เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 3
จ็อกกิ๊งซิ่งสายฟ้า
“จ็อกกิ้งซิ่งสายฟ้า” เรื่องอ่านสนุก แต่คุณภาพของลายเส้นและฝีมือด้อยกว่า ๒ เรื่อง แรกเป็นเรื่อง ของ “เอก” หนุ่มน้อยนักกีฬาวิ่งแข่งที่เก่งกาจ โดยมีสิ่งยืดเหนี่ยวและสร้างกำลังใจให้เอกก็คือ คุณปู ซึ่งเป็นอดีตนักวิ่งเหรียญทองทีมชาติไทย ผ่านรองเท้าวิ่งของที่เอกได้เป็นของขวัญตอนเด็กๆ และเขาใส่ทุกครั้งที่ชนะการวิ่งแช่งจนวันหนึ่งรองเท้กถูก ขโมยไปทำให้เอกขาดกำลังใจและสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ต่อเมื่อได้ทวนคิดถึงคำสอนต่างๆ ของปู่ว่า “ปู่ไม่เคยชนะเพราะรองเท้าหรอกนะ ปู่ไม่คิดว่าโลกนี้มันจะมีรองเท้าวิเศษหรอกนะ ที่หลานชนะมาตลอดก็เพราะตัวเราเองต่างหากที่วิ่ง” ทำให้เอกค้นพบตัวเอง เรียก ความมั่นใจกลับคืนมาและชนะการแข่งชันในที่สุด แม้ผู้เขียนจะเป็นเยาวชนแต่สามารถเขียน นิยายภาพเรื่องนี้ได้ดีมีเนื้อหาสอนให้เชื่อมั่นในตนเอง ให้เห็นว่าแก่นแท้ของความสำเร็จย่อมเกิดจากการฝึกฝนมีกำลังใจ ต้องค้นพบตัวเองอย่าให้มีอะไรมาบังตา
ผมกำลังรอ..ของขวัญของผมอยู่
“ผมกำลังรอ…ของขวัญของผมอยู่” เป็นเรื่องที่หยิบเหตุการณ์ปัญหาสังคมปัจจุบันมานำเสนอได้ดี การผูกเรื่องทำได้กลมกลึน ตัวละครแต่ละตัวก็เขียนได้อย่างมีอารมณ์ สามารถโน้มน้าวให้ผู้อ่านมีความรู้สึกร่วมและคล้อยตามไปกับตัวละครเป็นเรื่องของ เก่ง เด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตลอดเวลาเฝ้าแต่รอ “ของขวัญที่มีชีวิต” ผ่านประตูสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเข้ามาในทุกวันเด็ก และเกสร เด็กนักเรียนที่ท้องและดลอดลูกในวัยเรียน ได้นำลูกไป ทิ้งในกองขยะโดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกเป็นหญิงหรือชาย เมื่อเวลาล่วงเลยก็มา ตามหาลูกโดยวิธีตรวจ DNA สุดท้ายก็พบว่าเก่งคือลูกของตัวเอง และเก่งก็พบแม่ในวันเด็กเป็น “ของขวัญที่มีชีวิต” ที่ตัวเองรอคอยมานาน
THEN
ผู้เขียนผูกเรื่องได้ดี กลวิธีในการวาดภาพและเทคนิคดี เล่าเรื่องด้วยภาพได้อารมณ์ชวนติดตามและอ่านสนุกพอสมควร เนื้อหาต้องการสื่อเรื่องความรักระหว่างแม่และลูกผ่านตัวละครชายหญิง ๒ คนที่อยู่ต่างประเทศคือ อนุสิกข์ ที่เป็นตำรวจอยู่ที่ QUEEN CITY ต้องดูแล วาลิกา สาวไทยที่เป็นนักฟ้อนรำแต่เป็นไบ้ ที่มาตามหาแม่ที่ขาดการติดต่อกัน แม่ ของวาลิกาเป็นโสเภณีในเมือง QUEEN CITY ส่งเสียให้วาลิกาเรียนสำเร็จในสิ่งที่ลูกหวังแม้ตัวเองจะลำบาก วาลิกาแสดงความรักและความมุ่งมั่นในการตามหาแม่ แต่ไม่พบเพราะแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไปก่อนหน้านี้ทำให้ไม่ได้ติดต่อวาลิกา จนทำให้อนุสิกข์ ซึ่งหนีแม่ที่อยู่ เมืองไทยเพราะเกลียดที่เขาถูกทำให้เชื่อว่าแม่เป็นโสเภณีหรือเมียน้อยซาวบ้าน ไม่ติดต่อและฉีกจดหมายของแม่ทุกฉบับโดยไม่อ่าน ในท้ายเรื่องก็โทรศัพท์หาแม่และจะกลับเมืองไทยไปพบแม่ เพราะตระหนักถึงความรักของแม่ที่มีต่อตัวเอง และทำเรื่องที่สำคัญก่อนจะสายเกินไป
ภาษาแห่งความรู้สึก
ผู้ประพันธ์เชียนกวีนิพนธ์ได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้ภาษาและถ้อยคำได้ดีเหมาะสม แต่ยังมีข้อผิดพลาดของลักษณะคำประพันธ์อยู่เล็กน้อย
คนที่เรารัก คนที่รักเรา
ผู้ประพันธ์มีความตั้งใจในการทำงาน การใช้ภาษาดี หากฝึกฝนบ่อยๆ สามารถพัฒนางานเขียนได้ต่อไปในอนาคต
แกะรอยฆาตกรรม
ผู้เขียนอายุยังน้อย แต่มีฝีมือการเขียนดี วางโครงเรื่องได้แนบเนียน น่าติดตามตั้งแต่ต้น ภาษาดี ทันสมัย สอนให้คิดในเรื่องการดำเนินชีวิต อ่านสนุก ตัวละครเก่งกล้าเกินเด็กในวัยเดียวกัน แต่เนื้อเรื่องยังมีฉากการฆ่า การทำร้าย และความรุนแรงมากไป จึงยังไม่เหมาะสมกับเยาวชน
ลมหนาวในปารีส
มีศิลปะในการเล่าเรื่องการเดินทางในต่างแดนของตนเอง ด้วยภาษาสำนวนสละสลวยแต่แฝงด้วยลีลาประชดประเทียดพองามทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนติดตามผู้เขียนไปเรียนรู้ชีวิตในมหานครชื่อดังของโลกโดยไม่รู้ตัว
ภูผา ป่าไม้ และสายน้ำ
เป็นสารคดีที่สอดแทรกสาระและความรู้ได้ตามสมควร ให้แง่คิดในเชิงอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม ใช้ภาษาเรียบง่ายแสดงให้เห็นประสบการณ์ในการเขียนหนังสือได้ดี
ฉันท่องไปตามทางที่จันทร์ส่อง
ใช้ภาษาเรียบง่าย กระชับ แต่แฝงด้วยจินตนาการผสานกับข้อมูลความรู้ อันทำให้ผู้อ่านสนุกสนานเพลิดเพลิน ได้อรรถรสจากการเรียนรู้สภาพสังคม วัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์แดนอาทิตย์อุทัยไปพร้อม ๆ กัน
จะไปให้ไกลถึงไหนกัน
ความเรียงและเรื่องราวว่าด้วยการเดินทางไปยังเทือกเขาเอเวอเรสต์ พรมแดนตุรกี โรม จอร์แดน รัฐอัสสัม เว้ ฯลฯ ข้อเขียนไม่ได้เน้นที่รายละเอียดหรือบรรยากาศแปลกตาในดินแดนไกลโพ้น หากสิ่งกระทบใจจากผู้คน บ้านเมือง สถานที่ที่ได้เห็นระหว่างการเดินทางของผู้เขียนต่างหาก คือเนื้อหาสำคัญที่ทำให้ จะไปให้ไกลถึงไหนกัน แตกต่างจากหนังสือเดินทางท่องเที่ยวเล่มอื่น ผู้เขียนเป็นนักวิชาการรุ่นใหม่ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางทั่วโลกเมื่อครั้งทำงานเป็นนักเขียนบทสารคดีโทรทัศน์เมื่อหลายปีก่อน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นมุมมองของคนทำสารคดีอาชีพอันน่าสนใจ และยังทิ้งคำถามไว้ให้ผู้รักท่องเที่ยวผจญภัยได้ค้นหาความหมายของ “การเดินทาง” ร่วมกันด้วย หากเราเชื่อว่า การอ่านคือการเดินทางในโลกกว่างอย่างไร้ขีดจำกัด จะไปให้ไกลถึงไหนกัน เป็นตัวอย่างของการเดินทางในโลกกว้างอย่างแท้จริง
ขับรถเที่ยวอิตาลี 8 เมืองมรดกโลก
อิตาลี ดินแดนแห่งวัฒนธรรมความเจริญรุ่งเรือง ศูนญ์กลางของจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความยาวนานทางประวัติศาสตร์ที่ฝังรอยลึกไว้ในเมืองใหญ่น้อยของอาณาจักรโรม มิลาน เวนิส และฟลอเรนซ์ ยังยืนยงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ผู้เขียนเป็นคนชอบลุยซอกแซกท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยตนเอง แต่ยังมีพรสวรรค์ในการเก็บรายละเอียดของสถานที่และสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านพบ ผู้เขียนยังมีสไตล์การเขียนหนังสือชวนอ่านแสบ ๆ คัน ๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เขียน และเนื้อหาในเล่มก็ไม่เบาหวิวหรืออัดแน่นไปด้วยข้อมูลจนล้นเกินไป ขับรถเที่ยวอิตาลี 8 เมืองมรดกโลกจึงเป็นตัวอย่างของหนังสือคู่มือการไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเองที่น่าสนใจเล่มหนึ่ง สำหรับผู้รักการเดินทางชอบประวัติศาสตร์ ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมและเชื่อว่าการเดินทางคือการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การไปถึงเท่านั้น ขับรถเที่ยวอิตาลี 8 เมืองมรดกโลก เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ควรค่าต่อการนำติดตัวไปด้วย
ให้ความรักนำทาง
ผู้เขียนสามารถเขียนเรื่องสถานที่ธรรมดามาก ๆ ได้อย่างน่าอ่าน อ่านสนุก ใช้ภาษาสำนวนสละสลวย มีศิลปะในการร้อยเรียงเรื่องราว มีแก่น (Theme) ของเรื่อง มีเป้าหมายมีชั้นเชิงในการสอดแทรกข้อมูล ความรู้ทางกายภาพ ผสานกับข้อมูลทางจินตภาพ คืออารมณ์และความรู้สึกของผู้เขียนอย่างแนบเนียน ให้สาระ ความรู้ ความสนุกสนาน ตื่นเต้น ได้บรรยากาศ สอดแทรกแนวคิด ผู้เขียนเกิดมาเป็น (Born to be) จึงน่าจะเป็นแบบอย่างให้นักเขียนสารคดีต่อไปได้
“หัวหมอน” โลมาพเนจร
ผู้แต่งเป็นนักต่อสู้เพื่อสัตวชน มีความรู้เรื่องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอยู่ในพื้นที่ เนื้อหาของหนังสือให้ความรู้เยาวชนได้ดี โครงเรื่องดี นำเสนอดี นำเรื่องจริงมาเสนอได้ไม่น่าเบื่อ ได้ข้อคิด องค์ประกอบดี สำนวนภาษาดี เนื้อเรื่องดี น่ารัก รูปเล่มภาพประกอบดี นำเนื้อหาที่เด็กสนใจ ให้เด็กเขียนภาพประกอบ ภาพประกอบน่ารัก เป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่ง อ่านสบาย ๆ ให้ข้อคิดเป็นหนังสือที่เขียนได้น่ารัก บรรยายเกร็ดความรู้ อ่านสนุก ทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ชีวิตของโลมา
ป้าจ๋า โก้ ติ๊ดตี่ น่ะจ้ะ
เป็นเรื่องในครอบครัวของเด็กกรุงเทพฯ และชนบทที่น่ารัก มีการเขียนจดหมายโต้ตอบ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีน้อยก็ตาม ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต แม้จะเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ผู้เขียนใช้ภาษาง่าย ๆ เขียนได้มีเสน่ห์ ชวนให้ติดตาม สำนวนภาษาดี อ่านสบาย ๆ
ต้นกล้า
เสนอเรื่องร่วมสมัย เหมาะสำหรับวัยรุ่นอ่าน ใช้ภาษาง่าย ๆ ฉากในโรงพยาบาลสมจริง เนื้อหามีคติสอนใจ ให้ข้อคิด ภาษาดี สะท้อนความคิด และคุณธรรม เป็นเรื่องที่ช่วยให้ผู้ป่วยเอดส์มีความทัดเทียมในสังคม แต่เนื้อหาบางส่วนยังเกินจริง การแก้ปัญหาในเรื่องง่ายเกินไป ทำให้ไม่สนุกเท่าที่ควร
เซรีญา เล่ม 1-3
ผู้เขียนวางโครงเรื่องน่าติดตาม ทั้ง 3 ตอน ใช้ภาษาบรรยายชัดเจน อ่านเข้าใจง่าย ผู้เขียนมีเทคนิคในการเขียนให้ผู้อ่านติดตามเรื่อง ทิ้งปมไว้ ผู้เขียนแทรกปรัชญา คติธรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ นำตำนานต่าง ๆ ผูกเข้าเป็นเรื่อง อ่านได้อรรถรสมีคุณค่าเหมาสมให้นักเรียนอ่าน เนื้อหาซับซ้อน แฝงปรัชญา มีข้อคิดมากมาย นอกเหนือจากการอ่านเพื่อความสนุก
จูเลียตสีเงิน
เนื้อเรื่องมีครบทุกรส บู๊ โศก เศร้า เหงา รัก โครงเรื่องสนุกตื่นเต้น ผู้เขียนบรรยายได้ดี เห็นภาพพจน์ การกระทำของตัวละครมีเหตุผล ฉากจบ บรรยายได้ดี มีเหตุผล ซาบซึ้ง ประทับใจ เนื้อหาให้ข้อคิดแก่ผู้อ่าน ข้อด้อยคือ ใช้ฉากต่างประเทศ แทรกวัฒนธรรมต่างประเทศ แต่สำนวนไทย ตัวละครเป็นไทย แต่ชื่อต่างประเทศ ฉากกับตัวละครขัดกัน แม้จะบรรยายฉากได้ดีก็ตาม ถ้าปรับมาใช้ฉากในไทยจะดีมาก
2589: เราเพียงผู้มาเยือน
เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่อ่านสนุก อ่านได้ทั้งผู้อ่านและเยาวชน เนื้อเรื่องฉีกแนวไปจากเรื่องอื่น ๆ ในการนำเสนอร้อยเรียงได้สนุก สร้างจินตนาการอยู่บนพื้นฐานความจริง สนองความต้องการของเยาวชน ส่งเสริมวิทยาศาสตร์ สอดแทรกการอนุรักษ์ได้ดี เนื้อหาสร้างสรรค์ มีมิตรภาพ สอดคล้องกับความคาดหวังที่จะให้เยาวชนเป็น การเดินเรื่องไม่เยิ่นเย้อ
ต้นโย้งในสายลม
เป็นหนังสือที่ส่งเสริมศิลปวัฒนธรมพื้นบ้านนำกลอนท้องถิ่นมาบรรยายได้ดี ผู้อ่านได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น เพลงพื้นบ้าน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเยาวชน ช่วยปลูกจิตสำนึกให้แก่คนในสังคมให้ตระหนักถึงคุณค่าของเพลงพื้นบ้านที่กำลังจะเลือนหายไปตามกาลเวลา ช่วยให้ผู้อ่านเกิดแรงบันดาลใจที่จะรักษาศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
วรรณกรรมตกสระ
วรรณกรรมตกสระ ของ ภาณุ ตรัยเวช เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเนื้อหาและแนวคิดที่นำสมัย มีวิธีการนำเสนอที่หลากหลายและแปลกใหม่น่าสนใจ
ยิ้มอัปสรในรัตติกาล
ยิ้มอัปสรในรัตติกาล ของ แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า (นพรุจ หิญชีระนันทน์) เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่มีเนื้อหาแสดงแนวคิดทางปรัชญา สะท้อนประสบการณ์ของปัจเจกชนอย่างมีชีวิตชีวา และมีวิธีการนำเสนอกึ่งสัจนิยมมายาได้อย่างน่าสนใจ
มัทรานี
มัทรานี ของ ภูฉาน พันฉาย เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่เสนอมุมมองชีวิตที่หลากหลาย มุ่งแสดงปัญหาสังคมด้วยแนวคิดที่ลุ่มลึกและสร้างสรรค์ สื่อถึงความตั้งใจจริงของผู้เขียนที่จะให้วรรณกรรมมีบทบาทจรรโลงสังคม นอกจากนี้ ผู้เขียนยังมีกลวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ โดยให้ภาพและสีสันท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน
ยายทองใบใจร้าย
ยายทองใบใจร้าย มีวิธีการและรูปแบบการเขียนแบบไทย ๆ อ่านสนุกพอสมควรและที่สำคัญเด่นกว่าฉบับอื่น มีสาระสอนใจเป็นเรื่องมิตรภาพระหว่างคน 2 วัย คือ ยายทองใบและเด็กหญิงสร้อย เนื้อหาสอนเรื่องความซื่อสัตย์ ความมีน้ำใจ ความรักในศักดิ์ศรี และการไม่ตัดสินคนด้วยรูปลักษณ์ภายนอกหรือแค่เสียงเล่าลือ และแม้ว่าจะมีรูปแบบอนุรักษ์นิยายภาพแบบไทย ๆ แต่การใช้เส้นสีและจัดองค์ประกอบภาพ ตัวละครและฉากดูดีมีชีวิตชีวาเข้ากับยุคสมัย จุดด้อยคือ ยังไม่มีการนำเสนอเรื่องหรือรูปแบบที่นำสมัยหรือสร้างสรรค์โดดเด่นเร้าใจ หรือนำเสนอแนวทางใหม่ ๆ ของการสร้างงานนิยายภาพ
กุหลาบในสวนเล็กๆ
ชมัยภร แสงกระจ่าง เขียนนวนิยายเรื่องนี้จากประวัติชีวิตและผลงานเขียนของคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ “ศรีบูรพา” นักคิดนักเขียนที่ได้รับยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลดีเด่น และรวมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส 100 ปีชาติกาลในปี 2548 ที่ผ่านมา ผลงานต่าง ๆ ของศรีบูรพาทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย บทความ งานแปล และอื่น ๆ ล้วนแสดงให้เห็นว่า “อุดมการณ์” และ “คุณธรรมจริยธรรม” มีความหมาย ความสำคัญต่อการสร้างสังคมที่แสนงาม เพราะอุดมการณ์และคุณธรรมจริยธรรมเป็นสิ่งบ่งชี้ความเจริญทางจิตใจ จิตวิญญาณ และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ซึ่งความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุและเทคโนดลยีไม่อาจเทียบได้ ความเป็นกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ “ศรีบูรพา” คือความกล้าท้าทายอำนาจอันไม่เป็นธรรม ทำให้ผลงานของ “ศรีบูรพา” ยิ่งใหญ่และไม่ล้าสมัย แต่เพราะเหตุที่สังคมไทยมีวัฒนธรรมการอ่านอ่อนแอลงไปทุกที คนรุ่นใหม่จึงไม่ได้เรียนรู้เรื่องราวของบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมไทย และไม่ได้รับรู้คุณค่าของหนังสือดี ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ชมัยภร แสงกระจ่าง จึงทำหน้าที่เชื่อมต่อช่องว่างนี้ โดยนำประวัติและงานเขียนของ “ศรีบูรพา” มาร้อยเรียงเข้ากรับเรื่องราวของสังคมสมัยใหม่ เพื่อเป็นการสานต่ออุดมการณ์ความคิดของ “ศรีบูรพา” และแนะนำให้นักอ่านรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของผลงานเขียนของนักคิดแห่งสังคมไทย ข้อจำกัดของการที่ต้องนำข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับบุคคลและผลงานมาสร้าง ทำให้นวนิยายเรื่องกุหลาบในสวนเล็ก ๆ มีข้อมบกพร่องทางวรรณศิลป์อยู่บ้าง แต่กระนั้นความตั้งใจอของผู้เขียนที่จะเชื่อมโยงความคิดของคนรุ่นเก่ามาสู่คนรุ่นใหม่ ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ นวนิยายเรื่องกุหลาบในสวนเล็ก ทั้งชี้นำและทั้งเชิญชวนให้นักอ่านอยากรู้จัก “ศรีบูรพา” และผลงานประพันธ์ของเขาให้มากขึ้นกว่าที่ได้อ่านจากหนังสือเล่มนี้ นี่คือความสำเร็จของนวนิยายเรื่องกุหลาบในสวนเล็ก ๆ โดยแท้ ดังนั้น กุหลาบในสวนเล็ก ๆ ของชมัยภร แสงกระจ่าง จึงสมควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นหนังสือควรอ่านสำหรับนักเรียนและนักอ่านทั่วไป
ลับแลลายเมฆ
ลับแลลายเมฆ เป็นนวนิยายที่นำเสนอเรื่องผู้หญิงและเด็กถูกละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นประเด็นทางสังคมที่ร่วมสมัย เพราะเราจะได้ยินได้ฟังและได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้ทางสื่อมวลชนอยู่เสมอ นวนิยายเรื่องนี้กล่าวถึงเด็กสาวแสนสวย มีชีวิตที่อบอุ่น งดงาม อยู่ในความคุ้มครองอย่างทะนุถนอมของคุณปู่คุณย่าผู้มั่งคั่ง เธอมีคนรักเป็นหนุมหล่อร่ำรวย ฉลาดและเป็นสุภาพบุรุษ ความเหมาะสมลงตัวทุกประการราวสวรรค์สรรสร้างน่าจะทำให้ชีวิตคู่หลังแต่งงานกันมีความสุขสมบูรณ์ แต่หากเป็นเช่นนั้นนวนิยายเรื่องนี้คงไร้สาระสำหรับผู้อ่าน ท้องฟ้าที่ใสกระจ่างในตอนแรก เริ่มมีเมฆหมอกมาบดบัด เช่นเดียวกับเด็กสาวผู้มีชีวิตงดงามราวกับล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าสมตามชื่อของเธอ เมื่อเธอย่างสู่วัยสาวเต็มตัว ก็ราวกับมีผู้เลื่อนฉากลับแลที่บดบัดความจริงแห่งชีวิตออกไป ความทรงจำเก่า ๆ เริ่มผุดพรายขึ้นมาเป็นระยะเมื่อได้เห็นสิ่งที่กระตุ้นความรู้สึก เสียงกอไผ่เสียดสี อาวุธปืน แผงอกเปลือยเปล่า ภาพเลอะเลือน รูปเงาไร้ร้างก่อตัวทะมึนเหนือร่างเธอราวอสุรกาย รวมทั้งความรู้สึกหวาดกลัว ขยะแขยง และเกลียดชัด ที่พลุ่งขึ้นท่วมหัวใจ ทำให้เธอเกิดอาการกลัวอย่างรุนแรงจนแทบเสียสติ ร่างกายแข็งเกร็งไร้การควบคุม เธอเกิดอาการเช่นนี้ทุกครั้งที่กำลังจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคนรัก อาการและความรู้สึกนี้เป็นเช่นเดียวกับฝันร้ายในวัยเยาว์ที่คุณปู่คุณย่าเฝ้าเยียวยาปลุกปลอบจนฝันร้ายนั้นห่างไป แต่อันที่จริง ฝันร้ายนั้นถูกกลบฝังให้ตกตะกอนอยู่ในจิตใจใต้สำนึก รอเวลาที่จะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดกวนให้ขุ่นขึ้นมา ในที่สุดในวันแต่งงานหญิงสาวพบว่าภาพเลอะเลือนที่เธอเห็น แต่ความรู้สึกกลัวจับใจที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ฝันร้าย หากแต่เป็นความจริงที่ถูกกลบฝังอยู่ในความทรงจำก่อนเก่า เธอเริ่มจำประสบการณ์เลวร้ายซึ่งเกิดขึ้นกับตนเองได้ แต่ไม่ทั้งหมดและเมื่อติดตามสืบค้นต่อไปก่อพบความจริงที่โหดร้ายมากขึ้นที่เกิดขึ้นกับตัวเธอและครอบครัวของเธอ เรื่องราวของการล่วงละเมิดทางเพศไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวละครหลักเท่านั้น ตัวละครหญิงอีกหลายตัวในเรื่องประสบกับการละเมิดทางเพศในลักษณะต่าง ๆ กัน บ้างก็รอดพ้นการข่มขืนมาได้ แต่อับอายและเจ็บช้ำ บ้างก็ถูกข่มขืนแล้วฆ่า บ้างก็ฆ่าตัวตายในภายหลังเพราะความเปราะบางของวัยเยาว์ที่ไม่อาจต่อสู้กับโลกที่โหดร้ายได้ ตัวละครเอกซึมซับกับเรื่องราวของผู้หญิงเคราะห์ร้ายมากมายที่พึ่งพาการเยียวยาจากสมาคมที่เป็นองค์กรเอกชนซึ่งตั้งขึ้นเพื่อให้ความอนุเคราะห์แก่เพื่อนเพศหญิงด้วยกัน เธอจึงพบหนทางแห่งการใช้ชีวิตของเธอให้มีคุณค่าต่อตนเอง ต่อเพื่อนมนุษย์ และต่อสังคม ลับแลลายเมฆ เป็นทั้งนวนิยายเชิงจิตวิทยาและนวนิยายเชิงสังคม “ปิยะพร ศักดิ์เกษม” สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการบำบัดรักษาคนไข้ที่มีอาการป่วยทางจิตใจ ด้วยการรื้อฟื้นความจำเพื่อให้คนไข้เผชิญหน้ากับความจริงในชีวิต ไม่ใช่หลบหนีหลีกเร้นจนกลายเป็นเก็บกดความเป็นจริงนั้นไว้ให้เป็นแผลกลัดหนองในใจไม่มีวันหาย การรักษาทางแพทย์ด้วยวิธีทางจิตวิทยาจึงทำให้คนเหล่านั้นกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขตามเดิม และเนื่องจากอาการกลัวความสัมพันธ์ทางเพศเกิดจากการที่ตัวละครถูกข่มขืนซ้ำซากในวัยเด็กทำให้นวนิยายเรื่องนี้นำเสนอประเด็นทางสังคมถึงการกดขี่ทางเพศด้วย (Sexual Harassment) ไปจนถึงข่มขืน เรื่องค่านิยมของสังคมที่ยกย่องผู้ชายที่มีประสบการณ์ทางเพศมาก ๆ แต่เหยียดหยามผู้หญิงที่พลาดพลั้ง เรื่องระบบสังคม กฎหมาย และสื่อมวลชนที่ซ้ำเติมผู้หญิงที่เป็นเหยื่อทางเพศและที่สำคัญคือผู้หญิงที่เป็นเหยื่อทางเพศมักจะลงโทษตนเองด้วยความคิดว่าตนไม่มีคุณค่าอะไรเหลืออีกแล้ว นวนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ชี้กลวิธีในการแก้ปัญหาสังคมโดยตรง แต่ได้กระตุ้นให้คิดว่าผู้ชายไทยควรได้รับการปลูกฝังให้เคารพคุณค่าของเพศหญิง ในขณะเดียวกันผู้หญิงก็ควรได้รับการปลูกฝังให้รักตนเอง และสำนึกในคุณค่าของตนเองให้มากขึ้น นอกจากจุดเด่นในด้านเนื้อหาแล้ว นวนิยายเรื่องนี้ยังมีลักษณะเด่นทางวรรณศิลป์ ผู้เขียนวางโครงเรื่องได้กระชับ แต่มีความซับซ้อน ชวนให้ผู้อ่านติดตามความจริงที่ผู้เขียนเปิดเผยเป็นระยะ ๆ จนคลี่คลายหมดในตอนจบเรื่อง เนื่องจากเป็นนวนิยายที่มีสาระทางการแพทย์และสังคม ผู้เขียนได้ค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการอย่างมาก แต่ผู้เขียนก็นำมาย่อให้เข้าใจง่ายและสามารถสอดสลับไปกับเนื้อเรื่องได้อย่างกลมกลืน ไม่ทำลายรสวรรณศิลป์ของความเป็นนวนิยาย ลับแลลายเมฆ จึงเป็นนวนิยายที่มีคุณค่าในมิติทางสังคมและมิติทางวรรณกรรมอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ลับแลลายเมฆ ของ “ปิยะพร ศักดิ์เกษม” จึงสมควรได้รับรางวัลยอดเยี่ยม “เซเว่นบุ๊ค อวอร์ด” ประเภคนวนิยาย ประจำปี 2559 นี้
เอมอุทัยอิ่มฟ้า
แม้จะเป็นกวีหน้าใหม่ แต่นำเสนองานได้หลากหลาย ฉันทลักษณ์ถูกต้อง ทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ครบเครื่องเรื่องเสียดสี ชิ้นเชิงมีเสน่ห์
ที่ซึ่งขุนเขาทะลุเมฆ
ผู้ประพันธ์เป็นมือกลอนเก่า ลีลาการเขียนดี ลงตัว
การพังทลายของทางช้างเผือก
ผู้ประพันธ์มีความช่ำของในการประพันธ์กลอน ลีลาลงตัว คำกลอนโดนใจ ไม่เน้นสัมผัสใน แต่เน้นสัมผัสใจ มีวิธีการนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่ น่าสนใจ สะท้อนสภาวการณ์ที่ผู้เขียนได้ประสบมา