คง/กระ/พัน/ชาตรี
หลายชีวิต การดำรงอยู่ช่างเป็นเรื่องเรียบง่าย นับแต่ผ่านครรภ์มารดาจวบจนวันสุดท้ายของลมหายใจ ชีวิตราวลาดปูด้วยกลีบบุปผาแห่งความราบรื่น แต่สำหรับบางชีวิต แม้ปณิธานตั้งต้นจะปรารถนาเพียงความสามัญธรรมดา มุ่งประกอบสัมมาอาชีพ เปิดรับความสุขตามครรลองการครองเรือนไปตามอัตภาพโดยไม่ทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และสามารถยืนหยัดบนถนนแห่งความเป็นคนดีไปจนสุดทาง แต่ราวกับว่าพรง่าย ๆ ที่ร้องขอกลับได้รับการปฏิเสธโดยสิ้นเชิงจากชีวิตอย่างโหดร้าย ในนวนิยายเรื่อง คง/กระ/พัน/ชาตรี ของ ประชาคม ลุนาชัย “สถานการณ์ที่ไม่อาจขืนต้าน” ลากพาตัวละครทั้งสาม คือ คงธรรมหรือชาตรี กระ และพันรบ ระหกระเหินไปในเส้นทางที่มิอาจคาดเดา ไกลห่างลิบลับจากวิถีชีวิตในอุดมคติที่ตั้งไว้และใฝ่ฝันถึง จากบ้านสู่ป่า จากบกสู่ทะเล จากเมืองสู่ไร้เมือง จากการหยั่งลึกในรกรากสู่ความหวั่นไหวในวิถีแห่งผู้พเนจร “ความเป็นอื่น” จากการต้องเอาชีวิตรอดในอีกเส้นทางการเลือกของแต่ละตัวละคร นำพาผู้อ่านไปร่วมสัมผัสรูปแบบชีวิตที่แตกต่าง ห่างไกลการรับรู้ แต่ดำรงอยู่ร่วมสังคมเดียวกับเรา ในขณะที่ตัวละครเผชิญแรงบีบคั้นที่ชีวิตไล่ต้อนจนนำไปสู่การตั้งคำถาม และมองโลกด้วยสายตาฉงนฉงายและผิดแผกไปจากเดิม ผู้อ่านที่ร่วมรับรู้ชะตากรรมของตัวละครมาตั้งแต่ต้น ก็เข้าสู่กระบวนการตั้งคำถามและทบทวนเช่นกัน จุดจบและปลายทางของตัวละคร ทิ้งคำถามยาก ๆ ที่มิอาจตอบได้ทันที ไว้ให้ผู้อ่านได้ขบคิดว่า อะไรคือชีวิตที่ดี การเป็นเพียงคนดีและซื่อสัตย์ตามแบบฉบับเดิม ๆ เพียงพอแล้วหรือ ค่านิยมดีงามบางอย่างเช่น ความเป็นเพื่อนน้ำมิตรควรถนอมรักษาไว้อย่างไร ส่วนค่านิยมบางอย่างที่เคยเกื้อกูลการขัดเกลาความเป็นชายและตอกย้ำความหนักแน่นของสังคมนักเลง อย่างเช่นการรักศักดิ์ศรี และการไม่ยอมกัน ควรทบทวนและปรับเปลี่ยนหรือไม่ การไม่สู้คนซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความขี้ขลาด ใจเสาะ ปกป้องครอบครัวไม่ได้นั้น สอดคล้องกับคุณค่าอารยะแบบใหม่ที่เน้นการหันหน้าเข้าหากันด้วยอหิงสา และสันติวิธี ใช่หรือไม่ และโลกเก่าซึ่งกำลังเปลี่ยนผ่านสู่โลกใหม่ที่แวดล้อมด้วยคุณค่าแบบใหม่จะผสานกันให้ลงตัวได้อย่างไร เหนืออื่นใด “สาร” ที่ผู้เขียนส่งผ่านชีวิตผันผวนของตัวละครทั้งหมด นำผู้อ่านไปสัมผัสกับความกรุณาในหัวใจและความตระหนักรู้ว่า “ความจำเป็นในชีวิตนั่นเอง ที่เป็นยิ่งกว่านักฆ่าอำมหิต เมื่อถูกบีบคั้นจนรั้งสติไม่อยู่ การตัดสินใจเพียงชั่ววูบอาจส่งผลต่อชีวิตที่เหลือทั้งหมด” คณะกรรมการรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทนวนิยายจึงมีมติให้ “คง/กระ/พัน/ชาตรี” ของ ประชาคม ลุนาชัย เป็นนวนิยายที่สมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2557
ผีเสื้อที่บินข้ามบึง
“ผีเสื้อที่บินข้ามบึง” เป็นเรื่องราวของหญิงหม้ายที่ต้องปรับวิถีชีวิตใหม่หลังสูญเสียสามีที่รักไป ทั้งการจากเมืองหลวงกลับไปพำนักที่บ้านเกิด การพยายามปรับตัวให้เข้ากับแม่ผู้มีความคิดแตกต่าง การสร้างงานอาชีพใหม่ตามที่ใฝ่ฝัน และที่สำคัญ…การเผชิญกับความวูบไหวทางอารมณ์ที่เกือบจะดึงเธอให้เดินผิดทาง แต่ในที่สุดเธอก็สามารถก้าวข้ามความอ่อนแอทางจิตใจได้ แล้วเดินทางตามเส้นทางชีวิตที่เลือกแล้วต่อไป…เหมือนผีเสื้อที่สามารถบินข้ามบึง พะแพงเป็นม่ายสาววัยสามสิบที่ใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านอยู่ที่คีรีวงนาน 8 ปี เมื่อสูญเสียสามีไปตลอดกาล เธอก็เหมือนผีเสื้อที่บินเคว้งคว้าง ต้องพยายามเรียกตัวตนของเธอกลับคืนมาใหม่หลังจากเธอเปลี่ยนวิถีชีวิต เปลี่ยนกระบวนความคิด เปลี่ยนทุกอย่างเพื่อหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของคนที่รักที่สุด อย่างแรกคือการทำงานเพื่อเลี้ยงชีวิตตามลำพัง พะแพงย้ายขึ้นมาอยู่ในเมืองหลวง รับจ้างวาดภาพประกอบหนังสือ พิสูจน์อักษร และเป็นนักเขียน โชคดีที่พะแพงมีเพื่อนดี ๆ เธอจึงผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ สิ่งต่อมาที่พิสูจน์ความแข็งแกร่งของพะแพง คือการต่อสู้กับสายตาของสังคมที่ประเมินความเป็นแม่ม่ายวัยสาว โดยเฉพาะสายตาจากเพศชาย ตัวพะแพงเองก็มีคำถามกับการเป็นแม่ม่ายในอุดมคติที่จงรักสามีไปชั่วกาลนาน หรือจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ซึ่งเธอมีคำตอบให้ตัวเองว่า แม้จะรักสามีมากเท่าใด แต่เธอสามารถมีรักใหม่ได้อีก และจะมีรักเมื่อพบรัก ไม่ใช่เพราะเหงา อ่อนแอ หรือต้องการที่พึ่ง เมื่อไม่ปิดกั้นตัวเอง พะแพงจึงมีผู้ชายที่มีบุคลิกแตกต่างกันอีกหลายคนเข้ามาในชีวิต ทั้งพี่เกรียงผู้อบอุ่น หมอก้องหนุ่มหล่อนิสัยดี คชาผู้มีเสน่ห์ชวนค้นหา และนกหนุ่มน้อยใสซื่อ ทุกคนล้วนเป็นบททดสอบอารมณ์วูบไหวของพะแพง อุรุดา โควินท์ นำเสนอ “ผีเสื้อที่บินข้ามบึง” ด้วยบันทึกประจำวันของพะแพง ทำให้ผู้อ่านรับรู้ความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ของพะแพงผู้เป็นตัวละครเอกได้ชัดเจน ผู้เขียนให้ภาพของพะแพงเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกภาพภายนอกดูเป็นหญิงสาวผู้มั่นใจในตัวเอง แต่ภายในอ่อนไหวล้ำลึก พะแพงต้องผ่านช่วงยากลำบากในชีวิต ทั้งความสูญเสีย การเจ็บไข้ได้ป่วย สัมพันธภาพของคนในครอบครัว และความเปราะบางทางอารมณ์ ในที่สุดเธอตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิด เพื่อให้มีฐานที่มั่นคงอบอุ่น ก่อนชีวิตจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า นวนิยายชีวิตของพะแพงทิ้งค้างไว้ไม่มีบทจบโดยสมบูรณ์ว่าความฝันในการยึดอาชีพทำผ้าบาติกขายจะสำเร็จหรือไม่ และความรักครั้งใหม่ของเธอจะลงตัวและลงเอยกับหนุ่มรุ่นน้องได้จริงหรือเปล่า แต่นวนิยายเรื่องนี้ก็จบลงอย่างให้ผู้อ่านโล่งใจว่าในที่สุดผีเสื้อปีกบางก็บินข้ามบึงได้สำเร็จ คณะกรรมการรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดประเภทนวนิยายจึงมีมติให้ “ผีเสื้อที่บินข้ามบึง” ของ อุรุดา โควินท์ เป็นนวนิยายที่สมควรได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2557