ดวงตากวี
กวีนิพนธ์ชุด ดวงตากวี ของ รินศรัทธา กาญจนวตี เป็นงานฉันทลักษณ์สร้างสรรค์ ในรูปแบบกลอนสุภาพ เนื้อหาแบ่งเป็นสามภาค ภาคแรก ‘โลกภายใน : มองลึกเข้าไปในใจนั้น’ ภาคสอง ‘โลกภายนอก : มองออกไป ในความจริง ในความฝัน’ และ ภาคสาม ‘โลกของเรา : เธอบอกฉัน ฉันบอกเธอ’ ภาคแรก ‘โลกภายใน : มองลึกเข้าไปในใจนั้น’ กวีชี้ให้เห็นถึงคุณค่าหนังสือ ความ มหัศจรรย์ของการอ่านและพลังของบทกวี อีกด้านหนึ่งกวีได้กล่าวถึงการเขียนจากมุมของ ผู้บกพร่องทางสายตา แต่เขียนขึ้นจากความรู้สึก สัมผัสด้วยใจ… “บทกวีคือดวงตาข้าพเจ้า เส้น แสง เงา โค้ง ขอบ ประกอบสร้าง ภาพ เสียง คำ ทุกบทกำหนดวาง ลึก ไกล กว้าง เกินกว่าสายตามอง” ขณะเดียวกันกวีพาผู้อ่านย้อนรำลึกความทรงจำในวัยเยาว์อันบริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยจินตนาการ ทำให้เราเห็นภาพเหล่านั้นแจ่มชัด ตลอดจนกล่าวถึงความรักที่แม้ว่าถ่ายทอดด้วยลีลากลอน แต่ค่อนข้างเข้าถึงอารมณ์ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกและความงามทางวรรณศิลป์ได้ไม่ยาก… “หยาดน้ำค้างหยดค้างบนยอดหญ้า หยาดน้ำตาหยดต้องทั้งสองแก้ม หากแม้นดาวส่องจับแสงวับแวม คงแต่งแต้มภาพเลือนได้เหมือนใจ” ภาคสอง ‘โลกภายนอก : มองออกไป ในความจริง ในความฝัน’ ว่าด้วย ความเป็นไปของสังคม อุดมการณ์ การเมือง สงคราม ความมีน้ำใจ ความยิ่งใหญ่และ ความงามของธรรมชาติ รวมถึงบุคคลต้นแบบ เช่น นักคิด นักเขียน นักต่อสู้ นักอนุรักษ์ กวีสามารถสื่อออกมาได้ ประทับใจและสะเทือนใจ แม้บางสำนวนดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัว แต่มีมิติทางสังคมทับซ้อนอยู่เสมอ ภาคสาม ‘โลกของเรา : เธอบอกฉัน ฉันบอกเธอ’ ว่าด้วยความหวัง กำลังใจ รักศรัทธาต่อสิ่งต่าง ๆ ตลอดถึงคุณค่าความงามมวลพฤกษา ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ทั้งยังชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ใช้ชีวิตร่วมกัน มีมุมมองต่างกัน แต่ควรมองต่างอย่างมีศิลปะ ในด้านรูปแบบ กวีมีความช่ำชองในเชิงฉันทลักษณ์ เมื่อรวมกับเสน่ห์ในการใช้ สำนวนโวหาร มีจินตนาการและอารมณกวีที่ประณีต ทำใหเห็นความงามของ “ดวงตากวี” คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้รวมบทกวี “ดวงตากวี” ของ รินศรัทธา กาญจนวตี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๖๕
ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ
รวมบทกวี ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ กวีนิพนธ์ “จากฉัน…ผู้ไร้ดวงตา” ของ รินศรัทธา กาญจนวตี เป็นรวมบทกวีจำนวน 71 สำนวน ที่นำเสนอเรื่องราวประสบการณ์และความรู้สึก นึก คิดของหญิงสาวซึ่งต้องสูญเสียการมองเห็นกับความพยายามปรับตนเพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่กับความขาดพร่องด้วยศักดิ์ศรีและความมานะอดทน เธอจึงมีโลกใหม่ที่มองเห็นด้วยใจสู่ตัวตนใหม่ ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจทั้งของตัวเธอเองและผู้ทุกข์ยากอื่น ๆ ในสังคม เนื้อหาแบ่งเป็น 4 ตอน คือ ตอนที่หนึ่ง โลกอีกดวงของผู้ไร้ดวงตา เมื่อต้องเผชิญกับสภาวะไร้การเห็น การเขียนบทกวีเป็นพื้นที่ของการแสดงออกถึงประสบการณ์การเรียนรู้และเยียวยาตนเองทั้งสภาวะปัจจุบันและเรื่องราวในอดีตด้วยความเข้มแข็ง แม้สิ่งที่ขาดพร่อง หากเข้าใจและรู้จักที่จะ “มอง” อีกด้านหนึ่ง ก็กลายเป็นความเปี่ยมล้นด้วยคุณค่าและความรู้สึก เช่น ในบท “กราบแม่ในวันพ่อ” “เคยหวั่นไหววันที่ไม่มีพ่อ เพื่อนรุมล้อจนต้องแอบร้องไห้ หยาดน้ำตาหนึ่งหยดรดหัวใจ พ่อของหนูอยู่ไหน…อยู่ไหนกัน… ในที่สุดเธอได้ตระหนักว่า “ก้มกราบแม่ในวันที่ไม่มีพ่อ น้ำตาคลอแม่จูบแล้วลูบหัว หญิงคนหนึ่งรับผิดชอบทั้งครอบครัว รักของแม่คือรั้วล้อมหัวใจ วันนี้ลูกยึดถือ…แม่คือพ่อ พร้อมเดินต่อเพื่อมีชีวิตใหม่ รักของแม่ประเสริฐเทิดทูนไว้ เป็นหลักชัยเชิดชู…กราบบูชา” ตอนที่สอง ประจักษ์ค่าชีวิต (แม้มิดแสง) การเขียนบทกวีเป็นพื้นที่ใหม่ที่เธอเห็นไม่เพียงแต่คุณค่าตัวตนของเธอเองแต่ยังเห็นอกเห็นใจผู้ยากไร้อื่น ๆ เช่น คนยากคนจน ผู้ใช้แรงงาน แรงงานข้ามชาติแม้กระทั่งสุนัขจร ตอนที่สาม รู้สึก ความรัก ความเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับหญิงสาวทั่วไป อารมณ์ความรู้สึกด้านความรัก การจากพราก ความสูญเสียและเรื่องราวในอดีต ตอนที่สี่ ปัญญากระจ่างแจ้งด้วยความคิด ทบทวนการเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยซึ่งในชีวิตจริงในสังคมอาจต้องมาเริ่มเรียนรู้ใหม่และใคร่ครวญวิถีทางที่จะมุ่งเดินต่อไปในชีวิตโดยย้ำว่าในท่ามกลางสังคมที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนั้นทุกขณะต้องอย่าลืม “พินิจใจ” “จึงต้องใช้ใจนำสัมผัสรู้ เปิดประตูบานหนึ่งซึ่งถูกปิด แบ่งเวลาชั่วขณะวันละนิด เพื่อเพ่งพิศการบานออก…ของดอกไม้” ด้านศิลปะการประพันธ์ ผู้แต่งใช้กลอนสุภาพที่มีลีลาราบรื่น สัมผัสคล้องจอง ใช้คำง่าย สื่อความและอารมณ์ความรู้สึกได้ชัดเจน มีวรรคทองที่คมคายให้แง่คิด ดำเนินเรื่องราวได้กระชับ งดงามด้วยจินตภาพและอารมณ์สะเทือนใจ ที่ไม่เพียงมีคุณค่า น่าอ่าน แต่ยังให้กำลังใจผู้ที่ขาดพร่องอื่น ๆ หากมองจากอีกด้านหนึ่ง ทุกคนก็ยังคงมีความหวังและไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิตเช่นเธอ “โลกของฉันมืดยิ่งกว่าหลับตาสนิท แต่ดวงจิตฉันสว่างกระจ่างอยู่ และทุกวันฉันใช้หัวใจดู ยังต้องสู้และพร้อมไม่ยอมแพ้” ดังนั้น รวมบทกวี ทุกขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ ของ รินศรัทธา กาญจนวตี จึงสมควรได้รับรางวัลชนะเลิศ รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประเภทกวีนิพนธ์ ประจำปีพุทธศักราช 256