สุ(ข)นัขคอนโด
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของนักเขียนที่ “หวาดผวากับวิกฤติวัยกลางคน” ซึ่งผู้เล่าเรียกว่า “พ่อ” ในสไตล์การเขียนแนว I STORY เรื่องราวเริ่มจากการที่เขาไปซื้อลูกสุนัขพันธุ์ปั๊กจากตลาด อ.ต.ก. มาเลี้ยงในคอนโดมิเนียม โดยมิได้ศึกษาให้ดีว่าสุนัขพันธุ์นี้ขี้เหงาและติดคนเลี้ยง ไม่เหมาะสำหรับหรับการเลี้ยงไว้ในพื้นที่แคบ ๆ เช่น คอนโดฯ โดยทิ้งไว้ตามลำพัง ในตอนกลางวันเมื่อต้องออกไปทำงาน ทำให้ต้องไปหาซื้อสุนัขมาเลี้ยงเป็นเพื่อนอีกตัวหนึ่งเป็นสุนัขพันธุ์เฟรนช์บูลด๊อก ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของ “พ่อ” และหลานชายซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อาศัยอยู่ด้วยกันก็ต้องวุ่นวายกับการดูแลความเป็นอยู่ตั้งแต่การกินถึงการฝึกให้ขับถ่ายอย่างมีวินัยของสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวนี้ แต่เขาก็มีความสุขดี แม้จะต้องเป็นทุกข์บ้างบางครั้งเมื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักเจ็บไข้ได้ป่วย เรื่องราวคลี่คลายให้คนอ่านได้รับรู้ว่า “ผม” คือ ลูกสุนัขพันธุ์บีเกิลที่เขาเคยเลี้ยงและตายไปเมื่อสามปีก่อนหน้านี้ ผู้เขียนแสดงให้เห็นถึงชีวิตสมัยใหม่ของคนในเมืองใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ ซึ่งมีพื้นที่จำกัด รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเมื่อมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนเพราะผู้คนที่ต่างคนต่างอยู่เริ่มมีเรื่องของสัตว์เลี้ยงเป็นหัวข้อสนทนา คณะกรรมการตัดสินจึงมีความเห็นว่าหนังสือเล่มนี้สมควรเป็น “หนังสือแนะนำ”
ลูกยางกลางห้วย
จ้อยเด็กชายชาวใต้ เติบโตมาท่ามกลางสวนยางพารา ลำห้วยน้ำใส และป่าที่อุดมสมบูรณ์ จ้อยซุกซน สนุกสนานตามประสาเด็ก มีความสุขอยู่กับเพื่อน ๆ และญาติมิตรในหมู่บ้านที่แสนอบอุ่น จ้อยรักและผูกพันกับญาติมิตร เพื่อนบ้าน ป่าเขา และลำห้วย ด้วยร่างกายไม่แข็งแรง จึงช่วยงานสวยยางได้ไม่ดีเท่าพี่ชายและน้องชาย แตผลการเรียนดีเป็นที่ชื่นชมของครู แม่จึงส่งเสริมให้ไปเรียนต่อชั้นมัธยมฯ ในเมือง จ้อยจึงต้องตัดสินใจเลือกอนาคตของตนเองว่า จะอยู่บ้านเป็นลูกยางอยู่กลางห้วยต่อไป หรือจะไปเรียนต่อในเมือง ดั่งลูกยางที่ล่องลอยออกไปเติบโตในที่ที่เหมาะสม ผู้เขียนถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของตนเองในสมัยเด็ก โดยบอกเล่าเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ความเป็นอยู่ของผู้คนชาวสวนยางพารา และชาวเหมืองแร่ผ่านความรู้สึกนึกคิด และวิถีชีวิตของจ้อย หนังสือเล่มนี้จึงให้ทั้งความรู้ ข้อคิด และความเพลิดเพลินแก่ผู้อ่านอย่างเหมาะสม
เมื่อแม่ตื่น
เป็นสารคดีชีวิตที่เรียบง่าย เล่าถึงการกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดกับพ่อและแม่ ทว่าผู้เขียนสามารถทำความเรียบง่ายธรรมดานั้นให้สะเทือนใจได้ด้วยการเล่าถึงความผูกพันระหว่างลูกกับพ่อแม่พี่น้องในครอบครัวเดียวกัน จึงชวนคิด ชวนตั้งคำถามถึงวิถีชีวิตของผู้คนทั่วไปในปัจจุบันที่ผู้เขียนเป็นเสมือนภาพตัวแทน วิธีเล่าเรื่องมีชั้นเชิง ผ่านความงดงามของภาษาที่มาจากความรู้สึกภายในโดยแท้