เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 15
ไม่อยากเก็บคุณไว้ในตู้เย็นตลอดไป
ไม่อยากเก็บคุณไว้ในตู้เย็นตลอดไป เป็นหนังสือการ์ตูนที่มีภาพวาด มีสไตล์สวยงามเป็นสากล เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดความนึกคิดของผู้หญิงคนหนึ่ง บอกเล่าอารมณ์ความสุขในวัยเด็ก ซึ่งมีความประทับใจและไม่เคยลืมผ่านตุ๊กตาหิมะ เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เธอต้องปรับตัวให้เข้ากับ สังคมการงาน และความรู้สึกของตัวเอง สิ่งแวดล้อมและผู้คนใหม่ ๆ ทำให้เธอต้องถามและตอบคำถามของตัวเอง คอยเตือนและสร้างกำลังใจให้ตนเอง เป็นหนังสือการ์ตูนที่สร้างสรรค์ให้เกิดกำลังใจในการพัฒนาจิตและอารมณ์ ให้รู้จักตนเอง และตระหนักถึงความสุข ความฝันแต่ละช่วงวัย ดังนัน ไม่อยากเก็บคุณไว้ในตู้เย็นตลอดไป ของ Noetta จึงสมควรได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดนิยายภาพ (การ์ตูน) ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๑
ในชายคามาตุภูมิเรา
รวมบทกวี ในชายคามาตุภูมิเรา โดย ชาตรี อรุณพัด มีเนื้อหาสะท้อนภาพความอบอุ่น สายใยในอ้อมกอดแห่งธรรมชาติและชนบทที่ถึงแม้มีความขัดสน ขาดแคลนและปัญหาความสงบสุขในบางพื้นที่ แต่ก็เป็นต้นทุนแห่งความรู้สึกภายในให้เกิดความหวังและคะนึงหา นอกจากนี้ ในชายคามาตุภูมิเรา ยังเสนอการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจากแรงกระเพื่อมของการพัฒนา ขณะเดียวกันความเป็นสังคมชายขอบยังมีเรื่องราวของตนเองที่แนบชิดกับวิถีชีวิตและธรรมชาติ ซึ่งควรค่าแก่การจดจำ ทั้งยังเป็นที่หวัง และเป็นที่พักปลายทางอย่างอบอุ่นของชีวิต ดังนั้น ในชายคามาตุภูมิเรา ของ ชาตรี อรุณพัด จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2561
แท้ธารมิอาจกั้น
กวีนิพนธ์คัดสรรแท้ธารมิอาจกั้น ของ นนทพัทธ์ หิรัญเรือง แบ่งเป็น 3 ภาค คือ คลื่นเกลียว เชี่ยวกรากและฟากธงสันติธรรม ในภาคคลื่นเกลียว นำเสนอเรื่องราวจากประสบการณ์การเป็นครูตั้งแต่เป็นครูฝึกสอน โดยให้ความสำคัญกับอาชีพที่มีหน้าที่อบรมบ่มเพาะเด็ก อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์ทัศนคติเชิงลบที่ครูมองว่าศิษย์ “โง่เหมือนควาย” ในบท “ถึงครูผู้ต้อนควาย” นอกจากนี้ยังเน้นถึงความสำคัญของพ่อแม่ที่ต้องดูแลเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิด ในภาค “เชี่ยวกราก” นำเสนอเรื่องราวความเป็นไปในสังคม เช่น เรื่องราวของชาวนาที่เป็นนักอ่านแม้ว่าจะเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจ ความรุนแรงทางภาคใต้ที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตรวมทั้งครู ในภาค “ฟากธงสันติธรรม” นำเสนอแนวคิดเรื่องสันติสุข การยอมรับความแตกต่างทางชาติพันธุ์และการใช้วิจารณญาณในการเข้าใจชีวิตและโลก เน้นย้ำความสำคัญของการมีปณิธานในชีวิตแม้ว่าจะมีปัญหาและอุปสรรค หากมุ่งมั่นแล้ว คงไม่มีสายธารใดจะมาขวางกั้นได้ ด้านศิลปะการประพันธ์ ส่วนใหญ่ใช้กลอนสุภาพ และยังใช้โคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ความ โดดเด่นของรวมบทกวีเรื่องนี้คือการนำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจและการวิพากษ์ปัญหาสังคมและทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง บางบทสามารถสื่อเรื่องราวได้อย่างสะเทือนอารมณ์ เช่น บท “ระยะห่างบนโต๊ะกินข้าวของแม่” เป็นต้น ดังนั้น แท้ธารมิอาจกั้น ของ นนทพัทธ์ หิรัญเรือง จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2561
โลกประจำตัว
โลกประจำตัว ผลงานการประพันธ์ของ รัฐ ปัญเจียง ประกอบด้วยฉันทลักษณ์เป็นกลอนแปดตลอดทั้งเรื่อง โดยแบ่งเนื้อหาสาระออกเป็น 13 หัวเรื่อง ความยาว 128 บท นับเป็นงานร้อยกรองที่ครบถ้วนด้วยองค์ประกอบของวรรณศิลป์ ฉันทลักษณ์ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด มีความไพเราะสละสลวย ถ้อยคำที่นำเสนอถูกต้องเหมาะสมตามหลักภาษาไทย ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดได้อย่างมีสุนทรียภาพ ให้อารมณ์และความรู้สึก ด้านเนื้อหาสาระเป็นแรงบันดาลใจจากสภาพสังคมทั่วไปในยุคปัจจุบัน บูรณาการเข้ากับความรู้สึกนึกคิดจากประสบการณ์ของตนเอง ตั้งชื่อหัวเรื่องได้อย่างมีเสน่ห์น่าสนใจ เช่น หนังสือหนักเป็นนักหนา อย่าเกลียดสีของฟ้าเมื่อฟ้าค่ำ ก่อนหัวใจกลายเป็นหิน กระจกกั้นโลก อาณาจักรของแม่ เป็นต้น ผู้เขียนพยายามสะท้อนปรากฏการณ์ในชีวิต นำเสนอความคิดใหม่ที่เป็นของตนเองได้อย่างน่าสนใจ นับเป็นงานกวีนิพนธ์ที่น่าอ่านในระดับเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง คณะกรรมการจึงเห็นสมควรให้ โลกประจำตัว ของ รัฐ ปัญเจียง ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัล เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรางวัลนักเขียนรุ่นเยาว์ หมวดกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2561
มนุษย์กรุงเทพ
มนุษย์กรุงเทพฯ มีวิธีนำเสนอที่แปลกใหม่ ได้แรงบันดาลใจจากเพจดังของต่างประเทศเป็นบทสัมภาษณ์ผู้คนของกรุงเทพฯ ในหลากแง่มุม สะท้อนความทุกข์ ความสุข และให้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ แก่ผู้อ่าน
พะเลอโดะ แห่งป่าแม่เงา
พะเลอโดะแห่งป่าแม่เงา ให้แง่คิดในด้านการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย กลมกลืนสอดคล้อง กับธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มานะอดทน มั่นคงในจิตใจ ไม่เอนไปตามกระแสแห่งความโลภ ด้วยภาษาสละสลวยกระชับ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนลึกซิ้งและมีอารมณ์ร่วม
ตาสว่างกับรัชกาลที่ 4
ตาสว่างกับรัชกาลที่๔ เป็นสารคดีเชิงวิเคราะห์พระราโชบายในรัชกาลที่ C แสดงให้เห็น ถึงพระปรีชาสามารถในการรักษาเอกราชของชาติจากหลากแง่มุม ทั้งการเมืองการปกครองและวิทยาศาสตร์ ผ่านการนำเสนออย่างมีชั้นเชิงทางวรรณศิลป์
ความสุข ความทรงจำ ในรัชกาลที่ 9
ความสุข ความทรงจำ ในรัชกาลที่ นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงทุ่มเทพระราชหฤทัย ทรงงานเพื่ออาณาประชาราษฎร์ นำเสนอ ด้วยภาษาสำนวนเรียบง่ายแต่งดงาม
2310 อวสานกรุงศรีฯ
๒๓๑๐ อวสานกรุงศรีฯ ของ สุเจน กรรพฤทธิ์ เป็นสารคดีเชิงประวัติศาสตร์ที่เป็ดองค์ความรู้ใหม่ในเรื่องที่ผู้อ่านอาจคุ้นเคย แต่เนื่องจากมีหลักฐานและการตีความใหม่เกี่ยวกับกรณีเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง การที่ผู้เขียนเลือกนำเสนอเรื่องนี้ ถือเป็นความกล้าหาญและเป็นก้าวสำคัญในวงการประวัติศาสตร์ ด้วยสำนวนการเขียนที่ตรงไปตรงมาและให้ข้อมูลพร้อมการวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือและอ่านสนุกไปพร้อมกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวคณะกรรมการจึงมีมติให้ ๒๓๑๐ อวสานกรุงศรีฯ ของ สุเจน กรรพฤหธิ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑
หิมาลัยไม่มีจริง
หิมาลัยไม่มีจริง ของ นิ้วกลม เป็นหนังสือที่เล่าถึงการเดินทางภายนอก คือการเดินทาง สู่เอเวอเรสต์เบสแคมป์บนเทือกเขาหิมาลัย ผสานไปกับการเดินทางภายในเพื่อไปสู่ความว่างเปล่าหลุดพ้น การเดินทางสองด้านนีคู่ขนานล้อเคียงกันไปตลอดทาง ทำให้เราเห็นว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และได้สำรวจตรวจสอบตัวเองเพื่อหาคำตอบว่าคุณค่าของชีวิตที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ผ่านการเดินทาง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่การใช้ภาษาเรียบง่ายแต่งดงามเพื่อบรรยาย ถึงการเดินทางทั้งภายนอกและภายใน ด้วยเหตุผลดังกล่าวคณะกรรมการจึงมีมติให้ หิมาลัยไม่มีจริง ของ นิ้วกลม ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๑ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑
City Sight เมืองที่มองไม่เห็น
CITY SIGHT เมืองที่มองไม่เห็น ของ สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ เป็นหนังสือที่โดดเด่นเนื่องจากนำเสนอปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย แต่เกี่ยวพันกับชีวิตของคนเมืองสมัยไหม่ให้แง่คิดปลุกเร้าเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตกับสิ่งรอบตัวสะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงที่ขาดความเคารพต่อธรรมชาติและผู้อื่น ใช้เทคนิควิภาษวิธีชวนถกเถียงเพื่อนำไปสู่ความจริงและวิธีแก้ไขปัญหา โดยใช้ภาษาเขียนเรียบง่าย สั้นกระชับได้ใจความมีน้ำเสียงทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการผสมผสานกัน บอกเล่าเรื่องราวเชิงวิชาการให้เข้าใจง่ายและอ่านสนุก ด้วยเหตุผลดังกล่าวคณะกรรมการจึงมีมตีให้ CITY SIGHT เมืองที่มองไม่เห็น ของสรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทสารคดี ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๑
บึงน้ำแห้ง
บึงน้ำแห้ง เป็นเรื่องราวของลูกนกเป็ดน้ำที่ต้องผจญภัยแล้ง ณ บึงใหญ่แห่งหนึ่งทางภาคอีสาน ผู้เขียนได้ศึกษาธรรมชาติของนกเป็ดน้ำ นกชนิดอื่น ๆ ตลอดจนสัตว์ต่าง ๆ และต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่บริเวณบึงน้ำ นำมาผูกเป็นตัวละคร การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างกลมกลืน ชวนติดตาม และคลี่คลายสู่การจบเรื่องได้อย่างลงตัว บึงน้ำแห้ง เป็นวรรณกรรมที่อ่านสนุก ได้ความรู้เรื่องนกเป็ดน้ำ นกชนิดอื่น และสัตว์อื่น ๆ ทำให้เข้าใจถึงสภาพแวดล้อม สภาพชีวิตของพืชและสัตว์ที่ต่างก็มีวิถีการดำเนินชีวิตของตน แต่ก็ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน ให้ข้อคิดในการร่วมกันรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรให้หนังสือเรื่อง บึงน้ำแห้ง ของ โชติ ศรีสุวรรณ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำปีพุทธศักราช 2561
โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!)
โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ถ่ายทอดชีวิตของเด็ก ๆ โดยเฉพาะตัวละครเอก มดแดง แตงกวา และเอย ที่ครอบครัวหนีความวุ่นวายในกรุงเทพมหานครมาใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติตามวิถีเกษตรอินทรีย์ ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ผู้เขียน งามพรรณ เวชชาชีวะ เน้นให้เห็นความสำคัญของธรรมชาติ ที่มนุษย์เริ่มถอยห่างออกไปอย่างน่าตกใจ ผู้เขียนให้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์และข้อคิดในการใช้สื่อออนไลน์และเทคโนโลยีที่มิใช่จะมีแต่ในเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น ปัจจุบันคนในชนบทก็เข้าถึงและใช้ศึกษาค้นคว้าได้ ผู้เขียนนำเสนอเนื้อเรื่องด้วยสำนวนภาษาสละสลวย อ่านง่าย ชวนติดตาม ภาพประกอบสวยงามเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง นับว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่มีคุณภาพเล่มหนึ่ง คณะกรรมการจึงเห็นสมควรให้ โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำปีพุทธศักราช 2561
อัศวินอุตุกับปีศาจทั้ง 8
อัศวินอุตุกับปีศาจทั้ง 8 เป็นบันเทิงคดีแนวจินตนาการอิงหลักธรรมะ ตัวเอกของเรื่อง คือ อัศวินอุตุ ในวัยเด็กมีนิสัยชอบนอน หลังจากได้ฟังแม่เล่านิทานเรื่อง 8 ปีศาจแห่งอนิจจอาณาจักร ก็เปลี่ยนเป็นเด็กที่มีความกระตือรือร้น รักการต่อสู้ ผจญภัย และมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น เขาอ่านนิทานเรื่องนี้ซ้ำ ๆ ใฝ่ฝันที่จะปราบปีศาจทั้ง 8 มาตั้งแต่นั้น เมื่อเติบโตเข้ารับราชการได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวิน รู้ว่าปีศาจทั้ง 8 มีอยู่จริง และกำลังสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน จึงออกปราบปีศาจ โดยได้รับความช่วยเหลือจากปู่ปัญญ์ ปราชญ์แห่งอนิจจอาณาจักร ผู้เขียนได้นำลักษณะนิสัยของมนุษย์ 8 อย่าง อันได้แก่ โมโห ซึมเศร้า โลภ ขี้เกียจ ขี้ขลาด อิจฉา แล้งน้ำใจ อัตตาสูง มาสร้างเป็นตัวละครปีศาจทั้ง 8 ตั้งชื่อปีศาจโดยนำลักษณะของดวงตาสื่อถึงนิสัยของปีศาจแต่ละตน ได้แก่ ปีศาจตาแดง ปีศาจตาซึม ปีศาจตาวาว ปีศาจตาปรือ ปีศาจตาร้อน ปีศาจตาขาว และปีศาจตาบอด การปราบปีศาจแต่ละตนมีกระบวนการเป็นขั้นตอน โดยศึกษาข้อมูลลักษณะที่อยู่ ร่างที่อาศัย ลักษณะนิสัย และจุดแข็ง จุดอ่อนของปีศาจแต่ละตนอย่างดี โดยมีข้อคิดว่าของวิเศษต่าง ๆ ของปู่ปัญญ์จะไม่มีอิทธิฤทธิ์ใด ๆ ถ้าใช้โดยขาดสติและสมาธิ การนำเสนอเรื่องสอดแทรกแก่นธรรมะได้อย่างแนบเนียน ได้ข้อคิด หลักธรรม ช่วยให้เข้าใจตนเอง และพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น ตระหนักรู้ว่าปีศาจทั้งหลายนั้นล้วนเกิดจากเราเป็นผู้สร้างขึ้นเอง การกำจัดให้สิ้นไปจึงขึ้นอยู่กับการควบคุมตนเองให้มีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ด้วยความโดดเด่นในการนำเสนอเรื่องที่มีแก่นธรรมะที่เข้าใจง่าย การดำเนินเรื่องที่สนุกสนาน เพลิดเพลิน ชวนติดตามด้วยสำนวนภาษากระชับสละสลวย อัศวินอุตุกับปีศาจทั้ง 8 ของ ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร จึงสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นหนังสือดีเด่นรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทวรรณกรรมสำหรับเยาวชน ประจำปีพุทธศักราช 2561
เด็กชายที่ปลอมตัวเป็นหนังสือ ดอกไม้ และอื่น ๆ
เด็กชายที่ปลอมตัวเป็นหนังสือ ดอกไม้ และอื่นๆ เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น 8 เรื่องของปะการัง ที่นำเสนอเรื่องราวของเด็ก ๆ ในครอบครัวที่มีหลายลักษณะ บางคนเป็นเด็กพิเศษที่มีโลกส่วนตัวเฉพาะ โดยแต่ละเรื่องแสดงถึงความฝันและความจริงใจ เป็นจินตนาการที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ซึ่งผู้ใหญ่อาจ ละเลยไม่เข้าใจ แต่กลับกำหนดกฎเกณฑ์ให้เด็กประพฤติปฏิบัติไปตามกรอบของตน รวมเรื่องสั้นชุดนี้แม้มีตัวละครสำคัญเป็นเด็ก แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่จะได้รำลึก ทบทวนและเข้าใจจินตนาการ ความฝันในวัยเด็ก โดยผู้เขียนบอกเล่าเรื่องราว ด้วยลีลาการเขียนที่ง่ายและงดงาม หนังสือรวมเรื่องสั้น เด็กชายที่ปลอมตัวเป็นหนังสือ ดอกไม้ และอื่น ๆ จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช 2561
ลืมตาตื่นอีกครั้ง…ในเวลาอันสมควร
หนังสือรวมเรื่องสั้น ลืมตาตื่นอีกครั้ง…ในเวลาอันสมควร ของ ปองวุฒิ รุจิระชาคร จำนวน 12 เรื่องมีเนื้อหาและกลวิธีการนำเสนอหลากหลาย ทุกเรื่องผู้เขียนใช้ภาษาสั้น กระชับ โดยเล่าเรื่องที่ให้ภาพคมชัด บางเรื่องสื่อความหมายได้หลายนัย บางเรื่องนำเสนอในแง่มุมด้วยวิธีการเขียนเสียดสี ยั่วล้อ สอดแทรกอารมณ์ขันและให้ข้อคิดอย่างน่าสนใจ เรื่องสั้นชุดนี้ ได้ส่งสารแสดงทัศนะที่เกิดจากการมองสังคมไทยที่กำลังแปรเปลี่ยนโฉมหน้า ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ สังคม การเมือง ครอบครัว ฯลฯ และยังกล่าวถึงสังคมในอนาคต และการปรับตัวของผู้คนในสังคมให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยมีกลวิธี หรือชั้นเชิงในการเล่าเรื่องอย่างมีวรรณศิลป์ชวนติดตาม หนังสือรวมเรื่องสั้น ลืมตาตื่นอีกครั้ง…ในเวลาอันสมควร จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทรวมเรื่องสั้น ประจำปีพุทธศักราช 2561
พระเจ้า 500 ชาติ
เนื้อหาเป็นเรื่องอดีตชาติของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เช่น พรหม เทวดา มนุษย์ ราชสีห์ พญาช้าง เพื่อบำเพ็ญบารมีในแต่ละชาติพระองค์ต้องประสบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย พระองค์ได้ใช้คติธรรมและสติปัญญาเป็นแก่นในการแก้ปัญหา ซึ่งคติธรรมเหล่านี้ ผู้อ่านสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ฝีมือการวาดภาพ ออกแบบรักษารูปแบบลายเส้นไทยโบราณ เหมาะสมด้วยเนื้อเรื่อง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การจัดองค์ประกอบแต่ละตอนเหมาะสมกับเนื้อหา คณะกรรมการจึงเห็นสมควรให้พระเจ้า 500 ชาติได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊ค อวอร์ด ประเภทนิยายภาพ (การ์ตูน) ประจำปีพุทธศักราช 2561
ผีเทศกาล
เป็นหนังสือการ์ตูนที่มีรูปแบบลายเส้นสวยงามตามสมัยนิยม นำเรื่องราวของผีเทศกาลจากหลาย ๆ ประเทศมาถ่ายทอดได้ดี สนุก และมีจินตนาการ แม้จะเป็นเรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องราวที่เกิดจากความเชื่อความศรัทธา ซึ่งผูกพันเกี่ยวข้องกับศาสนา และวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมผลงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมประเพณี ผู้เขียน ผีเทศกาลใช้เรื่องเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วมาเป็นพื้นฐาน มาสร้างสรรค์โดยใช้จินตนาการเฉพาะตัว เล่าเรื่องด้วยภาพและคำได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ บุคลิกและลักษณะของตัวละครทุกตัวเป็นไปอย่างสมจริง และปรากฏตามที่สิรินมองเห็น คณะกรรมการจึงเห็นสมควรให้ผีเทศกาล ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนิยายภาพ (การ์ตูน) ประจำปีพุทธศักราช 2561
The thing behind that door ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
งานประพันธ์และงานการ์ตูนเริ่มต้นด้วยการสร้างโครงเรื่อง แล้วจินตนาการสร้างความสมจริง งานประพันธ์ใช้อักษรเล่าเรื่อง งานการ์ตูนใช้ภาพเล่าเรื่อง การ์ตูนเรื่อง ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน THE THINGS BEHIND THAT DOOR เรื่องและภาพโดย คัจฉกุล แก้วเกต เป็นเรื่องของเด็กหญิงคนหนึ่ง พบว่าเบื้องต้นในห้องของเธอมีช่องประตูลับซ่อนอยู่ เบื้องหลังประตูลับมีตัวประหลาดอาศัยมากมาย เธอนำเรื่องที่พบเห็นไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง แต่ท่านไม่เชื่อ ไปเล่าให้เพื่อนในโรงเรียนฟังกลับไม่มีใครเชื่อ เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในประตูนั้นเพียงผู้เดียว และพบความเป็นจริงในชีวิตที่หลากหลาย เช่น มิตรภาพอันแท้จริงจากรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว ได้พบการลาจากเสมือนเป็นเงาอันมืดมิดปิดกั้นความมีชีวิตอันสดใสทั้งหมด แต่ในความมืดก็ยังมีประกายความสุขและความดีงามเรืองรองให้ได้สัมผัส แม้กระทั่งการจากลาชั่วนิรันดร์ก็ยังมาถึงเด็กหญิงตัวน้อย ท่ามกลางการไหลเลื่อนของกาลเวลาซึ่งแปรเปลี่ยนความเป็นเด็กสู่วัยหนุ่มสาวพร้อมกับความผิดหวัง-สมหวังสารพัด ก็ใช่ว่าในโลกกว้างจะไม่มีเพื่อนซึ่งเข้าใจในวิถีชีวิตอลวนและยินดีที่จะยืนหยัดเคียงข้างตลอดไป คัจฉกุลสร้างเรื่องให้เกิดแง่คิดได้หลายแง่มุม เป็นการนำความเป็นจริงของชีวิตมาผสมผสาน กับทางออกจากหล่มด้านมืดของมนุษย์อย่างคมคายและลึกซึ้ง การสร้างภาพกลมกลืนกับจินตนาการและจุดประสงค์ในการนำเสนอ กลบเกลื่อนความรุนแรงด้วยความอ่อนโยนอย่างมีศิลปะ ความโดดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ที่การชี้นำให้เกิดความสะเทือนใจ และการยอมรับสัจธรรมในรูปลักษณะ “มันเป็นเช่นนี้เอง” … คณะกรรมการจึงเห็นสมควรให้ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน THE THINGS BEHIND THAT DOOR ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนิยายภาพ (การ์ตูน) ประจำปีพุทธศักราช 2561
คนในนิทาน
เบื้องหลังนิทานซึ่งทำหน้าที่สร้างความบันเทิงให้ผู้คนในสังคม บ่อยครั้งมักมาจากชีวิตจริงของบุคคลที่มีเลือดเนื้อ คนในนิทาน ของ กร ศิริวัฒโณ คือนวนิยายย้อนยุคสังคมเกษตรกรรมแบบจารีตประเพณี (Peasant Society) ที่ผู้เขียนจงใจแตะต้องและตั้งคำถามต่อประเด็นเรื่องเพศอันล่อแหลม ดำฤษณาคือแรงขับเคลื่อนของสรรพสัตว์ หากแต่การตอบสนองความปรารถนาดังกล่าวในสังคมมนุษย์มักอยู่ภายใต้กรอบของกฎกติกา การเบี่ยงเบนจาก “รีตรอย” นำไปสู่การประณามหยามหยันตีตราว่าวิปริตวิตถาร ปมความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างพ่อตากับลูกเขยในเรื่องเล่าขำขันฉบับนี้เบื้องหลังคือเรื่องราวขมขื่นของผู้เพลี่ยงพล้ำต่อการสนองตัณหาซ่อนเร้นในหนทางที่สังคมไม่ยอมรับ ทางออกและการคลี่คลายดำเนินผ่านฉากชีวิตในชนบทที่สอดแทรกความรู้เรื่องการทำมาหากิน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และกลวิธีในการประสานตำนานและเกร็ดเรื่องเล่าเข้าเป็นส่วนหนึ่งอย่าง แยบยล นอกเหนือจากคุณค่าเชิงนวนิยายแล้ว คนในนิทานยังทำหน้าที่เป็นบทบันทึกทางสังคมที่มีคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์และมานุษยวิทยาอีกโสดหนึ่งด้วย คณะกรรมการจึงมีมติให้นวนิยายเรื่องนี้ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช 2561
นี่คือสิ่งสำคัญ
นี่คือสิ่งสำคัญ เป็นนวนิยายตลกร้ายเสียดสีทุนนิยมสมัยใหม่ ภานุมาศ ทองธนากุล ชี้ให้เห็นทุนนิยมแบบผูกขาด ทุนนิยมแบบขายตรง และทุนนิยมข้ามชาติ ระบบทุนนิยมเข้าครอบงำชีวิตมนุษย์ทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค อุปโภค หรือแม้แต่สุขภาพ ผู้เขียนพาผู้อ่านไปพบกับ “วินัย” มนุษย์เงินเดือนผู้มีชีวิตอย่างซังกะตาย แต่แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์เหลือเชื่อแสนมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับเขาทีละเรื่อง ๆ แต่ละเรื่องล้วนนำไปสู่จุดที่วินัยอาจถึงทางตัน ท้ายที่สุดเขาก็กลับพลิกผันจนสามารถอยู่กับสังคมทุนนิยมได้ จุดเด่นของนวนิยายเรื่องนี้อยู่ที่การผูกเรื่องที่ซ่อนทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) ไว้เบื้องหลังและยั่วล้อสังคมบริโภคด้วยจินตนาการอันน่าทึ่ง ไปจนถึงลีลาการใช้ภาษาที่เจือไปด้วย อารมณ์ขัน และกระตุ้นให้คิดไปพร้อม ๆ กัน ตั้งแต่ชื่อเรื่องที่จงใจใช้คำพ้องเสียง “นี่คือสิ่งสำคัญ” เล่นความหมายให้พลิกผันจาก “หนี้คือสิ่งสำคัญ” การตั้งชื่อตัวละครและสถานที่ต่าง ๆ ให้ล้อกับชื่อที่ปรากฏในสังคม ตลอดจนการเสียดเย้ยสังคมอย่างสนุกสนาน ทั้งหมดนำไปสู่คำตอบว่าความสุขที่แท้จริงของชีวิตอยู่ที่การรู้เท่าทันระบบทุนนิยม คณะกรรมการจึงมีมติให้นวนิยายเรื่องนี้ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช 2561
ในกับดักและกลางวงล้อม
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องเล่าชีวิตของคนจับปลาในท้องทะเลลึก นักอ่านก็จะนึกถึงชื่อ ประชาคม ลุนาชัย ผู้เขียนนวนิยายฝั่งแสงจันทร์ คนข้ามฝัน กลางทะเลลึก เที่ยวเรือสุดท้าย นวนิยายเรื่อง ในกับดักและกลางวงล้อม แสดงฝีมือและประสบการณ์อันตกผลึกแล้วของผู้เขียน ชีวิตลูกเรือจับปลากลางทะเลใน นวนิยายเรื่องนี้ฉีกแนวไปจากเรื่องเดิม ๆ เพราะตัวละครกว่าครึ่งบนเรือหาปลาลำนี้เป็นผู้บกพร่องทางร่างกาย ทั้งตาบอดข้างเดียว ตาเหล่ ขาขาด นิ้วขาด แขนคด นอกจากนี้แทบทุกคนไม่มีประสบการณ์ในการเดินเรือจับปลากลางมหาสมุทรมาก่อน ไม่เว้นแม้แต่ไต้ก๋งที่กว่าจะเรียนรู้สัญญาณโซน่าช่วยหาฝูงปลาก็สาวอวนได้ท่อนไม้มาเสียหลายครั้ง และจุมโพ่ที่ทำอาหารไม่เป็นแต่อยากได้งาน ตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกโดดเด่นชัดเจน และมีพัฒนาการที่เกิดจากประสบการณ์ชีวิต เห็นชัดว่าผู้เขียนพยายามถอยห่างจากเรื่อง จนแทบไม่ปรากฏเงาร่างของผู้เขียน แต่มุ่งนำเสนอเรื่องราวของนักสู้ชีวิตเหล่านี้อย่างสมจริง ไม่มีใครเป็นพระเอก ทุกคนล้วนเป็นตัวเอกที่ช่วยกันขับเคลื่อนนาวากลางสมุทรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอาชีพและบรรลุความฝัน ยาเสพติด การพนัน และผู้หญิงบนฝั่ง เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกเรือประมง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกับดักที่ทำลายอนาคตและความใฝ่ฝัน ฝูงปลาที่ตกอยู่ในวงล้อมของอวนไม่ต่างจากพวกเขาที่ตกอยู่ในวงล้อมและกับดักของงานหนักและการเสี่ยงกับโชคชะตา แต่พวกเขาก็ฝ่าฟันมาได้ด้วยแรงกายเท่าที่มี แรงใจที่เข้มแข็ง และการล่มหัวจมท้ายด้วยกัน ที่สำคัญคือรได้เรียนรู้ว่าการสู้ชีวิตให้พ้นกับดักและวงล้อมไปสู่อิสรภาพและเป็นนายตนเองนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ดังที่ไต้ก๋งกล่าวในท้ายสุดว่า “ที่จะล้อมปลาให้อยู่หมัด ไม่ใช่เพียงแค่เรือหรืออวน หากยังรวมถึงสติปัญญา ความสามารถ ประสบการณ์ และภูมิรู้ทั้งหมดทั้งมวล…” แม้เรือหาปลาจะเทียบฝั่งแล้ว แต่นาวาชีวิตของแต่ละคนยังโลดแล่นฝ่าคลื่นลมในมหาสมุทรชีวิตตามทิศทางของตนต่อไป ด้วยความโดดเด่นด้านเนื้อหาสาระ ข้อคิด และชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ คณะกรรมการจึงมีมติให้ในกับดักและกลางวงล้อม ของ ประชาคม ลุนาชัย ได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทนวนิยาย ประจำปีพุทธศักราช 2561
สวนดวงใจ
รวมบทกวี สวนดวงใจ ของ ลอง จ้องรวี เป็นบทกวีมีเนื้อหาสะท้อนภาพความหลังที่ยังประทับอยู่ในความทรงจำของกวี เป็นภาพความสุขอันเกิดจากชีวิตเรียบง่ายในชุมชนท้องถิ่นบ้านเกิดของกวี โดยเล่าเรื่องความประทับใจผ่านวิถีชีวิตดั้งเดิม ที่ผู้คนหาอยู่หากินและมีความสุขตามสภาพแวดล้อม ทั้งจากพืชผักสวนครัวที่มีอยู่มากมายริมรั้วบ้าน การแลกเปลี่ยนข้าวปลาอาหารแบบชุมชนบุพกาล ภาพข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อนซึ่งเป็นความทรงจำอันล้ำค่า ตลอดจนการพักผ่อนหย่อนใจจากมหรสพพื้นบ้าน ซึ่งกวีมีน้ำเสียง ชื่นชมความเรียบง่ายดังกล่าว ขณะที่ห่วงกังวลถึงความเปลี่ยนแปลงแบบสมัยใหม่ที่เริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามาในชุมชนดั้งเดิม ด้านกลวิธีการประพันธ์ กวีมีความสามารถในการสรรคำมาใช้ได้อย่างเหมาะงาม มีคำที่ต้องการสื่อถึงการโหยหาอดีตอย่างคำว่า วัยเยาว์ ความหลัง บ้านเก่า ฯลฯ ซ้ำ ๆ กันอยู่หลายแห่ง เพื่อมุ่งหมายจะช่วยให้ขับเน้นแนวคิดหลักของเล่มให้เด่นชัด ขณะเดียวกันชุดคำดังกล่าวก็อาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อน และลดทอนความรู้สึกประทับใจลงไปได้บ้างเช่นกัน ดังนั้น รวมบทกวี สวนดวงใจ ของ ลอง จ้องรวี จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2561
นัยน์ตาฤดูกาล
รวมบทกวี นัยน์ตาฤดูกาล ของ โขงรัก คำไพโรจน์ ประพันธ์ด้วยกลอนสุภาพ บันทึกเรื่องราวธรรมชาติและชีวิตที่กวีเฝ้ามองผ่าน “นัยน์ตา” ที่มิได้มองเห็นเพียงรูปธรรมภายนอกของสรรพสิ่ง หากยังเพ่งมองไปถึงนามธรรมหรือแง่คิดจากภาพที่มองเห็นเหล่านั้น จดจารเรื่องราวและความรู้สึก นึก คิดของกวีเป็นบทกวีที่เล่าเรื่องราวหลากหลายแตกต่างของผู้คนแต่ละอาชีพ ทั้งในชนบทและเมือง ด้วยน้ำเสียง ลีลาทางวรรณศิลป์ที่เรียบง่าย ทั้งอ่อนหวาน โศกเศร้า ขันขื่น สนุกสนาน สร้างอารมณ์ขันและรอยยิ้มให้ผู้อ่าน เนื้อหาแบ่งเป็น 2 ภาค คือภาคแรก สัจธรรมของธรรมชาติ นำเสนอธรรมชาติที่หลากหลายตามพื้นที่และฤดูกาล ภาพธรรมชาติในชนบทที่เปลี่ยนแปลง วิถีชีวิตของผู้คนและสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่เพ่งพินิจจาก “นัยน์ตา” ซึ่งเห็นทั้งโลกภายนอกและโลกภายในของกวีเอง ภาคหลัง ศาสตร์และศิลป์แห่งชีวิต นำเสนอวิถีชีวิตของผู้คนที่หลากหลายแตกต่าง โดยนำเสนอเรื่องเล่าที่มีโครงเรื่อง ตัวละคร การดำเนินเรื่องชวนติดตามและโดดเด่นด้วยการเล่นคำ เล่นความ ผ่านมุมมองด้วยผัสสารมณ์ แห่งรูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัสผ่าน “นัยน์ตา” เฉพาะตนของกวี “แต่ละช่วงเวลาพาสัมผัส ชีวทัศน์ โลกทัศน์ วนผลัดเปลี่ยน ตามกาละขณะจ้องมองหมุนเวียน เปิดใจเรียนรู้ผ่านการเดินทาง” ด้านศิลปะการประพันธ์ ลีลากลอนลื่นไหล เรียงร้อยด้วยสัมผัสตามขนบทางวรรณศิลป์ ใช้การเล่นคำ เล่นความ หลายเรื่องใช้กลวิธีการเล่าเรื่องแบบเรื่องสั้น ทำให้เนื้อเรื่องชวนติดตามและนำเสนอแง่คิดที่น่าสนใจ ดังนั้น รวมบทกวีนัยน์ตาแห่งฤดูกาล ของ โขงรัก คำไพโรจน์ จึงสมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2561
ใจปัจจุบัน
รวมบทกวีชุด ใจปัจจุบัน ของ ‘กุดจี่’ พรชัย แสนยะมูล เนื้อหาที่นำเสนอส่วนใหญ่เป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น การใช้ชีวิตของตนและคนในครอบครัว แม้ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องปัจเจก แต่สามารถปรับใช้กับ “ชีวิตใครก็ได้” กวีถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนุ่ม งดงามเป็นธรรมชาติ เรื่องราวเหล่านี้เกิดจากการเฝ้ามองอย่างสังเกตสังกา ทำให้ผู้อ่านได้ฉุกคิดว่าผู้คนยุคปัจจุบันมักมองไกลตัว ซึ่งสับสนวุ่นวายจนลืมสำรวจตรวจสอบใจตัวเอง โดยชี้ให้เห็นว่าความสุขที่แท้จริงคือการอยู่กับใจปัจจุบัน ให้กลมกลืนกับธรรมชาติ แล้วจะเกิดความสมดุลในชีวิต เพราะแท้แล้วชีวิตกับธรรมชาติล้วนโอบเอื้อเป็นเนื้อเดียวกัน ผลงานหลายสำนวนอ่านแล้วทำให้ชีวิตมีความหวัง หากใครกำลังท้อแท้ หรือแม้แต่บางเรื่องที่เลวร้าย แต่เมื่อได้ตั้งสติตริตรองมองมุมบวก ไม่ยึดติด พอใจในสิ่งที่มี ในที่สุดก็สามารถพลิกปัญหาเป็นปัญญาเห็นแสงสว่างได้ไม่ยาก อีกประเด็นสำคัญในงานสร้างสรรค์เล่มนี้ คือการอยู่ร่วมในสังคมด้วยการพึ่งพาอาศัยกัน สิ่งดีงามเหล่านี้ปัจจุบันนับวันยิ่งห่างไกล ผู้เขียนได้ชวนมองโลกในแง่งาม ให้เห็นน้ำใจ ซึ่งมองเห็นได้ไม่ไกลจากความเป็นจริง เรื่องใกล้ตัวดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงมาสู่ใจมนุษย์ได้อย่างเป็นเอกภาพ โดยใช้ความเปรียบเทียบเคียงหรืออุปมาโวหารเห็นภาพแจ่มชัด ด้านสำนวนภาษาและกลวิธีเล่าเรื่อง ผู้เขียนนำเสนอในรูปแบบกลอนแปด มีความช่ำชองในเชิงฉันทลักษณ์ สัมผัสนอกลื่นไหล สัมผัสในอย่างมีจังหวะ ขณะที่บางสำนวนจงใจอวดภาษาวรรณศิลป์แพรวพราว บางบทประสมคำทำให้เกิดความแปลกใหม่ ไม่แปลกแยก แต่กลับมีเสน่ห์ สอดแทรกอารมณ์ขันด้วยมุกทันสมัย เล่นคำ-เล่นความไม่ล้นเกิน ด้วยคำง่าย ๆ มองง่าย ๆ ชวนให้ตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ที่มีอยู่ในตัวเอง ดังนั้น หนังสือรวมบทกวี ใจปัจจุบัน ของ ‘กุดจี่’ พรชัย แสนยะมูล จึงสมควรได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 2561