวนิยาย ทว่าเป็นเรื่องจริงที่อ่านสนุก ชวนติดตาม ทำให้ผู้อ่านได้ซึมซับความรู้เรื่องกวางผา ตระหนักในคุณค่าธรรมชาติและชีวิตมนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ชั้นชนอย่างเท่าเทียม

ความจริงที่หายไป

นำเสนอเรื่องราวทางธรรมชาติวิทยาและปัญหาสิ่งแวดล้อมของไทย ด้วยกระบวนการค้นคว้าข้อมูลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์และอย่างรอบด้าน ผ่านชั้นเชิงการเขียนที่ชวนอ่านก่อให้เกิดจิตสำนึกในการปกป้องรักษาธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมโดยมีการสัมภาษณ์บุคคลในพื้นที่ทำให้ข้อมูลหนักแน่น น่าเชื่อถือ ทำให้ได้แง่คิดว่า ความรู้อาจหาอ่านได้จากตำรา แต่หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วได้ความคิด ความสำนึกในความถูกต้อง ความเป็นธรรมและความรักหวงแหนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ก่อเกิดพลังการต่อสู้ เพื่อป้องกันการทำลายสิ่งแวดล้อม สมบัติสาธารณะ

50 เรื่องต้องรู้อยู่กับโลกร้อน

นำเสนอปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลก ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต   เพื่อลดโลกร้อน ด้วยภาษาสำนวนกระชับ เรียบง่าย ชวนอ่าน และน่าเชื่อถือด้วยข้อมูลเชิงวิชาการที่ผ่านกระบวนการศึกษาวิจัยอย่างดียิ่ง สร้างความตระหนักรู้และปลูกฝังจิตสำนึกรักโลก รักสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าสนใจ

โลกร้อน ทุกสิ่งที่เราทำเปลี่ยนแปลงโลกเสมอ

นำเสนอผลกระทบจากภาวะโลกร้อนให้ผู้อ่านตระหนัก ด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือ โดยใช้ภาษาสำนวนที่เข้าใจง่ายแต่ส่งผลสะเทือนต่อความรับรู้ของคนเราอย่างรุนแรง นั่นคือเราทุกคนมีส่วนทำให้โลกร้อน และเราทุกคนสามารถ              ลดโลกร้อนได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่าง เป็นหนังสือที่สามารถเปลี่ยนชีวิตผู้อ่านให้ดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับโลกได้

ถอดรหัสอัจฉริยะ เลโอนาร์โด ดาวินชี

นำเสนอชีวิตและความคิดบุคคลสำคัญของโลก ผู้เป็นทั้งศิลปินลือนามและนักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่อง ผ่านกระบวนการค้นหาที่มาแห่งความเป็นอัจฉริยะของเขาด้วยภาษาสำนวนชวนอ่านชวนติดตาม ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจเชิงสร้างสรรค์ทั้งทางศิลปะและทางวิทยาศาสตร์

ซูเปอร์มด ถั่วยักษ์ และแม่หมี

เป็นสารคดีวิทยาศาสตร์ สายธรรมชาติวิทยา (พืชและสัตว์) ที่นำเสนอข้อมูลลึกเชิงพฤกษศาสตร์และสัตวศาสตร์ด้วยกลวิธีที่ชวนอ่านชวนติดตาม ทั้งการร้อยเรียงเรื่องราวที่มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ และการใช้ภาษาสำนวนที่เรียบง่าย แต่มีอรรถรสในการอ่าน มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ มีการคัดสรรประเด็นที่จะนำมาเขียนได้ดี ตอบสนองความสนใจใคร่รู้ของผู้อ่านทุกเพศทุกวัย บางประเด็นดูเป็นเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม อาทิ เรื่องทาก เรื่องรังนก เรื่องต้นหญ้า เรื่องเห็ด ฯลฯ แต่ผู้เขียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลนำมาเขียนเชื่อมโยงเข้ากับประสบการณ์ส่วนตัว ทำให้เรื่องเล็กๆ มีความน่าสนใจ อ่านสนุก เพลิดเพลิน ได้ความรู้ ได้แรงบันดาลใจในการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับพืชและสัตว์เหล่านั้นอย่างตระหนักในคุณค่า สมดังเจตนารมณ์ของผู้เขียนที่ระบุว่าพืชและสัตว์ที่เขียนถึงในหนังสือเล่มนี้   อาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่น่ารักและวิเศษกว่าคน แต่มันมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตของมันเองในโลกใบนี้เท่าเทียมกับพวกเรา

๗๘ ตารางวา

สารคดีเพื่อเยาวชนที่อ่านสนุกแต่แฝงไว้ด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สายธรรมชาติวิทยา ผู้เขียนมีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ในการสอดแทรกข้อมูลไว้ในงานเขียนอย่างมีเหตุผล จนทำให้อ่านเพลินและได้แง่คิดเกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัวเรา ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังก่อให้เกิดจิตสำนึกการอนุรักษ์ เป็นหนังสือที่น่าอ่าน ทั้งในด้านภาษาที่กลมกลืนแก่วัยเยาวชนและแสดงถึงความสัมพันธ์ที่น่ารักในครอบครัว กลวิธีนำเสนอเรื่องราวอย่างมีชีวิตชีวา ชักชวนให้รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์สุนทรี ละมุนละไม รักต้นไม้ใบหญ้า แม้บนพื้นที่ขนาดเล็กของบ้าน แต่สามารถอธิบายความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตออกไปได้กว้างไกล สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างใหญ่หลวง

น้ำ : ของวิเศษสามสถานะบนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน

นำเสนอองค์ความรู้ว่าด้วยน้ำอย่างรอบด้าน ด้วยภาษา สำนวน ชวนอ่าน มีการอ้างอิงข้อมูลเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของน้ำและสิ่งมีชีวิตที่พึ่งพิงน้ำในการดำรงชีวิตก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจจุดประกายความคิดที่จะอนุรักษ์น้ำให้ยั่งยืน  ทั้งยังมีการจัดเนื้อหาสลับรูปการ์ตูนอย่างน่าสนใจและน่าติดตาม    

ไอน์สไตน์ หลุมดำ และบิกแบง

สารคดีชีวิต อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญผู้ค้นพบทฤษฎีอันส่งผลสะเทือนต่อโลกปัจจุบันมากที่สุดคือทฤษฎีสัมพัทธภาพ หนังสือเล่มนี้ลงลึกในเรื่องความคิดและทฤษฎีของเขามากกว่าที่เคยมีการนำเสนอกันมา แม้จะมีเนื้อหาสาระทางวิชาการมากพอควร แต่ผู้เขียนเล่าเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ และถึงแม้ท่วงทีลีลาการเขียน อาจไม่ถึงกับสนุกสนานเป็นกันเอง แต่ก็มีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์อันเหมาะควรกับการเป็นสารคดีเชิงวิทยาศาสตร์ และมีสาระความรู้บรรจุอยู่เต็มเปี่ยม แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังชวนให้ติดตามอ่านด้วยการใช้ “ชีวิต” ของไอน์สไตน์มาอธิบาย “ความคิด” ของไอน์สไตน์อย่างแยบยล ทำให้หนังสือมีความน่าสนใจ ดึงดูดใจให้อ่านไปตลอดเล่ม และมีบทบาทสำคัญสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ ในฐานะ “ศาสตร์” ที่สร้างสรรค์โลกอย่างมีเหตุและผล ไม่ใช่ศาสตร์เพื่อการทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง

บุพเพสันนิวาส

บุพเพสันนิวาส  เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในยุคอยุธยารัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  ผู้แต่งนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยดังกล่าวผ่านพฤติกรรม มุมมอง และความรู้สึกนึกคิดของตัวละครเอกซึ่งเป็นคนในปัจจุบันสมัยที่ข้ามภพไปมีชีวิตอยู่ในโบราณสมัย  ทำให้เห็นความแตกต่างกัน ในด้านสังคมและวัฒนธรรมอันเนื่องด้วยเงื่อนไขแห่งกาลเวลา  ลักษณะเนื้อหาของนวนิยายเรื่องนี้จึงน่าสนใจ   ชวนอ่านชวนติดตาม ความเด่นของนวนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาสอยู่ที่ผู้แต่งได้พยายามศึกษาค้นคว้าหลักฐานทางประวัติศาสตร์และสังคม  นำมาเป็นข้อมูลหลักผสมผสานกับจินตนาการของตน  แล้วสร้างสรรค์องค์ประกอบต่างๆ ขึ้นสื่อแสดงเรื่องราว  ภาพ  และบรรยากาศของสังคมในยุคอยุธยาได้อย่างสอดคล้องกลมกลืน  ด้วยการใช้สำนวนภาษาที่สมสมัย  ด้วยลีลาที่มีชีวิตชีวาและมีอารมณ์ขันทำให้อ่านได้สนุกสนานเพลิดเพลิน  จึงนับได้ว่าบุพเพสันนิวาสเป็นนวนิยายย้อนยุคที่ทรงคุณค่าเรื่องหนึ่งในปัจจุบัน

ธนูสายฟ้า

ธนูสายฟ้า เป็นผลงานประพันธ์ของมาลา คำจันทร์  นวนิยายเรื่องนี้ได้นำพาผู้อ่านกลับไปสู่โลกของนิทานพื้นบ้านในอดีต แม้ผู้ประพันธ์จะใช้รูปแบบการนำเสนอแบบนวนิยายสมัยใหม่ แต่กลการประพันธ์ของนวนิยายเรื่องนี้สืบขนบการแต่งเรื่องแบบนิทานอย่างชัดเจน  ดังจะเห็นว่าผู้ประพันธ์ได้สร้างเนื้อหาให้เวียนวนอยู่ในโลกของจินตนาการมากกว่าความสมจริง  มีการสร้างตัวละครแบบวีรบุรุษ  การใช้อนุภาคของนิทานพื้นบ้าน เช่น การซ่อนตัวของตัวละคร การติดตามหาของวิเศษ การพบและพลัดพราก การสร้างฉากมหัศจรรย์ การสร้างตัวละครอมนุษย์ ฯลฯ ผู้ประพันธ์ได้สร้างสรรค์จินตนาการแปลกๆ ใหม่ๆ โดยนำมาผสานกับคติชนของล้านนาและการที่ผู้ประพันธ์ใช้ภาษาถิ่นล้านนาสอดแทรกอยู่ตลอดเรื่อง ทั้งในด้านคำศัพท์และความเปรียบ ทำให้นวนิยายเรื่องนี้  มีความโดดเด่นด้านการแสดงสีสันของท้องถิ่นอีกด้วย ธนูสายฟ้า จึงนับเป็นตัวอย่างของงานวรรณกรรมที่ “เล่น” และ “ล้อ” กับขนบการประพันธ์ในอดีตและทำให้ประจักษ์ว่าในโลกสมัยใหม่ นิทานยังมีบทบาทในด้านการสร้างจินตนาการและความบันเทิงให้แก่คนในสังคม